“ระยะเวลาในการบ่มที่ยาวนานกว่า ไม่ได้บ่งบอกถึงคุณภาพของเหล้าที่เหนือกว่า
เพราะกาลเวลานั้นสามารถทำได้แค่เพียงเปลี่ยนเหล้าใหม่ให้เป็นเหล้าเก่า แต่ไม่อาจเปลี่ยนเหล้าชั้นเลวให้กลายเป็นเหล้าชั้นดีขึ้นมาได้”
นั่นคือสิ่งที่ แม็กซองค์ โกยเนียร์ ผู้อำนวยการ ประจำภูมิภาค เอเชีย แปซิฟิก,คามูส์ ไวน์ แอนด์สปิริต ตอบกับคนที่ถามเขาว่า เขาชอบบรั่นดีจากขวดไหนมากกว่ากัน โดยเปรียบเทียบระหว่างสองขวดที่มีระยะเวลาบ่มแตกต่างกัน
คำตอบของ แม็กซองค์ โกยเนียร์ ทำให้ดิฉันนึกถึงบรรดาสาวๆรอบตัว ที่บ่นเรื่องแฟนนิสัยไม่ดีของหล่อนมาตั้งแต่สาวยันแก่ ทำให้สรุปได้เหมือนกันว่า
“นอกจากกาลเวลาจะเปลี่ยนเหล้าใหม่ให้เป็นเหล้าเก่า กาลเวลายังเปลี่ยนผู้ชายหนุ่มที่เลวให้เป็นผู้ชายแก่ที่เลวได้อีกด้วย
ไม่ว่าเราจะทนเก็บคนเลวๆในชีวิตไว้ได้นานแค่ไหน ก็ไม่อาจคาดหวังว่ากาลเวลาจะเปลี่ยนให้เขากลายเป็นคนดีขึ้นมาได้ การที่เราทนอยู่กับของเลวได้นานๆ ไม่ได้บ่งบอกว่าเราเป็นผู้มีความอดทนสูง แต่บอกว่า เราเป็นคนรสนิยมไม่ดีต่างหาก”
แต่ในทางกลับกัน หากเป็นคอนยัคที่ทำมาจากองุ่นชั้นดี บ่มในถังไม้โอ๊คที่ดี และกระบวนการผลิตที่ดีเยี่ยม กาลเวลาก็จะช่วยเพิ่มคุณค่า เพราะอายุของการบ่มคอนยัค หากเป็นคอนยัคที่บ่มมานาน จะยิ่งเผยรสชาติที่ซับซ้อน และน่าอัศจรรย์ขึ้น ก่อให้เกิดรสสัมผัสที่สร้างแรงบันดาลใจได้มากมาย
แม้ใครจะบอกว่า แอลกอฮอล์ทำให้เซลล์สมองลดลง แต่การดื่มเครื่องดื่มรสชาติดีๆ สนทนาปราศรัยกับมิตรสหายที่ปราดเปรื่องและรุ่มรวยอารมณ์ขัน แวดล้อมผู้คนที่มีเรื่องราวน่าสนใจ ก็ช่วยเพิ่มรอยหยักในสมองและรอยยิ้มในหัวใจเป็นสิ่งทดแทนได้
เช่นเดียวกับงานสังสรรค์เมื่อค่ำคืนที่ผ่านมา ณ ร้านอาหารลีออง กรุงเทพฯ ซึ่งเป็น งานเปิดตัว 5 คอนยัคชั้นเลิศของแบรนด์ คามูส์ (CAMUS) ที่ได้ให้เกียรติ HiclassSociety.com ไปร่วมสัมผัสรสชาติพร้อมดื่มด่ำกับอาหารค่ำ สไตล์ฝรั่งเศส ณ ร้านอาหารลีออง กรุงเทพฯ ก็เปี่ยมด้วยความประทับใจที่น่าจดจำ และข้อมูลใหม่ๆที่น่าสนใจมาเล่าสู่กันฟัง
งานนี้จัดขึ้นในวาระที่ คามูส์ ไวน์ แอนด์ สปิริต แบรนด์ผู้ผลิตเครื่องดื่มชั้นนำสัญชาติฝรั่งเศส ซึ่งดำเนินธุรกิจแบบครอบครัว และเชี่ยวชาญด้านการผลิตคอนยัคมาตั้งแต่ปี ค.ศ. 1863 นำเสนอผลิตภัณฑ์เครื่องดื่มชั้นนำที่คว้ารางวัลอันทรงเกียรติมาแล้วมากมายสู่ตลาดเมืองไทย
