เป็นความจริงที่ปฏิเสธไม่ได้ว่า ความต้องการที่พักอาศัยบนทำเลสะดวกต่อการเดินทางในกรุงเทพฯ โดยเฉพาะคอนโดติดรถไฟฟ้านั้น จะมีแต่เพิ่มขึ้นและเพิ่มขึ้น เพราะใครๆต่างก็ต้องการเป็นอิสระจากการจราจรที่ติดขัดอย่างน่ากลัว และดูจะยิ่งน่ากลัวขึ้นไปเรื่อยๆ ไม่ว่าเศรษฐกิจจะเป็นขาขึ้นหรือขาลงรถก็ติดไม่เลิก ซึ่งแน่นอนว่าทำให้ราคาคอนโดใกล้รถไฟฟ้าพุ่งกระฉูด จนผู้ประกอบการต้องหาวิธีขายในราคาที่ลูกค้าวัยทำงานสามารถมีปัญญาซื้อได้โดยไม่ต้องมีเงินถุงเงินถัง นั่นก็คือการลดขนาดพื้นที่แต่ละยูนิตให้เล็กกะทัดรัด จนแทบจะเรียกได้ว่าเป็นที่ซุกหัวนอนอย่างเดียวจริงๆ ก็จะทำให้ราคาขายต่อห้องดูไม่น่าตกใจเกินไปนัก แต่ถ้าดูราคาต่อตารางเมตรแล้วอาจสูงลิบจนลูกค้าเกือบช็อคหัวใจวายเลยทีเดียว
ผลที่ตามมาเมื่อคนทำงานรุ่นใหม่หันมานิยมใช้ชีวิตในพื้นที่ขนาดเล็กจ้อยก็คือไลฟ์สไตล์ที่เปลี่ยนไป ส่งผลให้เกิดกิจกรรมและธุรกิจใหม่ๆที่ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ของคนกลุ่มนี้ตามมาอีกเพียบ ธุรกิจที่จะรุ่งเพราะมนุษย์คอนโดไซส์ S ติดรถไฟฟ้ามีอะไรบ้าง มาดูกัน
- ร้านอาหาร – คอนโดพื้นที่เล็กไม่สะดอกต่อการทำอาหารมื้อใหญ่ อีกทั้งการอยู่ที่แคบก็ไม่สามารถอยู่กันหลายคนได้ จะมาทำอาหารกินคนเดียวก็ดูจะไม่คุ้มกับเวลา กินข้าวนอกบ้านหรือโทรสั่งอาหารมากินสะดวกกว่าเยอะ
- ร้านซักรีด – การซักผ้าตากผ้ารีดผ้าไม่ใช่เรื่องเล็กๆ การจะแต่งตัวสวยหล่อออกมาทำงานทุกวัน ต้องมีพื้นที่ซักรีด และร้านซักรีดก็ช่างตอบโจทย์สำหรับคนที่ทำงานเกือบตลอดเจ็ดวัน ลองสังเกตดูสิ… คนสมัยนี้รีดผ้าเองไม่ค่อยจะเป็นกันหรอก
- ร้านกาแฟ – เห็นเปิดกันเป็นดอกเห็ดก็ไม่ต้องห่วงว่าจะล้น เพราะคนต้องการที่นั่งเล่น นั่งคุยงาน คุยธุระ นัดเพื่อน หรือแม้แต่มานั่งอ่านหนังสือ ดูหนังฟังเพลง ไม่มีใครอยากนั่งอุดอู้อยู่ในห้องเล็กๆทั้งวันทั้งคืนหรอกจริงไหม ยิ่งคนทำงานแบบฟรีแลนซ์มีเยอะขึ้นเท่าไหร่ ก็ต้องหาที่นั่งคุยงานเยอะขึ้นตามไปด้วย
- รถแท็กซี่ และรถเช่า – อุตส่าห์มาหาคอนโดใกล้รถไฟฟ้า ก็เพื่อจะได้ไม่ต้องขับรถเอง หนีรถติด แต่ตรงไหนไม่มีรถไฟฟ้า ก็ต้องพึ่งรถสาธารณะ จะเป็นแท็กซี่ป้ายเหลืองหรือแบบหรูๆป้ายดำก็ได้ทั้งนั้น ขอให้เรียกปุ๊บมาปั๊บ บริการดีน่าไว้วางใจ ใครๆก็อยากเรียก
- เวิร์คช็อปสำหรับงานอดิเรก – สารพัดกิจกรรมที่ต้องนึกว่าจะหาอะไรออกมาทำในวันว่าง ไม่ว่าเรียนทำอาหาร เรียนเต้นรำ เรียนภาษา จัดดอกไม้ เวิร์คช็อปอะไรก็ได้ที่ดูดีและทำให้เวลาว่างมีความหมายกว่าการอุดอู้อยู่ในห้อง เพื่อที่จะได้มีรูปสวยๆแชร์ในโซเชียลว่าเมื่อวันหยุดไปทำอะไรเก๋ๆมาบ้าง อวดเพื่อนฝูงและคนที่ทำงาน ให้ดูว่าชีวิตดี๊ดี
