บริษัท เมอร์เซเดส-เบนซ์ (ประเทศไทย) จำกัด เปิดตัวยนตรกรรมแห่งตำนานสปอร์ต โรดสเตอร์เจเนอเรชั่นที่ 6 “The new SL-Class” รุ่น SL 500 BlueEFFICIENCY Sports AMG Roadster หรูหราในสีพิเศษใหม่ล่าสุด cerrusite grey metallic SHAPE หรือเทาด้าน ด้วยรูปลักษณ์ใหม่ที่ผสมผสานความสวยงามหรูหราแบบสปอร์ตคูเป้บวกกับดีกรีความร้อนแรงปราดเปรียวของโรดสเตอร์เข้าไว้ด้วยกัน และยังเต็มไปด้วยความสนุกเพลิดเพลินในการขับขี่ตามแบบฉบับของเบนซ์ ภายใต้การออกแบบให้มีน้ำหนักเบาโดยใช้โครงสร้างแบบอะลูมิเนียมสอดคล้องกับสมญานาม “Super Light” พร้อมเพิ่มพลังในการขับเคลื่อนด้วยเครื่องยนต์ BlueDIRECT อันทรงพลังและประหยัดเชื้อเพลิงได้ดียิ่งขึ้น
The new SL-Class สานต่อตำนานความสำเร็จและการก้าวสู่โลกยานยนต์แห่งอนาคต โดยการใช้วัสดุอะลูมิเนียมมาทำเป็นโครงสร้างตัวถังรถเกือบทั้งคัน ทำให้มีน้ำหนักเบากว่ารุ่นก่อนหน้านี้ ส่งผลทำให้การขับขี่เป็นไปอย่างคล่องตัว ปราดเปรียว และนิ่มนวล รวมทั้งเผาผลาญเชื้อเพลิงอย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น นับเป็นคุณลักษณะที่ก้าวล้ำขึ้นไปอีกขั้น และถือได้ว่าเป็นการสร้างมาตรฐานใหม่ให้กับโรดสเตอร์ระดับพรีเมียม มีระดับ เหมาะสมอย่างยิ่งสำหรับผู้ที่ต้องการสิ่งที่ดีที่สุด
เบนซ์ SL 500 มาพร้อมกับเครื่องยนต์ BlueDIRECT V8 เทอร์โบคู่ 4,663 ซีซี. ที่ให้กำลังสูงสุดถึง 320 กิโลวัตต์ (435 แรงม้า) ซึ่งให้ขุมพลังมากกว่ารุ่นก่อนถึง 12% มีอัตราการสิ้นเปลืองน้ำมันเชื้อเพลิงลดลงถึง 22% พร้อมแรงบิดที่เพิ่มขึ้นจาก 530 นิวตัน-เมตร เป็น 700 นิวตัน-เมตร ซึ่งให้แรงบิดเพิ่มขึ้นกว่าเดิมถึง 32% ถ่ายทอดกำลังผ่านเกียร์อัตโนมัติเดินหน้าแบบ 7 จังหวะ 7G-TRONIC PLUS ซึ่งให้สมรรถนะการขับขี่อย่างดีเยี่ยม พร้อมเพิ่มความประหยัดด้วยฟังก์ชั่น ECO Start/Stop ซึ่งเป็นอุปกรณ์มาตรฐาน
ภายในออกแบบโดยผสานเค้าโครงที่มาดมั่นมีสไตล์เข้ากับความหรูหรา ด้วยวัสดุชั้นเลิศที่เต็มไปด้วยความประณีตในทุกรายละเอียด ทำให้เห็นถึงการตกแต่งภายในที่มีสไตล์และบุคลิกอันโดดเด่นตามแบบฉบับของโรดสเตอร์ พื้นที่ภายในห้องโดยสารกว้างขวางมากขึ้นกว่ารุ่นเดิม โดยมีความยาวตัวรถที่ 4,617 มม. เพิ่มขึ้น 50 มม. ความกว้างที่ 1,877 ม.