เดอะ เซนต์ รีจิส กรุงเทพฯ ขอมอบประสบการณ์แห่งความอร่อยของเมนูอาหารโดย 3-Michelin Star Chef Thomas Bühner พบกับเมนูพิเศษพร้อมเสิร์ฟทั้งมื้อกลางวัน มื้อค่ำ ภายใต้บรรยากาศที่หรูหราในสไตล์ห้องอาหารโจโจ ตั้งแต่วันที่พุธ 12 ถึงวันอาทิตย์ที่ 15 ธันวาคม 2561 และอิ่มอร่อยกับซันเดย์บรันช์แบบเอ็กซ์คลูซีฟ ณ ห้องอาหารวูว์ ในวันอาทิตย์ที่ 16 ธันวาคม 2561
เชฟโทมัสเป็นที่รู้จักอย่างกว้างขวางในฐานะพ่อครัวที่มีชื่อเสียงโด่งดังมากที่สุดแห่งหนึ่งของเยอรมนีมานานกว่า 20 ปี เคยร่วมงานและสร้างชื่อเสียงให้กับห้องอาหาร La Vie หนึ่งในห้องอาหารมิชลินระดับสามดาวชั้นนำของโลก ในเมืองออสนาบูร์ก (Osnabrück) ทางตะวันตกเฉียงเหนือของเยอรมนี เชฟโทมัสจะแสดงฝีมือการปรุงอาหารประจำท้องถิ่นอันยอดเยี่ยมอันเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวและทฤษฎีการทำอาหาร เชฟได้พัฒนารูปแบบการทำอาหารที่มีเอกลักษณ์และร่วมสมัยที่ไม่เหมือนใครในแบบ Modern three-dimensional aromatic cuisine คือรูปแบบหรือสไตล์การรังสรรค์อาหารแต่ละเมนูที่โดดเด่นด้วยการดีไซน์อาหารในรูปแบบสามมิติ มิติแรกคือรสธรรมชาติของวัตถุดิบต้นกำเนิดเเต่ละชนิด มิติที่สองอธิบายถึงวิธีการเตรียมอาหารและเทคนิคการปรุงอาหารด้วยอุณหภูมิต่ำเพื่อให้ได้รสชาติที่ดีที่สุด รวมถึงการจัดสมดุลของแต่ละเมนูไว้ได้อย่างลงตัว
ในมิติแรกเชฟโทมัสเชื่อว่า รสธรรมชาติอันไร้ซึ่งการปรุงแต่งของวัตถุดิบต้นกำเนิดเเต่ละชนิดนั้นเลิศรสที่สุด เขาเน้นการดึงความอร่อยที่มีอยู่เดิมของวัตถุดิบนั้นๆออกมาให้ได้ชิมและเข้าถึงในรสชาติอาหารแท้จริงได้อย่างดี จึงคัดเลือกวัตถุดิบพิถีพิถันมานำเสนอเมนูต่างๆ อาทิ ‘taste bomb’ คัดสรรเนื้อกวางมาเป็นส่วนผสมหลักผ่านกรรมวิธีการถนอมอาหารใช้อุณหภูมิต่ำเพื่อให้ได้รสชาติที่ดีที่สุดด้วย Vacuum evaporator เครื่องระเหยที่ทำงานในสภาวะสูญญากาศ เพื่อให้ได้รสชาติแท้ของเนื้อกวาง
มิติที่สองอธิบายถึงวิธีการเตรียมอาหารและเทคนิคแบบโมเดิร์น ด้วยเชฟหลงใหลในการปรุงอาหารแบบ “slow and low-temp cooking” การใช้อุณหภูมิต่ำผนวกกับสนใจในเทคนิคต่างๆ เช่น วิธีการเคี่ยวหรือวิธีการปรุงอาหารแบบซูวี แทนที่จะทอดเช่นฟิเล่ย์ปลา เชฟโทมัสเน้นการสร้างอารมณ์สุนทรียศาสตร์ในการปรุงอาหารซึ่งมีส่วนช่วยในการครีเอทเมนูที่ดีเยี่ยม และดึงกลิ่นหอมอโรมาของวัตถุดิบนั้นๆสู่จานอาหารแต่ละเมนู
มิติที่สาม เชฟโทมัสมุ่งเน้นการมอบประสบการณ์สำคัญของมื้ออาหารด้วยการจัดสมดุลของแต่ละเมนูไว้ได้อย่างลงตัวผ่านองค์ประกอบที่ความสอดคล้องกัน ส่วนองค์ประกอบที่แตกต่างจะชูจุดเด่น แต่ทั้งหมดนี้ได้สะท้อนความลงตัวที่สมบูรณ์อย่างเด่นชัด แต่ละเมนูของเชฟโทมัสมักสร้างความประทับใจ น่าตื่นตาตื่นใจด้วยความสวยงามของศิลปะการจัดวาง สีสันสดใสของวัตถุดิบที่เขาเลือก กลิ่นหอมน่ารับประทานและรสชาติที่น่าหลงใหล