- โรงแรมและธุรกิจท่องเที่ยว – การไม่มีบ้านเป็นภาระ ทำให้วันหยุดมีคุณภาพพอที่จะไปไหนๆ หาประสบการณ์จากการท่องเที่ยวเดินทางได้เต็มที่ โดยเฉพาะการไม่มีครอบครัว ไม่มีชีวิตคู่ที่รุงรัง ของคนรุ่นใหม่ ทำให้ภาระในการดูแลลูกหลานและคนอื่นๆในครอบครัวหมดไป จะให้มุดอยู่แต่ในห้องก็ใช่ที่ เลยต้องจองโรงแรมเที่ยวให้ฉ่ำใจจะรออะไร
- กีฬาและการออกกำลังกาย – กิจกรรมยามว่างอย่างกีฬาและการออกกำลังกายจะเป็นที่นิยมมากขึ้นและมากขึ้น เพราะไม่เพียงแต่ช่วยรักษาสุขภาพกาย สุขภาพจิต ลดความเครียดแล้วยังเปิดโอกาสในการปฏิสัมพันธ์กับผู้คนรสนิยมเดียวกัน
- ร้านขายของมือสอง – การมีชีวิตแบบเดี่ยวๆในเมืองใหญ่ จะมีอะไรแก้เหงาได้ดีกว่าการช้อปปิ้ง ไม่ว่าจะช้อปออนไลน์ ออกไปเดินห้าง หรือแบกะดินก็ได้ทั้งนั้น แต่ปัญหาคือ ซื้อของเยอะไม่มีที่เก็บจะเอาไปไหน จะเอาไปโยนทิ้งหรือบริจาคหมดก็เสียดายแย่ คำตอบคือ เอาไปขายเป็นสินค้ามือสอง เพราะมีคนอยากซื้อเยอะ คนอยากขายก็เยอะ ต่อไปอาจเหมือนประเทศญี่ปุ่นที่มีการส่งออกสินค้าใช้แล้วไปขายในประเทศด้อยพัฒนา เพราะถ้าเก็บไว้ในบ้านตัวเองคงล้นไม่มีที่จะอยู่ เนื่องจากที่ดินแพงมหาโหด
- ธุรกิจบันเทิง หนัง เพลง ละครเวที – ก็ไม่รู้ว่า การอยู่ในที่แคบๆจะทำให้คนไม่อยากมีคู่ หรือเป็นเพราะคนอยากมีคู่ไม่ชอบอยู่ในที่แคบๆ แต่แน่นอนว่า ความบันเทิงที่ง่ายสุดในการอยู่กับตัวเอง ก็คือการดูหนังฟังเพลงหรือไปร่วมกิจกรรมประเภทดูละครเวที ดูคอนเสิร์ต ซึ่งเป็นไปได้ตั้งแต่การดูผ่านอุปกรณ์สื่อสารใส่หูฟังนั่งเพลินคนเดียวบนรถไฟฟ้า กลับมาเปิดทีวีจอยักษ์ดูคนเดียวที่ห้อง หรือออกไปข้างนอก เพื่อให้วันเหงาๆผ่านไปอย่างรื่นรมย์โดยไม่ต้องลำบากไปวุ่นวายกับใคร
- ธุรกิจประกันภัย – คนยุคนี้เลือกที่จะอยู่ตามลำพังมากกว่าอยู่กับครอบครัวใหญ่ ความสัมพันธ์กับครอบครัวในแบบเดิมๆจึงอาจล่มสลายลงทีละน้อยจนกระทั่งไม่กล้าจะคิดกลับไปพึ่งพาอาศัยอะไรกันได้อีก ดังนั้นจึงต้องป้องกันตัวเอง ไม่ว่าจะเป็นเรื่องเจ็บไข้ได้ป่วย การป้องกันความเสี่ยงทุกอย่างในการใช้ชีวิต การวางแผนเงินๆทองๆสำหรับอนาคต เป็นเรื่องจำเป็น ซึ่งการคิดถึงตัวเองมากขึ้น พึงตัวเองมากขึ้น ก็ต้องมีการประกันความเสี่ยงมากขึ้น การทำประกันชีวิต หรือประกันสุขภาพจึงจะเป็นที่นิยมมากขึ้น
มนุษย์เป็นสิ่งมีชีวิตที่ปรับตัวเก่ง รูปแบบไลฟ์สไตล์ใหม่ๆ ที่เกิดจากการปรับตัวให้เข้ากับชีวิตเมืองจึงเกิดขึ้นอย่างไม่หยุดนิ่ง ซึ่งการปรับเปลี่ยนเหล่านี้ ก็ทำให้เป็นขาขึ้นและขาลงสำหรับธุรกิจประเภทต่างๆกันไป ใครที่มองอนาคตได้ จับเทรนด์ถูก ก็มีโอกาสหาประโยชน์ได้จากความเปลี่ยนแปลงเหล่านี้เสมอ
Reported by : Wannasiri Srivarathanabul Editor@HiclassSociety.com
