เมื่อพูดถึงรถมอเตอร์ไซค์ ไบค์เกอร์หลายๆ คนจะนึกถึงรูปทรงของรถ เสียงของเครื่องยนต์ที่ดังผ่านท่อ หรือแม้แต่แอสเซสเซอร์รี่ที่แต่งให้รถดูหล่อมากขึ้น แต่อีกส่วนหนึ่งที่สำคัญไม่แพ้กันและเป็นสิ่งที่ช่วยเสริมลุคให้ดูเท่ คงหนีไม่พ้นแฟชั่นการแต่งกาย โดยเฉพาะสไตล์เดนิมที่ยิ่งทำให้หล่อสุดๆ เมื่ออยู่บนมอเตอร์ไซค์คันโปรดสไตล์คลาสสิค…รอยัล เอนฟิลด์ ผู้นำตลาดรถมอเตอร์ไซค์คลาสสิคขนาดกลางสายพันธุ์อังกฤษระดับโลก ร่วมมือกับ Denim Bro กลุ่มคนรักยีนส์ จัดงาน Blue Bloods เพื่อเปิดโอกาสให้ แฟนพันธุ์แท้ผู้มีใจรักในแฟชั่นยีนส์ตัวจริงได้ mix and match เสื้อผ้าสไตล์เดนิมกับมอเตอร์ไซค์จาก รอยัล เอนฟิลด์เป็นครั้งแรกในประเทศไทย พร้อมเผยเคล็ดลับการแต่งกายด้วยแฟชั่นสไตล์เดนิมให้ดูหล่อ เท่ และคูลล์ ให้ไบค์เกอร์สายคลาสสิคได้เสริมหล่อก่อนออกไปบิดมอเตอร์ไซค์คลาสสิคคันโปรดอวดสาว
กางเกง
การใส่กางเกงยีนส์ขับมอเตอร์ไซค์ สามารถช่วยปกป้องร่างกายจากอุบัติเหตุได้ในระดับหนึ่งอยู่แล้ว แต่จะแต่งอย่างไรเพื่อให้ match กันกับมอเตอร์ไซค์สไตล์คลาสสิคนั้น Denim Bro แนะนำว่า กางเกงยีนส์ผ้าหนาแบบ Heavy weight น้ำหนักตั้งแต่ 18 ออนซ์ขึ้นไป ทรงกระบอกตรงหรือกระบอกใหญ่จะช่วยเพิ่มความทะมัดทะแมงและความปลอดภัยในการขับขี่มากขึ้น อีกทั้งยังช่วยรองรับรองเท้าบูทที่หุ้มขึ้นมาบนข้อเท้า สำหรับสีของยีนส์ ควรเลือกใส่กางเกงยีนส์ผ้าดิบเพื่อให้คงความคลาสสิคที่เข้ากันกับมอเตอร์ไซค์สไตล์นี้ เสริมด้วยแอสเสซเซอร์รี่คูลๆ อย่างกระเป๋าสตางค์หนัง หรือโซ่ติดกับกางเกง ยิ่งทำให้ดูหล่อขึ้น
เสื้อ
ไบเกอร์ควรเลือกใส่เสื้อผ้าที่ระบายง่าย ไม่หนาจนเกินไป โดยเฉพาะหากต้องการขับขี่ในระยะไกลๆ เพื่อความคล่องตัวและความสบายในการขับขี่
แจ๊คเก็ต
แน่นอนว่ามอเตอร์ไซค์ต้องมาพร้อมกับแจ๊คเก็ตหนัง ซึ่งแจ๊กเก็ตหนังให้ลุคที่เท่อยู่แล้ว แต่การเพิ่มสไตล์คลาสสิคสำหรับไบค์เกอร์ ควรเลือกแจ๊คเก็ตหนังหนุ่มอย่าง ทรง A-2 ไม่รัดแน่นจนเกินไป น้ำหนักประมาณ 18 ออนซ์ สีหากเป็นสีดำหรือน้ำตาลจะเพิ่มความคมเข้มและเข้ากันได้ดีกับกางเกงยีนส์ สีน้ำเงิน หรือที่เรียกว่าสีอินดิสโก้ (Indisco)
รองเท้า
