หลังจากการพัฒนาพื้นที่ 2 ไร่บนนถนนวิทยุมาร่วม 7 ปี วันนี้ บริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน) ได้เผยโฉมคอนโดมิเนียมที่ดีที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ 98 WIRELESS อย่างเป็นทางการ
โดยโอกาสพิเศษนี้ได้เชิญ ทอม วูล์ฟ (Tom Wolfe) เซเลบริตี้เชฟระดับโลกผู้จัดงานให้กับเหล่าฮอลลีวู้ดซุปเปอร์สตาร์อย่าง มาดอนน่า จอห์นนี่ เด็ปป์ ดีไซเนอร์ชื่อดังอย่าง โรเบอร์โต คาวาลลี่ มาเนรมิต ‘แฟชั่น ฟู้ด’ ให้กับแขกผู้มีเกียรติที่มาชมโครงการแฟล็กชิพของแสนสิริ ที่มีราคาต่อตารางเมตรสูงสุดในประเทศไทย
“ปัจจุบันจะกล่าวว่า ‘กรุงเทพมหานคร’ เป็นหนึ่งในมหานครที่ถูกจับตามากที่สุดในเอเชีย ตะวันออกเฉียงใต้ก็สามารถพูดได้ เนื่องจากจะเห็นได้ว่าชีวิตความเป็นอยู่ (Lifestyle) ของคนในประเทศไทย หรือจำนวนนักท่องเที่ยวที่หลั่งไหลเข้ามามีเพิ่มขึ้นอย่างมหาศาล ประกอบกับการเข้าถึงแหล่งข้อมูลทั่วโลกทำให้ไลฟ์สไตล์ของคนเปลี่ยนไปอย่างก้าวกระโดด ใช้ชีวิตอย่างพิถีพิถันมากขึ้น ความต้องการซับซ้อน ต้องเลือกสิ่งที่ดีและเหมาะสมกับตัวเองที่สุด รวมถึงสามารถสะท้อนเอกลักษณ์ของในแต่ละบุคคลได้ ทำให้ตลาดลักซ์ชัวรี่ในเมืองไทยขยายตัวในอัตราที่สูง สมัยก่อนเพียงนาฬิกา รถสปอร์ต หรือกระเป๋าแบรนด์เนม ก็สามารถสะท้อนความลักซ์ชัวรี่และสถานะทางสังคมได้ ปัจจุบันสิ่งเหล่านั้นอาจไม่ใช่คำตอบสุดท้ายจากการวิเคราะห์ของบริษัทผู้เชี่ยวชาญด้านความมั่งคั่งของโลก (Wealth X) ได้เผยถึงไลฟ์สไตล์ของมหาเศรษฐีระดับโลก ว่าทุกวันนี้ ‘ลักซ์ชัวรี่พร็อพเพอร์ตี้’ กลายเป็นของสะสมที่นิยมของเหล่ามหาเศรษฐี ซึ่งอย่างน้อยจะต้องมี 3-4 แห่งเพื่อตอบสนองไลฟ์สไตล์ทั้งการอยู่อาศัย การลงทุน การทำงาน และครอบครัว” สำหรับประเทศไทยโดยเฉพาะมหานครอย่างกรุงเทพนั้นยังคงมีที่อยู่อาศัยที่สามารถพูดได้อย่างเต็มปากว่า ‘เวิลด์คลาส’ น้อยมาก ซึ่งเมื่อแสนสิริได้พื้นที่กว่า 2 ไร่ บนถนนวิทยุ ข้างบ้านเอกอัครราชทูตสหรัฐอเมริกาประจำประเทศไทยมาครอบครอง จึงพยายาม สร้างสรรค์แฟล็กชิพคอนโดมิเนียมระดับซูเปอร์ลักซ์ชัวรี่ที่คุณภาพเทียบเท่า หรือดีกว่าลักซ์ชัวรี่ เรสซิเดนเชี่ยลทั่วไปที่มีอยู่ทั่วโลกในขณะนี้” อภิชาติ จูตระกูล ประธานอำนวยการ บริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน) กล่าว
