เงินซื้อความตื่นเต้นได้ แต่ซื้อความสุขไม่ได้

บางจังหวะที่อารมณ์ระรื่น ดิฉันอดคิดไม่ได้ว่า การเกิดมาเป็นคน ช่างเป็นโชคดีเสียนี่กระไร การมีชีวิตอยู่แต่ละวันก็เต็มไปด้วยเรื่องราวน่าตื่นเต้นสนุกสนาน ถึงจะสุขบ้างทุกข์บ้าง แต่ก็มีการค้นพบสิ่งใหม่ๆ ชวนให้ทึ่งอยู่ตลอดเวลา การมีชีวิตอยู่เป็นเรื่องไม่น่าเบื่อ (เพราะอย่างนี้กระมังคะ ถึงไม่มีใครอยากแก่ หรืออยากตาย)

หลายโอกาสที่เราได้ค้นพบตัวตนที่คาดไม่ถึงของผู้คนรอบข้าง ทั้งในแง่ดีและร้าย ซึ่งผิดไปจากความความหมายชนิดหน้ามือเป็นหลังมือก็มีอยู่บ่อยๆ ขึ้นอยู่กับสถานการณ์ที่มากระตุ้นให้เขาได้ปลดปล่อยสิ่งที่ซ่อนเร้นอยู่ภายในออกมา บางคนมีความน่ารักซ่อนอยู่ในความร้ายกาจ บางคนมีความขี้ขลาดเห็นแก่ตัวซ่อนอยู่ใต้ภาพปูชนียบุคคลที่น่ายกย่อง บางคนมีสัญชาตญาณโหดเลือดเย็นซ่อนอยู่ในความอ่อนโยน

สำหรับคนที่ไม่เคยซื้อล็อตเตอรี่ ไม่เล่นหวย ไม่เคยข้องแวะกับการพนันทุกประเภทและไม่นิยมการเสี่ยงโชคใดๆ อย่างดิฉัน ก็ไม่เคยนึกฝันมาก่อนว่า เมื่อวันหนึ่งหันมาใส่ใจกับการลงทุนในตลาดหุ้นแล้วจะมีตัวตนแม้เพียงสักเสี้ยวที่นิยมความเสี่ยง แต่บังเอิ๊ญ…บังเอิญได้รู้จักกับนักลงทุนชื่อดัง ท่านแนะนำว่า ถ้ามีเงินเย็นก็น่าจะแบ่งมาลงทุนในตลาดหุ้นดูบ้าง เพราะผลตอบแทนได้มากกว่าเงินฝากธนาคาร

ถึงจะไม่ได้ฝันอยากรวย แต่ฟังเขาแล้วก็เห็นด้วย ดิฉันจึงเริ่มจริงจังกับการบริหารพอร์ตการลงทุนของตัวเองมากขึ้น ปรากฏว่าได้ผลตอบแทนกระจุ๋มกระจิ๋มมาเป็นรางวัลให้ชื่นใจในระยะสั้นๆ ค่ะ เหลือจากที่เก็บออมก็มาเป็นค่าขนมเลี้ยงเพื่อนฝูงเฮฮาปาร์ตี้ ไม่มากมายถึงขนาดเปลี่ยนฐานะเป็นเศรษฐินีหรอกนะคะ แต่ก็ต้องยอมรับว่า โชคลาภที่ได้มาง่ายและเร็วจากการเล่นหุ้นทำให้เกิดอาการหวั่นไหววูบวาบไปพักหนึ่งเหมือนกัน โถ…จะไม่ให้วูบวาบได้อย่างไรคะ ก็กำไรจากการเล่นหุ้นไม่ถึงสองสัปดาห์ มันมากกว่าเงินเดือนสมัยเป็นอาจารย์มหาวิทยาลัยของรัฐทั้งปีรวมกันเสียอีก เป็นใครก็ต้องคิดหนักล่ะค่ะ มิน่าเล่า คนหลายคนถึงไม่ทำงานทำการ หันมาเล่นหุ้นเป็นอาชีพ ดิฉันเคยสงสัยมานาน ได้เข้าใจถ่องแท้ก็คราวนี้เอง