รองเท้าบูทคือ A-Must item สำหรับไบค์เกอร์ สายคลาสสิคอยู่แล้ว รองเท้าบูทที่ดีควรเป็นรองเท้าสำหรับการขี่มอเตอร์ไซค์โดยเฉพาะ เพราะจะช่วยป้องกันเท้าของเรา ไม่ให้ข้อเท้าพลิกเวลาเข้าเกียร์ และเพิ่มความสะดวกสบายในการขับขี่อีกด้วย ทรงของรองเท้าบูทที่กำลังเป็นที่นิยม 2 ทรง ได้แก่ ทรงเอ็นจีเนีย (Engineer) รองเท้าแบบปิดที่มีพื้นหนา ช่วยไม่ให้เจ็บเท้าเมื่อถูกกระแทกหรือประสบอุบัติเหตุ ป้องกันน้ำเข้ารองเท้าเวลาต้องขี่มอเตอร์ไซค์ขณะฝนตกหนัก และทรงไอรอน (Iron) ซึ่งแตกต่างจากทรงแรกตรงที่มีเชือกผูกรองเท้า ไบเกอร์สามารถเลือกสีของรองเท้าบูทได้ตามความชอบ และควรเลือกให้เข้ากับบุคลิกของตน หากต้องการคงความเท่ ควรเลือกใส่สีดำ เพราะเป็นสีพื้นฐานที่เข้ากับการแต่งตัวทุกสไตล์
แอสเซสเซอร์รี่
ขึ้นชื่อว่าเป็นไบเกอร์แล้ว สิ่งที่ขาดไม่ได้ก็คือแอสเซสเซอร์รี่ต่างๆ เพราะจะช่วยเสริมฟิลลิ่งของการเป็นไบเกอร์ได้อย่างแท้จริง ไบเกอร์กับเครื่องหนังเป็นสิ่งที่แยกจากกันไม่ได้ ไม่ว่าจะเป็น กระเป๋าสตางค์หนัง ถุงมือ หรือแม้แต่พวงกุญแจสำหรับห้อยกับกุญแจบิ๊กไบค์คันโปรด เพื่อลุคความเป็นวินเทจอย่างแท้จริง ควรเลือกสวมหมวกกันน็อคแบบมี windshield เสริมด้วยแว่นตาทรงวินเทจที่จะเพิ่มเอกลักษณ์ ทำให้ลุคโดดเด่นมากขึ้น และถ่ายทอดความเป็นสตรีทไบเกอร์ขนานแท้
เพียงแค่นี้ ก็ทำให้ไบค์เกอร์สายคลาสสิคเพิ่มความหล่อบนมอเตอร์ไซค์คันโปรดด้วยแฟชั่นสไตล์เดนิม ที่หล่อทั้งบนมอเตอร์ไซค์ หรือจะในชีวิตประจำวัน เพื่อให้ไบค์เกอร์ได้เติมเต็มความสุขในการขับขี่มอเตอร์ไซค์ที่ไม่ใช่แค่เป็นยานพาหนะแต่ยังเป็นไลฟ์ไสตล์ของผู้ขับขี่ทุกคนอีกด้วย
เกี่ยวกับรอยัล เอนฟิลด์
รอยัล เอนฟิลด์ เป็นแบรนด์รถมอเตอร์ไซค์เก่าแก่ที่สุดที่มีการผลิตอย่างต่อเนื่องมาจนถึงปัจจุบัน โดยผลิตรถมอเตอร์ไซค์คันแรกในปี พ.ศ. 2444 ทั้งนี้ รอยัล เอนฟิลด์เป็นส่วนหนึ่งของบริษัทไอเคอร์ มอเตอร์ส ลิมิเต็ด เป็นผู้บุกเบิกตลาด รถมอเตอร์ไซค์ขนาดกลางด้วยรถมอเตอร์ไซค์แบบโมเดิร์นคลาสสิคที่โดดเด่นและมีเอกลักษณ์ ด้วยฐานการผลิตในเมืองเชนไน ประเทศอินเดีย รอยัล เอนฟิลด์สามารถขยายการผลิตให้เติบโตอย่างรวดเร็วเพื่อตอบสนองต่อความต้องการ รถมอเตอร์ไซค์ของแบรนด์ที่เพิ่มขึ้นด้วยอัตราเติบโตมากกว่า 50 เปอร์เซ็นต์ในช่วง 5 ปีที่ผ่านมา รอยัล เอนฟิลด์กลายเป็นบริษัทที่มีความสำคัญอย่างยิ่งในตลาดรถมอเตอร์ไซค์ขนาดกลางระดับโลกและกำลังบุกเบิกตลาดใหม่ด้วยรถมอเตอร์ไซค์ที่โดดเด่นด้วยเอกลักษณ์แห่งดีไซน์ ตอบสนองเส้นทางท้าทาย และมอบความสนุกสนานในการขับขี่อย่างเต็มที่