โดยเจ้าภาพคือ อิตาเลเซีย ผู้จัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์ คอนยัค คามูส์ ในประเทศไทย เป็นผู้จัดงานครั้งนี้ขึ้นเพื่อให้สื่อมวลชนและแขกผู้มีเกียรติได้ร่วมลิ้มชิมรสของ 5 คอนยัคชั้นเลิศ แห่งคามูส์ ซึ่งทุกรุ่นเป็นสุดยอดเครื่องดื่มคอนยัคที่เคยคว้ารางวัลระดับโลกมาแล้วมากมาย ได้แก่
- คามูส์ บอร์เดอรีส์ วีเอสโอพี (CAMUS BORDERIES VSOP)
- คามูส์ บอร์เดอรีส์ เอ็กซ์โอ (CAMUS BORDERIES XO)
- คามูส์ เอ็กซ์โอ อิลิแกนซ์ (CAMUS XO ELEGANCE)
- คามูส์ เอ็กซ์ตร้า อิลิแกนซ์ (CAMUS EXTRA ELEGANCE)
- คามูส์ เอ็กซ์ตร้า ดาร์ก & อินเทนส์ (CAMUS EXTRA DARK & INTENSE)
บรรยากาศของงานเป็นไปอย่างอบอุ่นด้วยมิตรภาพ เริ่มต้นการต้อนรับก่อนเข้าสู่การชิมคอนยัคที่จับคู่กับอาหารด้วยการเสิร์ฟ บอร์เดอรีส์จิงเจอร์เอล (Borderies Ginger – Ale) ค็อกเทลที่มีรสชาติสดชื่น ให้กับแขกผู้มีเกียรติ และสื่อมวลชนที่มาร่วมงาน โดยคอนยัคแต่ละรุ่นก็จะไล่ลำดับมาตามเมนูอาหารค่ำในคอร์สที่ประกอบด้วย เมนูสลัดเพื่อสุขภาพ (Fresh Mozzarella and Tomatoes Salad with Balsamic Reduction) , เมนูออเดิร์ฟ (Grilled Asparagus Topped with Smoked Salmon, Poached Egg, and Hollandaise Sauce), เมนูอาหารจานหลักเป็ดกงฟีต์(Duck Confit with Red Curry infushed Cream Sauce), ซี่โครงแกะย่าง (Grilled Lamb Chopswith Red Curry infushed Cream Sauce) และปิดท้ายอย่างนุ่มนวลด้วย เมนูขนมหวาน ดาร์กช็อกโกแลต (Dark Chocolate Dessert)ที่อร่อยตามตำรับอันเลื่องลือของร้าน Lyon
Editors’s Note
คอนยัค ของแบรนด์ คามูส์ นั้น เขียนเป็นภาษาอังกฤษว่า CAMUS ไม่ได้เกี่ยวอะไรกับนักเขียนชื่อดัง Albert Camus (อัลแบร์ กามูส์) แต่มาจากชื่อของตระกูล คามูส์ ที่ทำไร่องุ่นอยู่ใน บอร์เดอรีส์ (Borderies) ซึ่งเป็นแหล่งกำเนิดไร่องุ่นสำหรับการผลิตคอนยัค ในฝรั่งเศส โดยตามกฎของ “Origine Controlée Cognac” (AOC) ที่จะแบ่งชนิดและเกรดของเหล้าองุ่นที่ผลิตได้ตามที่ตั้งทางภูมิศาสตร์ของไร่องุ่นอย่างเข้มงวดนั้น ถ้าไม่ใช่บรั่นดีที่ได้จากองุ่นซึ่งปลูกและผลิตในแคว้นคอนยัคแล้ว จะไปซี้ซั้วเรียกตัวเองว่าเป็น คอนยัคไม่ได้
