ธนา เตรัตนชัย Genius for life

ด้วยลักษณะนิสัยถ่อมตนโดยเฉพาะในสังคมไทยจึงทำให้คนเก่งที่จะถูกขนานนามว่าเป็นอัจฉริยะนั้นจะต้องสร้างผลงานอันยิ่งใหญ่เกินความสามารถของคนทั่วไปในสังคมหรือเป็นเจ้าของรางวัลระดับนานาชาติ แต่หลังจากรายการโทรทัศน์หนึ่งนำเอาคนเก่งในหลายสาขาอาชีพมาเล่นเกมผ่านบททดสอบสติปัญญาและอารมณ์ ทำให้บุคคลซึ่งเป็นอัจฉริยะในสายตาคน(ไทย)ทั่วไปก็กลายเป็นแค่คนธรรมดาขณะที่ม้านอกสายตากลับกลายเป็นผู้ที่มีตำแหน่งอัจฉริยะข้ามคืนติดตัวกลับบ้านพร้อมคว้าเงินรางวัล 1 ล้านบาทไปครอง ผู้ชมอาจจะมองว่าคนชนะคือคนเก่ง แต่จากทฤษฎีพหุปัญญา เมื่อความเป็นอัจฉริยะภาพมีหลายส่วนประกอบกันด้วยการฝึกฝนให้มีความสามารถอันหลากหลายไม่ปิดตัวเองจำกัดอยู่กับด้านใดด้านหนึ่งคือการค้นพบตัวเอง

การได้รู้จักแง่มุมชีวิตอันหลากหลายของอัจฉริยะข้ามคืนคนที่ 20 ผู้ชายที่วนิษา เรซ ผู้เขียนหนังสือ” “อัจฉริยะสร้างได้”จัดอันดับให้เป็นผู้มีอัจฉริยะภาพด้านดนตรีและจังหวะ 1 ในอัจฉริยภาพ 8 ด้านเพื่อก้าวสู่ความเป็นอัจฉริยะคืออีกหนึ่งตัวอย่างของการใช้ชีวิตอย่างชาญฉลาด

หลายคนอาจคุ้นตาเพราะเคยชมวิธีการถอดรหัสปริศนาและความเป็นสุภาพบุรุษในการเกมแข่งขันหามรุ่งหามค่ำดังกล่าว หลายคนอาจจะคุ้นหูกับเสียงร้องในเพลงเติ่ง ไต้ เจอะ หนี่ เพลงประกอบภาพยนตร์ปิดเทอมใหญ่หัวใจว่าวุ่นแต่ไม่ทราบว่าเจ้าของเสียงร้องประหนึ่งศิลปินไต้หวันนั้นคือชายวัย 35 ปี ที่ใบหน้าอ่อนกว่าวัยไม่สัมพันธ์กับอายุ ธนา เตรัตนชัย ผู้อำนวยการฝ่ายอะไหล่เครื่องกำเนิดไฟฟ้าภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก บริษัท จีอี เอนเนอร์จี หนึ่งในเครือข่ายธุรกิจยักษ์ใหญ่ระดับโลก

“ขอบเขตความรับผิดชอบของงานก็คือดูแลการประกอบการของธุรกิจอะไหล่ทั้งหมดของโรงไฟฟ้าในภูมิภาคนี้ตั้งแต่ด้านส่งเสริมการขาย การจัดส่ง บริหารการสั่งซื้อ บริหารลูกค้า ฯ โดยโรงงานไฟฟ้าที่ก่อสร้างในภูมิภาคนี้ทั่วทั้งเอเชียรวมถึงออสเตรเลียและนิวซีแลนด์หากเป็นลูกค้าของจีอีฯ ก็จะประสานงานผ่านทางเรา