“นิยามคำว่าดีที่สุดสำหรับที่อยู่อาศัยในแต่ละคนย่อมแตกต่างกันไป แต่สิ่งที่เป็นองค์ประกอบ สำคัญที่วัดได้อย่างชัดเจนได้แก่ สถานที่ตั้ง ซึ่งพื้นที่บนถนนวิทยุแห่งนี้น่าจะเป็นพื้นที่ที่ดีที่สุดสำหรับการสร้างที่พักอาศัยที่เพียบพร้อมด้วยปัจจัยต่างๆ ทีมออกแบบเป็นหัวใจที่สำคัญที่แสนสิริคัดสรรทีมงานระดับโลกเพื่อสร้างสรรค์ 98 WIRELESS นำโดยแอนน์ คาร์สัน ดีไซเนอร์ชั้นนำจากนิวยอร์ก ผู้ซึ่งได้รับความไว้วางใจจากแบรนด์แฟชั่นและเฟอร์นิเจอร์ระดับโลก ‘Ralph Lauren’ (ราล์ฟ ลอเรน) นอกจากนั้นยังมีทีมงานมืออาชีพหลากหลายสาขาที่ดูแล ส่วนต่างๆ ของอาคารให้เพียบพร้อมสมเป็นแฟล็กชิพคอนโดมิเนียมระดับซูปเปอร์ลักซ์ชัวรี่อย่างแท้จริง ที่สำคัญ องค์ประกอบภายในโครงการแห่งนี้หาที่ใดทัดเทียม ไม่ว่าจะเป็นหินอ่อนที่ใช้ อย่างสตาทูริโอ (Statuario) นำเข้าจากประเทศอิตาลี เปรียบเสมือนงานศิลปะชิ้นเอกในแต่ละห้องพัก แชนเดอร์เลียร์ขนาดใหญ่ 3 ชั้น งานฝีมือจากทีมราล์ฟ ลอเรน โฮม ที่ใช้เวลากว่า 1 ปี กว่าจะเสร็จสมบูรณ์ งานหล่อคิ้วบัวบนผนังที่ได้รับการดูแลและควบคุมการผลิตอย่างละเอียด ละออในทุกขั้นตอนโดยบริษัทไฮด์พาร์ค โมลดิ้ง จากนิวยอร์ค ที่สร้างสรรค์งานฝีมือให้กับ สถานที่ระดับโลกมากมาย อาทิ บัคกิ้งแฮมพาเลซ ทำเนียบขาว พิพิธภัณฑ์เมโทรโพลิแทน ในกรุงนิวยอร์ค และโรงแรมชั้นนำอีกมากมาย” อภิชาติ จูตระกูล กล่าวเพิ่มเติม
ที่กล่าวมาข้างต้น เป็นที่มาของปรัชญาการพัฒนาโครงการแฟล็กชิพคอนโดมิเนียม และคำจำกัด ความของโครงการ 98 WIRELESS นั่นคือ “The Best Comes as Standard” ซึ่งเป็นจุดเริ่มต้น และหัวใจในขับเคลื่อนโครงการแห่งนี้ด้วยการผสมผสานงานฝีมือชั้นสูงระดับโลกเข้าด้วยกัน
วันนี้ โครงการ 98 WIRELESS ของแสนสิริ ได้เสร็จสมบูรณ์แบบ ด้วยสไตล์การตกแต่งแบบ โบซาร์ (Beaux-Arts) ทั้งหมด 25 ชั้น มีห้องพักรวมทั้งหมด 77 ยูนิต ตั้งแต่ขนาด 2 – 3 ห้องนอน ดูเพล็กซ์ เพนท์เฮ้าส์ และซูเปอร์เพนท์เฮ้าส์หนึ่งเดียว ซึ่งได้รับการเรียกขานว่า “The One” ซึ่งตั้งอยู่ชั้นสูงสุดของโครงการ โดยองค์ประกอบต่างๆ ของ 98 WIRELESS นั้นมี เอกลักษณ์ (Iconic) ความงดงาม (Elegant) ไร้กาลเวลา (Timeless) และสามารถรองรับ ไลฟ์สไตล์ของเหล่าบิลเลียนแนร์ได้ครบถ้วน โดยเฉพาะพื้นที่ส่วนกลาง ทั้งพื้นที่ส่วนดร็อปออฟ ที่โอ่อ่าอลังการ ล็อบบี้ที่ดูตระการตาตกแต่งด้วยแชนเดอร์เลียร์คริสตัลแบบแฮนด์เมด 3 ชั้น ที่ใช้เวลาผลิตกว่าหนึ่งปีด้วยงานฝีมือชั้นสูง (Craftsmanship) และเป็นแชนเดอร์เลียร์ที่ใหญ่ ที่สุดในการผลิตของ ‘Ralph Lauren Home’ บันไดหลัก (Grand Staircase) ที่ตั้งตระหง่าน และงดงามด้วยราวจับบันไดขนาดใหญ่ที่หล่อขึ้นเป็นชิ้นเดียว โดยได้รับการสร้างสรรค์งานจาก ช่างฝีมือชั้นสูง รวมถึงห้องรับรองพิเศษต่างๆ ทั้ง ล็อบบี้เลาจน์ (Lobby Lounge) บริเวณชั้นกราวด์
สำหรับส่วนของสิ่งอำนวยความสะดวก อาทิ ทีรูม (Tea Room) ห้องนั่งเล่นที่สงบเงียบสำหรับ พักผ่อนและสังสรรค์กับเพื่อนและครอบครัว รังสรรค์ขึ้นด้วยคอนเซปท์ห้องนั่งเล่น (Salon) สไตล์ยุโรป ผสานความสง่างามและความเย้ายวนในสไตล์ของสุภาพสตรีผู้มีรสนิยม ด้วยการใช้ ลูกเล่นจากสีเทาอ่อนของเนื้อผ้าที่ห่อหุ้มเฟอร์นิเจอร์ตัดกับสีดำของแกรนด์เปียโน และบาร์สีเทา นอกจากนั้นยังเพิ่มความโดดเด่นของห้องด้วยการห่อหุ้มตัวห้องด้วยผ้าม่านสีครีม ที่สะท้อนกับ แสงได้เฉดสีทองทั้งสามด้าน
บิสซิเนส เลาจน์ (Business Lounge) อีกด้านถูกเนรมิตขึ้นด้วยความต้องการสะท้อนความเรียบง่าย แต่กลับสร้างความประทับใจตั้งแต่ก้าวแรก ด้วยการกรุไม้มะฮอกกานีสีน้ำตาล สอดแทรกด้วยการฝังโลหะทองเหลืองที่เพิ่มความรู้สึกร่วมสมัย เสริมการตกแต่งผ้าม่านด้วยลายสีเทาและสีน้ำเงินอันเป็นเอกลักษณ์ของแบรนด์ ‘Ralph Lauren Home’ นอกเหนือจากการตกแต่งดังกล่าวแล้ว ดีไซเนอร์ต้องการสะท้อนไลฟ์สไตล์ของสุภาพบุรุษอย่างเต็มรูปแบบ ในห้องนี้จึงถูกประดับประดาด้วยหนังสือและรูปรถแข่งรอบด้านอีกด้วย
นอกจากการตกแต่งภายในที่สะท้อนความลักซ์ชัวรี่ได้อย่างเต็มรูปแบบแล้ว ของตกแต่ง (Decorative Item) บางส่วนที่นำมาตกแต่งและประดับ ณ โครงการแฟล็กชิพคอนโดมิเนียมแห่งนี้ ได้รับการคัดสรรจากร้าน เนล สมิธ (Niall Smith) ร้านขายของสะสมหายาก (Rare Collectible Items & Antiques) ที่ดีที่สุดของโลกใจกลางกรุงนิวยอร์ค อาทิ โต๊ะกลางทรงกลมบริเวณโถงทางเข้าที่ทำจากไม้โรสวู้ดทำในประเทศอังกฤษ ผลิตขึ้นตั้งแต่ ค.