ดังที่คนชอบดื่มคงรู้กันว่า คอนยัค ก็คือ บรั่นดี ชนิดหนึ่ง โดยวิธีการทำบรั่นดีก็เป็นขั้นตอนต่อจากการทำไวน์ ก็คือหลังจากหมักองุ่นจนเป็นไวน์แล้ว ก็เอามากลั่น เป็นบรั่นดี แต่ทั้งนี้ ก็ไม่ได้หมายความว่า บรั่นดี ทุกชนิดจะเป็น คอนยัค เพราะอย่างที่บอกข้างต้นคือ ต้องเป็นบรั่นดีที่ผลิตในแคว้นคอนยัคเท่านั้น และไม่ต้องสงสัยเลยว่า ราคาที่ดินในแคว้นเหล่านี้จะแพงยิ่งกว่าทอง เพราะใครๆก็ย่อมจะอยากได้ชื่อว่าเป็นผู้ผลิตสุราชั้นดีจากเขตควบคุม โดยขนาดพื้นที่ไร่องุ่นของแคว้น Cognac นี้ จัดว่ามีขนาดใหญ่เป็นอันดับสองของฝรั่งเศส รองจากเมือง Bordeaux ซึ่งเป็นเมืองหลวงของแคว้น Aquitaine
คอนยัคโดยหลักๆจะผลิตจากองุ่นพันธุ์แซง เอมีลียง (Saint-Émilion) คอนยัคจะบ่มทั้งในถังไม้โอ๊คเก่าและใหม่ โดยจะเปลี่ยนถ่ายจากถังใหม่สู่ถังเก่าเพื่อหมักบ่มต่อซึ่งจะได้กลิ่นและรสอันขึ้นอยู่กับชนิดของไม้ของถังที่นำมาใช้บ่ม ระยะเวลาบ่ม การบ่มอันยาวนานนี้จะทำให้คอนยัค มีความจรุงทั้งกลิ่นและรส รวมถึงมีแทนนิน (tannin) สูงที่ได้ไม้โอ๊ค
ระยะเวลาของขั้นตอนการบ่มนี้ ก็จะทำให้ได้คอนยัคชนิดต่างๆ ได้แก่
- VS (very superior) เป็นคอนยัคสามดาว ถือระดับธรรมดา มีอายุการบ่มไม่มากประมาณ 3-5 ปี
- VSOP (very special old pale)เป็นชนิดที่ดีขึ้นมาอีกระดับ จะมีสีที่เข้มกว่า ซึ่งอาจจะมีการเพิ่มสัญลักษณ์ตัวอักษรเพิ่มเข้าไปอีกเช่น F (fine) X (extra) จะมีอายุการหมักบ่มจากที่ประมาณ 7-10 ปี ซึ่งจะมีรสชาติที่สุขุม นุ่มนวล กลิ่นจรุง มากกว่าระดับสามดาว
- XO (extra old) มีอายุการหมักบ่มยาวนานพิเศษ ซึ่งอาจจะนานถึง 15-25 ปี
พื้นที่ในแคว้น COGNAC นี้ก็จะแบ่งเป็น 6 เขต ได้แก่ Grande Champagne, Petite Champagne, Borderies, Fins Bois, Bons Bois, และ Bois Ordinaires โดยวิธีแบ่งชื่อเรียกคอนยัคที่มาจากพื้นที่เหล่านี้เรียกได้หลายวิธีเช่น ‘cru’ หรือ ‘region growth’ แต่คนที่รู้เรื่องคอนยัคจะใช้คำว่า terroir (แตรัว) ใครที่อยากพูดจาให้เหมือนคนมีความรู้ดีเรื่องเหล้า ก็หัดพูดไว้นะคะ … แต-รัว เวลาถามว่า คอนยัคนี้ มาจาก terroir (แตรัว) ไหน จะฟังดูเก๋กว่า และสำหรับ Borderies ที่ผลิตคอนยัคยี่ห้อ CAMUS ก็เป็น terroir สำคัญหนึ่งในหกของแคว้น COGNAC นี้นั่นเอง ใครอยากรู้ว่าอยู่ตรงไหน ก็ดูตำแหน่งในแผนที่ข้างล่างได้