โดยสายการผลิตของรอยัล เอนฟิลด์ในประเทศอินเดียประกอบด้วยรถมอเตอร์ไซค์รุ่นบุลเล็ต (Bullet) คลาสสิก (Classic) และธันเดอร์ เบิร์ด (Thunder Bird) ในเครื่องยนต์ขนาด 350 และ 500 ซีซี รวมถึงรุ่นคอนติเนนทัล จีที 535 ซีซี (Continental GT) สไตล์คาเฟ่ เรเซอร์ และรุ่นหิมาลายัน (Himalayan) ที่ติดตั้งเครื่องยนต์ใหม่ แอลเอส 410 รอยัล เอนฟิลด์ มีสโตร์ที่ดำเนินงานเองทั้งหมด 17 แห่ง และมีตัวแทนจำหน่ายมากกว่า 790 รายในทุกหัวเมืองใหญ่ทั่วอินเดีย และส่งออกไปมากกว่า 50 ประเทศทั่วโลก อาทิ สหรัฐอเมริกา สหราชอาณาจักร หลายประเทศในยุโรป และ ลาติน อเมริกา รวมถึงตะวันออกกลางและเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ รอยัล เอนฟิลด์สนับสนุนและจัดกิจกรรมที่เกี่ยวกับมอเตอร์ไซค์และการขับขี่ต่างๆ มากมายทั่วโลก ได้แก่ ‘ไรเดอร์ มาเนีย’ (Rider Mania) กิจกรรมประจำปีที่ถือเป็นการรวมตัวของผู้ขับขี่รถมอเตอร์ไซค์ รอยัล เอนฟิลด์จากทั่วโลก ณ ชายหาดที่สวยงามของเมืองกัว (Goa) และ ‘หิมาลายันอโอดิสซีย์’ ทริปการขับขี่บนเส้นทางที่นับว่าหฤโหดที่สุด และสูงที่สุดบนเทือกเขาหิมาลัย รอยัล เอนฟิลด์ ยังจัดกิจกรรมที่เรียกว่า ‘วัน ไรด์’ (One Ride) ที่ไบค์เกอร์รวมตัวกันขี่มอเตอร์ไซค์รอยัล เอนฟิลด์ของตนในวันอาทิตย์แรกของเดือนเมษายนไปพร้อมกันๆ ทั่วโลก
ผู้สนใจสามารถค้นหาข้อมูลเพิ่มเติม ทั้งเรื่องของผลิตภัณฑ์ ความเป็นมา และกิจกรรมต่างๆ ของรอยัล เอนฟิลด์ ได้ที่ www.royalenfield.com/thai
และร่วมเป็นส่วนหนึ่งของกลุ่มคนรักรถจักรยานยนต์รอยัล เอนฟิลด์
ทางเฟซบุ๊ก https://www.facebook.com/royalenfield/ หรือ https://www.facebook.com/royalenfieldsocietythailand
ทวิตเตอร์ @royalenfield และอินสตาแกรม @royalenfield
สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมกรุณาติดต่อ:
เวเบอร์ แชนด์วิค ประเทศไทย ตัวแทนฝ่ายประชาสัมพันธ์ของรอยัล เอนฟิลด์
คิษญากร (ฟิล์ม) 091-551-8300, สรุจ ตั้งธีรพงษ์ (รุจ) 096-996-2225