ศ. 1815 ด้วยลายไม้ที่งดงามเป็นเอกลักษณ์ แฝงไว้ด้วยโลหะทองเหลืองให้ความรู้สึกร่วมสมัย โต๊ะทรงกลมบริเวณล็อบบี้เลาจน์สำหรับนั่งอ่านหนังสือพิมพ์ที่เก่าแก่ไม่แพ้ตัวแรก ผลิตขึ้นในช่วงต้น ศตวรรษที่ 19 โต๊ะดื่มกาแฟ (Coffee Table) ที่ผลิตในประเทศฝรั่งเศส ในปีค.ศ. 1890 ตู้ทรงสูงสไตล์โกธิคที่ทำจากไม้มะฮอกกะนีบริเวณชั้น 2 กระจกเงาตกแต่งที่นี่ก็เป็นของสะสมเก่าของมหาเศรษฐีในประเทศสหรัฐอเมริกา ส่วน Sculpture บริเวณบันไดโถงล็อบบี้ได้ศิลปินชื่อดัง ชาวอังกฤษ แอน เคอรรี่ (Anne Curry) เป็นผู้ออกแบบมาสเตอร์พีซชิ้นนี้ให้ โดยการตกแต่งภายในพื้นที่ส่วนกลางทั้งหมดได้ดีไซเนอร์ชื่อดังของนิวยอร์ก ‘แอนน์ คาร์สัน (Anne Carson)’ ผู้มีประสบการณ์การดีไซน์แฟล็กชิพและบูติคของแบรนด์ระดับโลกอย่าง ‘Ralph Lauren’ มาช่วยออกแบบ คัดสรร และควบคุมการตกแต่งเพื่อทำให้โครงการนี้สมบูรณ์แบบที่สุด
และด้วยประสบการณ์กว่า 33 ปีของแสนสิริในการพัฒนาโครงการ และการเดินทางเพื่อศึกษา โครงการระดับซูเปอร์ลักซ์ชัวรี่มาทั่วโลก จึงนำมาซึ่งความพิถีพิถันตั้งแต่การเลือกผู้ออกแบบ ที่ปรึกษา ช่างฝีมือ และงานฝีมือจากทั่วทุกมุมโลก เพื่อให้ได้ผลงานชั้นเลิศจากทุกมุมมอง เพื่อพัฒนาโครงการแฟล็กชิพคอนโดมิเนียมแห่งนี้ให้ที่ดีที่สุด
โดยนอกจากดีไซเนอร์ชื่อดังชาว อเมริกันแล้ว โครงการแฟล็กชิพคอนโดมิเนียมแห่งนี้ยังเป็นการรวมบรรดาสุดยอดฝีมือใน แต่ละสาขาที่เข้าใจการทำงานให้กับโครงการระดับซูเปอร์ลักซ์ชัวรี่ในระดับมาตรฐานสากลอย่าง แท้จริง นำโดยบริษัทสถาปนิกชั้นนำที่ได้รับการยอมรับในระดับนานาชาติอย่าง DWP / Design Worldwide Partnership พร้อมด้วยบริษัทที่ปรึกษา Anne Carson Interiors ที่ช่วยกำหนด คอนเซ็ปต์การออกแบบให้มีเอกลักษณ์แบรนด์เฟอร์นิเจอร์ระดับโลก ‘Ralph Lauren Home’ ที่ร่วมทำงานกับบริษัทอสังหาริมทรัพย์เป็นครั้งแรก โดยเลือกสรรและตกแต่งให้กับโครงการฯ ตั้งแต่โถงทางเข้าไปจนถึงสิ่งอำนวยความสะดวก และสาธารณูปโภคส่วนกลางของโครงการ ทั้ง ล็อบบี้ เลานจ์ บิสซิเนส เลานจ์ และพื้นที่ส่วนกลางในชั้นอื่นๆ พร้อมกันนี้ยังได้ T.R.O.P Terrain + Open Space มาร่วมออกแบบภูมิสถาปัตยกรรมโดยรอบโครงการ รวมถึง Inverse Lighting ผู้เชี่ยวชาญ ด้านการออกแบบแสง