สำหรับความพิเศษของเมนูมื้อค่ำ ที่รังสรรค์โดยเชฟโทมัส บูฮ์เนอร์ ในครั้งนี้ มีทั้งหมด 7 คอร์สสุดเอ็กซ์คลูซีฟเสิร์ฟควบคู่กับไวน์ชั้นยอด
อาทิ โฟมโยเกิร์ต บีทรูท และแอปเปิ้ล เสิร์ฟกับไข่ปลาคาเวียร์ (yoghurt foam, beetroot and apple, complimented by imperial caviar) เมนูปลาทูน่าโอโทโร่และปลาคอดเนื้อแน่นหวาน คอนซอมเม่ และหญ้าฝรั่น (Otoro tuna is then paired with wild cod, consommé and saffron) กุ้งคาร์ดินัลบนกัซปาโชมะม่วงในเปลือกหอย (a mango gazpacho is topped with deep-sea cardinal prawns and venus shell abalone) โฟมมันฝรั่ง เสิร์ฟกับไอศครีมเครื่องแกง (a potato foam is served with savory curry ice cream)เนื้อพิราบเอตูเฟ ฟัวกราส์ราดซอสฟักทอง มัสตาร์ดและดอกแดนดิไลอัน (étouffée pigeon and foie gras, which is married with the flavors of caramelized pumpkin juice, wild mustard and dandelion tips)เนื้อกวางนุ่มในน้ำสต็อกที่แปลกใหม่ซึ่งอุดมไปด้วยเนื้อครีมของกะหล่ำปลีและผักชีฝรั่ง (In a rich exotic stock, tender venison is matched with red cabbage cream and a celery cream) ปิดท้ายด้วยเมนูของหวาน เค้กซาวาแรงค์ รสช็อกโกแลต เสิร์ฟพร้อมกับเชอร์รี่ ไวน์อุ่น และพัฟควินัว (a sweet chocolate note, a liquid savarin of guanja lactée is served with cherries, mulled wine and puffed quinoa)
ห้องอาหารโจโจ ขอมอบความประทับใจแห่งมื้ออาหารพิเศษรังสรรค์โดยเชฟโทมัส สามารถเลือกเสิร์ฟควบคู่ไวน์ ด้วยราคาพิเศษดังนี้
ซันเดย์ บรันช์ ณ ห้องอาหารวูว์ ในวันอาทิตย์ที่ 16 ธันวาคม 2561 ตั้งแต่ 12:30 น. – 15.30 น. ราคา 2,850++บาท ต่อท่าน
มื้อกลางวัน และมื้อค่ำ พร้อมบริการไวน์รสเลิศ ณ ห้องอาหารโจโจ ตั้งแต่วันที่ 12 ถึง 15 ธันวาคม 2561 มื้อกลางเวลา 12:00 น. และมื้อค่ำเวลา 18.00 น.
• 2,900 บาท ++ ต่อท่านสำหรับ 4 คอร์สเมนูมื้อกลางวัน
• 4,700 บาท ++ ต่อท่านสำหรับ 4 คอร์สเมนูมื้อกลางวัน เสิร์ฟควบคู่กับไวน์
• 4,900 บาท ++ ต่อท่านสำหรับ 7 คอร์สเมนูมื้อค่ำ
• 7,700 บาท ++ ต่อท่านสำหรับ 7 คอร์สเมนูมื้อค่ำ เสิร์ฟควบคู่กับไวน์
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมและสำรองที่นั่ง กรุณาติดต่อ โทร 02-207-7777
หรืออีเมล์ fb.bangkok@stregishotels.com เยี่ยมชมเว็บไซต์ได้ที่ stregisbangkok.com
เกี่ยวกับเชฟเชฟโทมัส บูฮ์เนอร์
เชฟโทมัส เป็นที่รู้จักอย่างกว้างขวางในฐานะพ่อครัวที่มีชื่อเสียงโด่งดัง มากติดอันดับต้นๆในเยอรมันนี ที่สุดแห่งหนึ่งของเยอรมนีมานานกว่า 20 ปี