ม.กว้างขึ้น 57 มม. เส้นสายภายในที่ตกแต่งด้วยลายไม้เชื่อมยาวจากคอนโซลกลางไปถึงแผงหน้าปัดต่อเนื่องจนไปถึงประตู พร้อมด้วยไฟเรืองแสงล้อมรอบห้องโดยสาร สามารถปรับได้ถึง 3 เฉดสี คือ สีขาว ส้มและแดง เพียงเลือกเปลี่ยนสีที่พวงมาลัยมัลติฟังก์ชั่น ซึ่งช่วยเพิ่มสุนทรียภาพแห่งการขับขี่ให้มากขึ้น นอกจากนั้นยังมีระบบมัลติมีเดีย COMAND Online ควบคุมการทำงานของอุปกรณ์ความบันเทิงต่างๆ รวมถึงการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ต เพื่อให้ความเพลิดเพลินและความรื่นรมย์ในขณะขับขี่
รูปลักษณ์ภายนอกสะท้อนถึงความหรูหรา สง่างาม ทันสมัย ในสไตล์สปอร์ต ที่ผสมผสานกับความคลาสสิกอันเป็นเอกลักษณ์โดดเด่นของตระกูล SL ตั้งแต่กระโปรงหน้าที่ยาวรับกับห้องโดยสารซึ่งอยู่ในตำแหน่งค่อนไปทางด้านหลัง พร้อมเสริมความงดงามสมบูรณ์แบบด้วยส่วนท้ายของรถที่กว้างและดูทรงพลัง บวกกับเส้นสายที่บรรจงรับกับทรวดทรงด้านข้างที่รังสรรค์ขึ้นอย่างประณีต ดูแข็งแกร่งทรงพลังแต่แฝงไว้ด้วยความสุขุม ต่อด้วยช่องระบายอากาศและครีบโครเมียมซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของรถรุ่นนี้ สอดรับกับกระจังหน้าแบบรถสปอร์ตคลาสสิกในสไตล์ร่วมสมัย อีกทั้งเพิ่มความโดดเด่นไม่เหมือนใคร
ส่วนชุดโคมไฟหน้าแบบไบซีนอน ที่ลาดเอียงดูปราดเปรียววางทอดยาวไปสู่ด้านข้างดูโดดเด่น ซึ่งมาพร้อมกับระบบส่องสว่างอัจฉริยะ โดยมีฟังก์ชั่นการส่องสว่างถึง 5 แบบ เพื่อปรับให้เหมาะกับลักษณะการขับขี่ในสภาพอากาศแบบต่างๆ เพื่อสร้างวิสัยทัศน์ที่สว่างชัดเจนยิ่งขึ้น พร้อมด้วยไฟเลี้ยวซ้าย-ขวาที่เด่นสะดุดตา และไฟ daytime สำหรับการขับขี่ในเวลากลางวันแบบ LED นอกจากนั้นยังโดดเด่นด้วยระบบเปิด-ปิดฝากระโปรงท้ายอัตโนมัติ เพียงยื่นปลายเท้าไปใต้กันชนหลัง และหลังคากระจกแบบ Panoramic Vario-roof เปิด-ปิดหลังคาโดยใช้เวลาเพียง 20 วินาที โดยมาพร้อมกับฟังก์ชั่นพิเศษ MAGIC SKY CONTROL ที่สามารถปรับระดับความเข้มของหลังคาเพียงปลายนิ้วสัมผัส เพื่อเปลี่ยนโฉมให้กลายเป็นโรดสเตอร์หรือคูเป้ได้ตามต้องการอย่างรวดเร็ว
เบนซ์ SL 500 BlueEFFICIENCY Sports AMG Roadster มาพร้อมกับชุดแต่ง AMG Sports package ราคาจำหน่าย 14.499 ล้านบาท