เพิ่มความชัดในการมองเห็นทั้งเวลา กลางวันและกลางคืน โดยที่แสงไฟในช่วงกลางคืนนั้นออกแบบมาให้ก่อให้เกิดมลภาวะทางแสง น้อยที่สุด ร่วมด้วยดีไซเนอร์ชั้นนำอีกมากมาย อาทิ Meinhardt / Palmer Acoustics เพื่อควบคุมเสียงเข้าสู่ภายในโครงการ และที่ขาดไม่ได้นั่นคือที่ปรึกษาด้าน LEEDS เพื่อแนะนำแนวทางการออกแบบ เพื่อให้ได้ใบรับรอง Green Building จากอเมริกา ซึ่งเป็นใบรับรองที่ได้รับการยอมรับจากผู้บริโภคจากทั่วทุกมุมโลก ว่าสามารถช่วยประหยัดพลังงานอย่างยั่งยืน ส่วนรายละอียดอื่นๆของงานฝีมือชั้นสูง (Craftmanship) ของโครงการแสนสิริได้ใช้วัสดุและการตกแต่งที่ได้บรรจงคัดสรรอย่างพิถีพิถันที่สุดจากทุกมุมโลก (World Class Materials) ทั้งภายนอกและภายใน ผนวกเข้ากับงานฝีมือในการติดตั้งวัสดุต่างๆ ซึ่งนอกจากการปั้นหล่อคิ้วบัวบนผนังของทีมงานไฮด์ พาร์ค โมลด์ดิ้ง (Hyde Park Mouldings) ที่สร้างสรรค์งานปั้น ตกแต่งบริเวณส่วนกลางทั้งหมดของโครงการแล้ว การต่อเรียงพื้นไม้โอ๊คลายก้างปลาหรือที่ เรียกว่าลาย Herringbone ประตูไม้ทุกบานลาย Mahogany Crotch โดยเป็นลายง่ามไม้จริง ซึ่งเป็นส่วนที่หายากที่สุดของไม้มะฮอกกานีนำเข้าจากสหรัฐอเมริกา ลูกบิดประตูจาก Baldwin ผลิตด้วยทักษะงานฝีมือขั้นสูงจากทองเหลืองแท้ 100% ถือเป็นลูกบิดประตูที่มีดีไซน์และ คุณภาพดีที่สุด แชนเดอร์เลียร์คริสตัลขนาดใหญ่ที่สั่งทำเฉพาะจาก ‘Ralph Lauren Home’ ซึ่งใช้เวลาประดิษฐ์ถึงกว่าหนึ่งปีเต็มเพื่อโครงการ 98 Wireless โดยเฉพาะ หินอ่อนสีขาว ลายพิเศษสตาทูริโอ (Statuario) ซึ่งเป็นหินอ่อนหายาก และเป็นที่ต้องการมากที่สุดในโลกที่ ทีมงานแสนสิริไปเลือกเองจากเหมืองในประเทศอิตาลีทุกชิ้น และนำมาติดตั้งต่อลาย ทำให้ในแต่ละห้องมีลวดลายเป็นเอกลักษณ์เปรียบเสมือนงานศิลป์ที่แตกต่างกันในแต่ละยูนิตอีกด้วย ภายใต้แนวคิด เดียวกันที่ว่า “The Best Comes as Standard”
และที่ขาดไม่ได้คือการบริการสุดเอ็กซ์คลูซีฟ (World Class Lifestyle Service) เพื่อตอบโจทย์ ไลฟ์สไตล์ของผู้อยู่อาศัยในโครงการ 98 Wireless แสนสิริจึงได้เตรียมนำเสนอ การบริการสุดเอ็กซ์คลูซีฟในหลายรูปแบบ ได้แก่ บริการรถประจำโครงการอย่าง ‘เบนท์ลี่ย์’ นวัตกรรมยานยนต์สุดหรูซึ่งได้รับการขนานนามว่าคือ “The