โทมัส เกิดใน Riesenbeck ประเทศเยอรมนี ได้คลุกคลีและใช้ชีวิตอันรื่นรมย์ในร้านอาหารที่ของปู่ย่าตายายตั้งแต่อายุยังน้อย หลังจากนั้นเขาได้รับการฝึกฝนจากสถานที่ต่างๆ เชฟสั่งสมประสบการณ์นับไม่ถ้วน ร่วมทีมกับ เชฟฮาราลด์ โวล์ฟาร์ท ในตำแหน่ง Chef de Partie แห่งห้องอาหารชวาร์ซวาลด์สทูเบอ เมืองบาเยรส์ บรอนน์ (Schwarzwaldstube, in Baiersbronn) และได้เลื่อนตำแหน่งขึ้นเป็นหัวหน้าเชฟใหญ่ ของห้องอาหาร La Table ในเมืองดอร์ทมุนด์ ในปี 1991 และอีกห้าปีต่อมา เชฟโทมัสได้รับรางวัลมิชลินหนึ่งดาวแรก และได้รับมิชลินสองดาวในปี 1998 และคว้ารางวัลเชฟดาวรุ่งประจำปี 2001 (Newcomer of the Year) และรางวัลเชฟยอดเยี่ยมแห่งปี 2006 (Chef of the Year) จากการจัดอันดับของสำนัก Gault & Millau ซึ่งทรงอิทธิพลสุดในวงการอาหารฝรั่งเศส ก่อตั้งในปี1965 โดยที่ทางคณะกรรมการจะต้องมีการทดสอบและให้คะแนนตามมาตรฐาน
ปี 2006 เชฟโทมัสได้ดำเนินกิจการห้องอาหาร La Vie หนึ่งในห้องอาหารมิชลินระดับสามดาวชั้นนำของโลก ใหญ่ที่สุดในเยอรมันนี ในเมืองออสนาบูร์ก (Osnabrück) ของเยอรมนี ที่มีชื่อเสียงมานานกว่า 12 ปี
ในปี 2009 เชฟบูฮ์เนอร์ ยังได้เป็น Grand Chef ของ Relais & Châteaux (เรอเลซ์ แอนด์ ชาโตว์) ซึ่งเป็นกลุ่มโรงแรม ร้านอาหาร และพ่อครัวชั้นนำที่ก่อตั้งมากว่าครึ่งศตวรรษ มีจุดมุ่งหมายเพื่อจะให้บริการที่เปี่ยมไปด้วยคุณภาพและมิตรภาพอันอบอุ่น และการทำให้ลูกค้าได้สัมผัสกับคำนิยามของคำว่าศิลปะแห่งการใช้ชีวิตและขณะที่ร่วมงานกับห้องอาหาร La Vie เขายังได้ร่วมเป็นสมาชิกของ Les Grandes Tables du Monde ในปี 2010 ร้านอาหารของเขาได้รับคะแนน 19 Gault Millau และครองมิชลินสามดาวเช่นเดียว ถือเป็นรางวัลสูงสุด ที่ได้รับคะแนนสูงสุดเทียบกับห้องอาหารอื่นใน German restaurant guides ในช่วงเวลานั้น
ในปี 2013 โทมัสยังได้การสนานนามว่า “Best Chef in Lower Saxony” (Gourmet Grand Prix / Großen Gourmet Preis) หลังจากห้องอาหาร La Vie ในเดือนกรกฎาคม 2018 เชฟโทมัสเตรียมโปรเจ็คใหม่ รวมถึงการโชว์ฝีมือการปรุงอาหารในประเทศต่าง
เกี่ยวกับเดอะ เซนต์ รีจิส กรุงเทพฯ
เปิดให้บริการตั้งแต่วันที่ 1 เมษายน 2554 เดอะ เซนต์ รีจิส กรุงเทพ สร้างสรรค์ผลงานอันยิ่งใหญ่และหรูหราด้วยแรงบันดาลใจจากนวัตรกรรมแห่งการเวลา เดอะ เซนต์ รีจิส กรุงเทพฯ ตั้งอยู่ ณ ถนนราชดำริ อยู่ใจกลางเมืองท่ามกลางอาคารสำนักงานของบริษัทระดับโลก ห้างสรรพสินค้าชั้นนำ และสวนลุมพินีอันร่มรื่นเขียวขจี ประกอบด้วย ห้องพัก 229 ห้อง รวมทั้งห้องสวีท 51 ห้อง และห้องชุดพักอาศัย 53 ห้อง พร้อมเซนต์ รีจิส บัทเลอร์ ที่คอยรับบริการแขกผู้มาเยือนทุกเวลาด้วยใจ ดื่มด่ำประสบการณ์กับห้องอาหารและบาร์ ห้องอาหาร วูว์ ที่นำเสนอความยอดเยี่ยมของอาหารนานาชาติประเภท กริลล์ ดื่มด่ำกับทัศนียภาพของกรุงเทพฯ โจโจ ต้อนรับนักชิมด้วยความอร่อยตามต้นตำรับอาหารอิตาเลียน เดอะ ดรอว์อิ้ง รูม ฉลองการจิบน้ำชายามบ่าย และ ดิแคนเตอร์ ดื่มด่ำ