“แผนกนี้จะมีทีมงานรองจากผมอยู่เมืองไทยคนเดียวที่เหลืออีกสิบคนกระจายอยู่ประเทศต่างๆ เช่น ญี่ปุ่น 3 คน จีน 2 คน อินโดนีเซีย มาเลเซีย ไต้หวัน เกาหลี ออสเตรเลียประเทศละ 1 คน จึงต้องใช้เทคนิคการบริหารที่ต่างออกไปเพราะว่าไม่ได้เจอหน้าพวกเขาและต่างก็อยู่กระจัดกระจายต่างเป็นเอกเทศฉะนั้นการเลือกลูกน้องก็ต้องเลือกคนที่ Self motivated คือต้องผลักดันตัวเองได้เพราะการนั่งทำงานอยู่คนเดียวนานๆ อาจทำให้เฉาได้ ถ้าผมมีโอกาสเดินทางเพื่อไปหาลูกค้าก็จะได้เจอลูกน้อง แต่ส่วนใหญ่เป็นการประชุมทางโทรศัพท์หรือประชุมแยกแต่ละสาขารวมถึงประชุมร่วมกับทีมโรงงานฝ่ายโลจิสติกส์ที่ฮังการีและทีมบริหารของสำนักงานใหญ่ที่แอตแลนตาซึ่งเยอะมากในรอบเวลาของแต่ละวันตั้งแต่เช้าตรู่จนดึกก็มีโดยไม่เห็นหน้ากันนี่คือสิ่งที่ท้าทาย”

เป็นการเติบโตในหน้าที่การงานอย่างต่อเนื่องนับตั้งแต่เรียนจบเอ็มบีเอจากมหาวิทยาลัยนอทเทรอเดม สหรัฐอเมริกา โดยใช้เวลาเกือบเจ็ดปีพิสูจน์ตนเองด้วยความสามารถและความมุ่งมั่นทำงานในบริษัท จีอี เอนเนอร์จี ในสหรัฐอเมริกาไต้เต้าจากตำแหน่งเล็กๆ ขึ้นมากระทั่งวันเวลาผ่านไปชะตาชีวิตนำพาเขากลับสู่แผ่นดินเกิดเมื่อสำนักงานใหญ่ต้องการเปิดสำนักงานประจำภูมิภาคขึ้นที่กรุงเทพฯ

“เมื่อเรามีลูกน้องหลายคนด้วยความที่เราสนใจทางด้านจิตใจและใส่ใจความรู้สึกว่าคนอื่นคิดอย่างไรทำไมคิดเช่นนี้พอเริ่มบริหารทีมจึงนำจุดแข็งของเราคือการให้กำลังใจลูกน้องต้องทำให้เมื่อเดินเข้าออฟฟิศมาแล้วเขารักงานรักตัวเองมากขึ้นนี่คือพื้นฐานสำคัญของคนที่ทำงานตื่นเช้าขึ้นมาแล้วไม่รู้สึกอยากทำงาน

“ตอนขึ้นเป็นหัวหน้าทีมมีสมาชิกส่วนหนึ่งที่มีความรู้สึกนี้หายไปแต่ภายในเวลาไม่กี่เดือนเจ้านายซึ่งประจำอยู่ภูมิภาคนี้บอกว่าค่อนข้างประทับใจภายในเวลาอันสั้นเราเดินเข้ามาในทีมที่กำลังระส่ำระสายทำให้ทุกคนมีกำลังใจทำงานพร้อมกับการที่พวกเขาแฮปปี้ในการทำงานมากๆ เมื่อเขาพร้อมก็จะใช้ความสามารถและเกิดการเรียนรู้พัฒนาต่อไป ผมบริหารด้วยการเชื่อมโยงลูกน้องทำความเข้าใจกับปัญหาของเขา”

นอกเหนือจากได้กลับบ้านเกิดแล้วด้วยความบังเอิญมีโอกาสช่วยเพื่อนสนิทถอดรหัสปริศนาที่ไปแข่งในเกมนั้นได้ชักนำให้กลายเป็นหนึ่งในสมาชิกชมรมอัจฉริยะข้ามคืนในเวลาต่อมา พร้อมกับได้มีโอกาสกลับมาร้องเพลงซึ่งเป็นอีกหนึ่งงานที่ตนเองรักซึ่งทำมาตั้งแต่เป็นนักร้องในวงดนตรีซี.ยู.แบนด์กระทั่งเรียนจบปริญญาตรีการตลาดระหว่างประเทศ