World’s best luxury sedan” ที่สั่งผลิตพิเศษเพื่อเป็นรถประจำโครงการฯ โดยใช้สีสั่งพิเศษ คือ British Racing Green เพื่อบ่งบอกถึงความเป็นรถยนต์อังกฤษอย่างชัดเจน นอกจากนี้ยังมีอีกหนึ่งเอกลักษณ์บนป้าย ทะเบียน “วย 98” ที่สื่อถึงถนนวิทยุ (วย) และ 98 คือเลขที่ของโครงการ ซึ่งกำลังจะกลายเป็น เลขที่บ้านของโครงการที่อยู่อาศัยที่ดีที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และสร้างความโดดเด่นในทุกครั้ง ที่เบนท์ลี่ย์คันพิเศษนี้ได้ทำหน้าที่ออกไปให้บริการผู้พักอาศัยโครงการ 98 WIRELESS นอกจากนั้นยังมีบริการจอดรถแบบ Valet Parking และที่จอดรถใต้ดินที่สามารถรองรับได้ถึง 240% รวมถึงที่จอดพิเศษสำหรับรถซูเปอร์คาร์ที่ได้รับการออกแบบพื้นที่โดยรวมทั้งระดับองศา ทางลาดเอียง มุมการเลี้ยว และแสงไฟในแต่ละช่องจอด จากทีมงานที่เชี่ยวชาญระดับมืออาชีพ รวมทั้งบริการลิฟต์ส่วนตัวพร้อมโถงลิฟท์สำหรับทุกยูนิต อีกทั้งยังเป็นครั้งแรกของประเทศไทยกับบริการผู้ช่วยส่วนตัวจาก Quintessentially (ควินเทสเซ็นเทียลลี่) ที่มีชื่อเสียงระดับโลกในจัดงานสำคัญให้กับราชวงศ์อังกฤษมากมายมาประจำที่โครงการ เพื่อตอบสนองไลฟ์สไตล์ในแบบลักซ์ซัวรี่อย่างแท้จริง และเติมเต็มประสบการณ์อยู่อาศัยได้อย่างสมบูรณ์แบบ
ปัจจุบัน 98 WIRELESS สร้างเสร็จสมบูรณ์ และมียอดจองห้องชุดก่อนการเปิดตัวแล้วกว่า 50% โดยมีระดับราคาขายเฉลี่ย ณ ปัจจุบันที่ 580,000 บาท/ตารางเมตร หรือระดับราคา 70-250 ล้านบาท โดยห้องที่มีราคาสูงสุดในประเทศไทยอยู่ที่ 650 ล้านบาทนั้น มีลูกค้าให้ความสนใจ ซื้อตั้งแต่ก่อนเปิดขายอย่างเป็นทางการ
ขณะนี้ แสนสิริพร้อมต้อนรับผู้ที่สนใจเข้าชมโครงการโดยการนัดหมายล่วงหน้าตั้งแต่ปลายเดือน มีนาคมนี้เป็นต้นไป เพื่อยลโฉม แฟล็กชิพคอนโดมิเนียมที่ดีที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และ ประเทศไทย หรือสามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ 98wireless.com
สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม
Z Communications โทร. / แฟกซ์ 02-651-5911
นพนริศร์ เลียวพานิช (สะดือ) 081-444-8444 / จามจุรี สกุลสง่า (จ๋า) 088-636-3399 zcommunicationz@gmail.com
ประชาสัมพันธ์ในนาม แสนสิริ