คุณ แม็กซองค์ โกยเนียร์ ผู้อำนวยการประจำภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก คามูส์ ไวน์ แอนด์ สปิริต ให้เกียรติเข้าร่วมในกิจกรรมครั้งนี้เพื่อนำเสนอข้อมูลเกี่ยวกับรสชาติอันเป็นเอกลักษณ์ของเครื่องดื่มคอนยัคแต่ละรุ่นว่า
“ภารกิจของเรา คือ การผลิตและจัดจำหน่ายคอนยัคที่ดีที่สุดในโลก ด้วยประสบการณ์ที่สั่งสมมากว่า 150 ปี ในการมอบคุณภาพที่เป็นเลิศแก่นักดื่มทั่วโลก จุดประสงค์ของการจัดงานในครั้งนี้ คือการนำเสนอความหลากหลายในรสชาติของคอนยัคที่เราผลิต และต้องการให้เป็นที่รู้จักในหมู่นักดื่มที่อยากสัมผัสรสชาติอันละเมียดละไมแห่งแบรนด์คามูส์ โดยจะแสดงให้เห็นถึงความแตกต่างและรสชาติที่โดดเด่นอย่างน่าอัศจรรย์ของคอนยัคแต่ละรุ่นของเรา”
บอร์เดอรีส์ (Borderies) แหล่งกำเนิดไร่องุ่นสำหรับการผลิตคอนยัค มีชื่อเสียงจากเครื่องดื่มบรั่นดีที่ให้กลิ่นหอมเข้มข้น คามูส์ คือ นามสกุลของตระกูลดังเจ้าของที่ดินรายใหญ่ที่สุดในเขตบอร์เดอรีส์ ซึ่งครอบครองพื้นที่การผลิตคอนยัคอยู่ประมาณ 5 % ในปัจจุบัน บรั่นดีในตระกูลคามูส์ บอร์เดอรีส์ มีการกลั่นและบ่มในถังไม้แยกแต่ละรุ่น โดยมีผลิตภัณฑ์ที่ภาคภูมิใจออกมาเป็นรูปแบบที่ให้กลิ่นรสต่างกันอย่างมีเอกลักษณ์ ได้แก่
- รุ่นบอร์เดอรีส์ วีเอสโอพี ให้กลิ่นหอมของวานิลลา และเปลือกส้ม เจือด้วยรสหวานหอมกลิ่นดอกไม้
- รุ่นบอร์เดอรีส์ เอ็กซ์โอ โดดเด่นด้วยกลิ่นหอมของเนยที่เข้มข้น หรูหราและนุ่มนวล เคล้ากลิ่นหอมของผลไม้และดอกไม้ พร้อมรสชาติของเครื่องเทศที่ผสมผสานกันอย่างลงตัว
- รุ่นเอ็กซ์โอ เอเลแกนซ์ มอบความสมดุลของรสชาติด้วยกลิ่นของพลัม เฮเซลนัท และชะเอมได้อย่างกลมกล่อม
- รุ่นเอ็กซ์ตร้า อิลิแกนซ์ มอบสัมผัสที่สลับซับซ้อนของขนมอบ พร้อมกลิ่นอ่อนๆของดอกไวโอเล็ต และวอลนัท
- รุ่นเอ็กซ์ตร้า ดาร์ก & อินเทนส์ มอบความเข้มข้นของครีมมี่ ตามด้วยความหอมของเนยพร้อมกลิ่นของความเผ็ดร้อนแบบเจือจางจากดาร์คช็อคโกแลต
สำหรับเคล็ดลับการดื่มคอนยัค แห่งคามูส์ ให้อร่อย สามารถดื่มได้หลากหลายวิธี ไม่ว่าจะเป็น การดื่มแบบไม่ใส่ส่วนผสมใดๆ เลย การดื่มควบคู่ไปกับน้ำแข็ง การดื่มผสมกับโซดา จะทำให้ได้รสสัมผัสที่แตกต่าง กัน แต่ทั้งหมดนี้คุณจะได้รสสัมผัสแห่งความสดชื่น ความกระปรี้กระเปร่า และความละมุนละไม จากความเข้มข้นของคอนยัคชั้นเลิศอย่างที่ไม่เคยพบที่ไหนมาก่อน โดยเฉพาะคอนยัคที่มาจากเขตบอร์เดอรีส์ หรือหากคุณเป็นคนที่รักการดื่มไปพร้อมการรับประทานอาหาร ก็สามารถทำทั้ง 2 กิจกรรมนี้ควบคู่ไปด้วยกันได้ ซึ่งจะช่วยให้คุณรับรสชาติแห่งความหวาน และความเผ็ดอ่อนๆ ของคอนยัคบางส่วนได้ดีขึ้น