“สำหรับงานร้องเพลงหลังจากเรียนจบก็มีงานเข้ามาบ้างโดยร้องเพลงประกอบละครบ้าง งานชิ้นสุดท้ายก่อนไปเรียนต่อก็คือร้องเดี่ยวเพลงทะเลใจซึ่งเรียบเรียงเสียงประสานใหม่ในอัลบั้มครบรอบ 15 ปีคาราบาว ห่างหายจากเมืองไทยไปเกือบสิบปีกลับมาร้องเพลงอีกครั้งก็เพราะเพื่อนสนิทในวงการแนะนำประกอบกับผมเคยไปเรียนภาษาจีนที่ไต้หวันจึงทำให้มีพื้นฐานในการร้องเพลงนั้นได้ ตอนไปดูในรอบสื่อมวลชนสิ่งที่ดีใจก็คือคนดูไม่ได้รู้สึกว่าเพลงกระตุกความรู้สึกจากหนัง ส่วนที่ชอบใจอีกอย่างคือคนฟังไม่รู้ว่าแปลว่าอะไรแต่รู้สึกได้ว่ามันเศร้าจัง นี่คือเราสื่อสารด้วยเพลง ทางโปรดิวเซอร์แซวว่าเราน่าจะเจอกันเมื่อสิบปีที่แล้วนะ (หัวเราะ)

“ผมคงไม่ใช่อัจฉริยะทางด้านดนตรีแบบโมสาร์ท และผมก็ไม่ใช่โก้-มิสเตอร์แซ็กแมน แต่ก็เป็นอย่างหนึ่งที่บอกว่าคนเราก็มีความสามารถได้รอบตัวคนที่ออฟฟิศเขาไม่รู้ว่าผมร้องเพลงได้พอรู้ว่าผมไปร้องเพลงประกอบภาพยนตร์ก็ประหลาดใจ คนเราไม่จำเป็นต้องจำกัดตัวเองว่าเราทำอะไรได้หรือทำอะไรไม่ได้ อนาคตผมก็ไม่จำกัดตัวเองเหมือนกันถ้าร้องเพลงเป็นอีกอาชีพได้ถ้าผมชอมผมก็ทำขอให้มีเวลา จังหวะ และโอกาส”

“กับชีวิตหลังจากการเล่มเกมในรายการโทรทัศน์ผมรู้สึกว่าผมก็เป็นอัจฉริยะจากเกมเท่านั้นเองไม่มีอะไรเปลี่ยนไปเลยก่อนและหลังก็คือตัวเราเดินผ่านเข้าไปและผ่านออกมา ตอนเด็กๆ ชอบเล่นคำถามปัญหาเชาวน์ การแกะรหัสปริศนา หลังจากไปแข่งเกมผมก็ยังช่วยคิดคำถามที่แปรเป็นตัวเลขให้กับทีมงานของรายการเหมือนกัน ตอนที่ไปแข่งรายการนี้ก็ไม่ได้หวังว่าจะชนะผมจึงตัดเรื่องชัยชนะทิ้งไปคิดว่าไปเล่นเกมเป็นประสบการณ์ที่ดีพร้อมกับได้เพื่อนดีๆ มาอีกหลายคน”

สิ่งที่ตอกย้ำความฉลาดในการชีวิตของชายคนนี้และทำให้รู้สึกดีที่ได้รู้จักเขาก็คือเงินรางวัล 1 ล้านบาทได้รับมาภายในคืนกว่าๆ นั้นเกือบครึ่งจัดสรรให้กับการแบ่งปันส่วนหนึ่งให้กับมูลนิธิเด็กตามที่ประกาศไว้ในรายการและมอบให้คุณพ่อคุณแม่และน้องชายอย่างละเท่าๆ กัน ที่เหลือถูกเก็บเอาไว้นับเป็นการให้ที่มีสุขทั้งต่อตัวผู้ให้และมีประโยชน์ต่อผู้รับ

“พระพุทธเจ้าสอนว่าของที่เป็นของเราคือของที่เราให้ไปเท่านั้น นึกถึงเมื่อไหร่เราก็เคยให้ไปนั่นคือสิ่งที่ยังจดจำได้ สิ่งหนึ่งที่ผมอยากเห็นมากๆ คือการที่คนเราไม่ยึดติดกับวัตถุซึ่งเป็นสิ่งที่เปลี่ยนแปลงไปเร็วมากในสังคมไทย ผมอยากเห็นเด็กไทยที่โตขึ้นมาเข้าใจว่าชีวิตไม่ได้เติมเต็มด้วยวัตถุ”

ที่มา : นิตยสาร HI-CLASS-268 ข้อเขียนนี้ เป็นลิขสิทธิ์ของนิตยสาร  HI-CLASS ห้ามนำไปลอกเลียน ทำซ้ำ หรือ ดัดแปลง โดยไม่ได้รับอนุญาตผู้ละเมิดลิขสิทธิ์จะต้องถูกดำเนินคดีตามกฏหมาย

 

 

profiler01

Related contents:

You may also like...