ไปกับไวน์บาร์ เดอะ เซนต์ รีจิส กรุงเทพฯ ขอแนะนำ เอเลมิส สปา แห่งแรกในประเทศไทย และเป็นแบรนด์ที่โด่งดังมีผลิตภัณฑ์ดูแลผิวและทรีทเมนต์ที่ดีที่สุดจนเป็นที่ยอมรับ
นอกจากนี้ เดอะ เซนต์ รีจิส กรุงเทพฯ ได้รับรางวัลอันทรงเกียรติ ให้เป็น ‘โรงแรมสุดหรูแห่งใหม่ระดับโลก’ (Newcomer of The Year) จากนิตยสารท่องเที่ยวชั้นนำ ไฮด์อะเวย์ (Hideaways) นิตยสาร ไฮด์อะเวย์ เป็นนิตยสารท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงในประเทศ เยอรมัน ออสเตรีย สวิสเซอร์แลนด์ และ ลักแซมเบิร์ก โดยจัดพิมพ์ทั้งภาษาอังกฤษ และภาษาเยอรมัน ทั้งนี้นิตยสารยังวางให้บริการบนเครื่องบินชั้นหนึ่ง ของสายการบินลุฟท์ฮันซ่า ทั่วโลกและยังมีห้องรับรองวุฒิสภา รวมทั้งห้องรับรองผู้โดยสารของหลายสายการบินอื่นๆอีกมากมาย ในแต่ละปี นิตยสารไฮด์อะเวย์ จะจัดอันดับรางวัลและคัดสรรสำหรับ รางวัลโรงแรมแห่งใหม่ระดับโลก
เดอะ เรซิเดนเซส แอท เดอะ เซนต์ รีจิส กรุงเทพฯ ตั้งอยู่บนชั้น 25-45 ของอาคารเดอะเซนต์ รีจิส ประกอบด้วย ห้องชุด 53 ห้อง มีพื้นที่เริ่มต้นจากขนาด 320 ถึง 920 ตารางเมตร ซึ่งรวมห้องนอน 3-4 ห้อง ส่วนห้องดีลักซ์ เพ้นท์ เฮาส์ และห้อง ดูเพล็กซ์ เพ้นท์ เฮาส์ จะมีสระว่ายน้ำส่วนตัว เดอะ เรซิเดนเซส แอท เดอะ เซนต์ รีจิส กรุงเทพฯ ยังนำเสนอบริการและสิ่งอำนวยความสะดวกเช่นเดียวกับแขกของ เดอะ เซนต์ รีจิส กรุงเทพฯ
เกี่ยวกับเซนต์ รีจิส โฮเต็ล แอนด์ รีสอร์ท
ผสมผสานความคลาสสิคและความหรูหราเข้าด้วยกัน เซนต์ รีจิส โฮเต็ล แอนด์ รีสอร์ท ตั้งอยู่ในเมืองสำคัญกว่า 40 แห่งทั่วโลก มุ่งมั่นให้บริการที่เหนือระดับ ก่อตั้งโดย จอห์น เจคอบ แอสเตอร์ ที่ 4 ด้วยการเปิดตำนานเดอะ เซนต์ รีจิส แห่งแรก ณ มหานครนิวยอร์ก โดยมีชื่อเสียงเป็นหนึ่งในด้านความหรูหรายาวนานกว่าหนึ่งศตวรรษ ให้บริการเฉพาะบุคคลบนความประณีตสะท้อนเอกลักษณ์ของแบรนด์ สืบสานประเพณีปฏิบัติ นำเสนอบริการและมาตรฐานตามแบบฉบับตำนานเซนต์ รีจิส โดยแขกคนสำคัญทุกท่านจะได้รับการบริการจากบัทเลอร์ (Butler) อีกหนึ่งความภูมิใจของเซนต์ รีจิสที่คอยให้บริการตลอด 24 ชั่วโมง โดยภายในปี 2561 เซนต์ รีจิส โฮเต็ล แอนด์ รีสอร์ท มีแผนการขยายแบรนด์ไป ในทุกจุดหมายปลายทางสำคัญกว่า 50 แห่งทั่วโลก ข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับเซนต์ รีจิส โฮเต็ล แอนด์ รีสอร์ท กรุณาเข้าชมเว็บไซต์ได้ที่ stregis.com หรือ ติดต่อเซนต์รีจิสผ่านช่องทางต่างๆ Twitter Instagram และ Facebook
แผนกประชาสัมพันธ์:
โรงแรม เดอะ เซนต์ รีจิส กรุงเทพฯ
สุชนา ศศิวงศ์ภักดี จิตราวดี ตั้งตระกูล
ผู้อำนวยการฝ่ายสื่อสารการตลาด ผู้ช่วยผู้อำนวยการฝ่ายสื่อสารการตลาด
E: Suchana.sasivongbhakdi@stregis.com E: Jittrawadee.tangtrakul@stregis.com
T: +66 (0) 2 207 7737 T: +66 (0) 2 207 7799