หลงคิดมาตลอดว่าตัวเองเป็นคนดี แม้จะขี้งอนเป็นบางคราว แต่ก็คงไม่โลภและไม่หลงอะไรง่ายๆ ที่ไหนได้ เผลอตัวเผลอใจหลงใหลไปกับหน้าจอหุ้นเขียวๆ แดงๆ พักใหญ่ค่ะ หุ้นที่ได้ผลตอบแทนรวดเร็วนั้นเป็นพวกหุ้นเก็งกำไรระยะสั้น ราคาที่เปลี่ยนแปลงไม่ได้อิงปัจจัยพื้นฐาน พูดง่ายๆ ก็เหมือนการพนันนั่นแหละค่ะ และเราๆ ท่านๆ ต่างก็รู้กันดีว่า การพนันไม่เคยให้คุณกับใคร (นอกจากเจ้ามือ…อิ อิ)

แม้ว่าจะไม่ได้เสียเงินเสียทองไปกับหุ้น แถมยังได้ค่าขนมมาพอสมควร แต่หากคิดดูรอบคอบ เงินนั้นก็ใช่ว่าจะได้มาฟรีๆ เพราะเมื่อพิจารณาตัวเองหลังจากจิตเป็นปกติแล้ว ก็พบว่าศีล สมาธิ และปัญญาที่เคยมีในครอบครองอยู่ประจำกายใจเสียหายเรรวนจนแทบไม่เป็นอันทำงานทำการอื่น เพราะมัวแต่แกว่งไกวไปกับราคาขึ้นๆ ลงๆ แต่โชคดี…ด้วยความบังเอิญอีกแล้วค่ะ ได้อ่านบทบรรณาธิการของนิตยสารเก่าเล่มหนึ่ง ชื่อ YES! MAGAZINE ใจความที่บรรณาธิการคนนั้นสื่อสารออกมาก็ไม่ได้ลึกซึ้งอะไรเป็นพิเศษ หากแต่พูดถึงคนที่เลือกใช้ชีวิตในแบบที่ใช่ ซึ่งการมีชีวิตที่ใช่นั้น ไม่ได้หมายถึงการมีเงินมากมาย แต่หมายถึงการมีชีวิตอยู่อย่างมีความสุข ดิฉันถามตัวเองว่า เล่นหุ้นแล้วมีความสุขไหม คำตอบคือ ไม่

นอกจากจะได้ค้นพบตัวเองในแง่มุมที่ไม่เคยรู้ ดิฉันยังได้รู้ว่า เงินซื้อความตื่นเต้นได้ แต่ซื้อความสุขไม่ได้เพราะอารมณ์ที่วูบวาบขณะเล่นหุ้นนั้นไม่ใช่ความสุขแน่ๆ ถึงเล่นได้กำไรก็ดีใจแค่แป๊บเดียว พอกระโดดลงไปเล่นต่อก็ต้องวุ่นวายใจอีก หาความสุขสงบไม่ได้เลย เวลาที่จิตใจไม่สงบ จะคิดอะไรไม่ค่อยออกค่ะ ช่วงที่ติดหุ้น ดิฉันจึงทำอะไรโง่ๆ ลงไปหลายอย่าง ซึ่งล้วนแต่เป็นเรื่องที่ไม่น่าเล่าให้ใครฟังทั้งสิ้น

 

ดิฉันชอบอวดฉลาดเวลาเขียนหนังสือ แต่คราวนี้ไม่มีอะไรฉลาดมาอวดเลยค่ะ มีแต่เรื่องโง่ล้วนๆ

 

 

วรรณศิริ ศรีวราธนบูลย์

บรรณาธิการบริหาร

editor@hiclassmagazine.com

Related contents:

You may also like...