โดยคุณสามารถเลือกดื่มในช่วงเวลาใดก็ได้ เนื่องจากเวลาไม่มีผลต่อการทำให้รสชาติของคอนยัคเสียแต่อย่างใด แต่สิ่งที่สำคัญคือ การเลือกใช้แก้วที่เหมาะสมกับการดื่มคอนยัคต่างหากที่มีผล ควรเลือกใช้แก้วทรงทิวลิป (Tulip shaped) ในการดื่มคอนยัค เพราะจะช่วยเผยให้รสชาติ และกลิ่นหอมของผลไม้และดอกไม้ ของคอนยัคออกมาได้ชัดเจนขึ้น
ส่วนเคล็ดลับการเลือกซื้อ คามูส์ คอนยัค จะต้องดูที่มา และแหล่งผลิต หากมาจากเขตไร่องุ่นบอร์เดอรีส์ ประจำตระกูลคามูส์ ซึ่งเป็นแหล่งวัตถุดิบหายาก และเป็นแหล่งที่มีชื่อเสียงที่สุดในการผลิตคอนยัค จะทำให้ได้รสชาติที่โดดเด่น และเป็นเอกลักษณ์ เข้มข้น และอบอวลไปด้วยความหอมละมุนจากกลิ่นของดอกไม้ และผลไม้ ซึ่งเป็นความรู้สึกที่ไม่สามารถหาได้จากคอนยัคทั่วไป รวมถึงดูอายุของการบ่มคอนยัค หากเป็นคอนยัคที่บ่มมานาน จะยิ่งเผยรสชาติที่ซับซ้อน และน่าอัศจรรย์ขึ้น
ในงานนี้ผู้บริหารหนุ่มหล่อตลอดกาล จักรกฤต เบเนเดทตี้ กรรมการผู้จัดการ บริษัท อิตาเลเซีย เทรดดิ้ง (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า
“ความต้องการเครื่องดื่มคอนยัคชั้นดีในประเทศไทยกำลังเพิ่มสูงขึ้น นักดื่มคอนยัคในประเทศไทยมีจำนวนเพิ่มมากขึ้น ซึ่งล้วนแต่ชื่นชอบในแบรนด์ เฮาส์ ออฟ คามูส์ เนื่องจากเป็นหนึ่งในแบรนด์ผู้ผลิตคอนยัคชั้นนำของโลก โดยผลิตภัณฑ์เครื่องดื่มทุกแบรนด์ที่เรานำเสนอในงานนี้ล้วนมีวางจำหน่ายแล้วในประเทศไทย ทั้งได้รับเกียรติจากแบรนด์คามูส์มาจัดแสดงเครื่องดื่มคอนยัครุ่นต่าง ๆ ถือเป็นโอกาสอันดีในการนำเสนอรสชาติที่เข้มข้นชั้นเลิศ รวมถึงแบรนด์ใหม่ ๆ ให้เป็นที่รู้จักในหมู่นักดื่มคอนยัคชาวไทย ซึ่งเป็นกลุ่มผู้บริโภคที่ต้องการสัมผัสกับรสชาติที่เข้มข้น แรงและล้ำลึกของคอนยัคคามูส์”
ผู้ที่ปรารถนาประสบการณ์แห่งสุนทรียรสจาก CAMUS COGNAC สามารถสัมผัสความหอมของคอนยัคชั้นเลิศได้แล้วที่ห้างสรรพสินค้าชั้นนำทั่วไป
และสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ 02 261 7990
http://www.italasiagroup.com/home
Reported by: Editor@HiclassSociety.com
References: https://blog.cognac-expert.com
Special Thanks: Thawatchai Teppitak - ThawatchaiGuru.com