ดูให้ทั่วทั้งแถววังสราญรมย์ทั้งเส้นหน้าเส้นข้างและเส้นหลังที่ติดคลอง เส้นหน้าวัดราชบพิธก็มียืน…
แถวท่าเตียนเรื่อยไปจนศิลปากร จะเป็นเส้นออกแนวดิบๆ ทหาร เถื่อนๆ กรรมกร….
ข้างวัดโพธิ์ก็มียืน….ศิลปากรก็มี….หัวมุมที่เป็นสี่แยกวัดโพธิ์ พระบรมมหาราชวัง และวังสราญรมย์ ตรงนั้นก็มียืนเขาเรียกว่า “โค้งนางแบบ” จะมีแก๊งค์ตุ๊ดยืนอยู่เป็นกลุ่ม
วันนี้ด้วยสังคมที่เปิดกว้าง ยอมรับรสนิยมกามารมณ์ส่วนตัวมากขึ้นเท่าใด จำนวน “เซลส์” ที่เคยมีบริการกันแบบ “ลับเฉพาะ” ในสถานบริการบางแห่งจึงพัฒนาแพร่ขยายมาถึงขั้นมี “นายบริการทางโทรศัพท์”, ”เซลล์” หรือ “ธุรกิจโสเภณีชาย” ไปไกลกว่าที่คนนอกวงการคาดคิด เพราะมีบริการแบบ “Full option” ทั้งเป็นแบบเพื่อนเที่ยว เพื่อนออกงานสังคมและเพื่อนนอน
ยิ่งกว่านั้นวันนี้ “โสเภณีชาย” ไม่เพียงขายตัวกับเกย์ หากแต่รวมไปถึงการขายตัวให้กับบรรดาสาวแก่แม่ม่ายใน “แวดวงไฮโซ”!!! ทั้งนี้เมื่อนึกถึงสถานที่ที่มีผู้ชายขายตัว “วังสราญรมย์” เป็นสถานที่แห่งหนึ่งในอันดับต้นๆที่ชายที่ชอบไม้ป่าเดียวกันและ “ผู้หญิงขี้เหงา” ส่วนใหญ่นึกถึง เพราะบริเวณนี้ถือเป็นศูนย์รวมของผู้ชายขายตัวทุกประเภท
ไม่ว่าจะเป็นผู้ชายที่มีจิตใจเป็นหญิงหรือผู้ชายที่รูปร่างกำยำ แต่มีจิตใจชอบผู้ชาย และประเภท “เสือไบ” หรือผู้ชายที่ได้ทั้งชายและหญิง ปัจจุบันตลาดกามแห่งนี้มีความเปลี่ยนแปลงไปจากเดิมที่ครั้งหนึ่งจะมีเพียงการขายตัวธรรมดา ตกลงราคากันข้างทาง ถูกใจก็ขึ้นรถไปกับลูกค้า แต่งตัวตามแฟชั่นทั่วไปเท่านั้นไม่ได้เน้นอะไรมากมายนัก
แต่ทุกวันนี้ “โสเภณีชาย” ย่านนี้มีการพัฒนามากขึ้น บางคนผูกไทใส่สูท รูปร่างกำยำ หน้าตาหล่อเหลา การพูดจาสื่อสารสุภาพ อีกทั้งมี “โปรโมชั่น” ใหม่ๆให้ลูกค้า ตลาดกามแห่งนี้มีความเปลี่ยนแปลงไปจากเดิม ที่ครั้งหนึ่งจะมีเพียงการขายตัวธรรมดา ตกลงราคากันข้างทาง ถูกใจก็ขึ้นรถไปกับลูกค้า แต่งตัวตามแฟชั่นทั่วไปเท่านั้นไม่ได้เน้นอะไรมากมายนัก
“แมค” หนุ่มวัย 22 ปี รูปร่างกำยำ หน้าตาหล่อเหลา แต่งกายสะอาดตาหนึ่งใน “โสเภณีชาย” ที่ยึด “วังสราญรมย์” เป็นแหล่งทำมาหากิน บอกว่าอัตราค่าบริการของเขาอยู่ที่ 500 บาท เพิ่มเวลาให้จากเดิม 2 ชั่วโมง เป็น 3 ชั่วโมง หากให้บริการต่อเนื่องได้ “ไม่ถึง 30 นาที ยินดีคืนเงิน” หรือ “ฟรี” สำหรับลูกค้าผู้หญิงและลูกค้าเพศชายที่เป็นฝ่ายรับ แต่สำหรับลูกค้าชาวต่างชาติเขาจะเพิ่มราคาเป็น 800 บาท ไม่รวมค่าห้องพักที่จะต้องตกเป็นภาระของลูกค้า
“แมค” เล่าอีกว่าขณะนี้ผู้ชายที่มาขายบริการในสถานที่นี้ต้องแข่งขันแย่งลูกค้ากันด้วยวิธีการต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นการแต่งกายที่จะต้องดูดีสะอาดตา บางวันมีคนใส่สูทผูกเนคไทมายืนขายบริการ ขณะที่รูปลักษณ์ที่กลุ่มลูกค้าให้ความสนใจ คือต้องมี “รูปกายกำยำ” เขาก็ต้องไปเล่นกล้ามเพาะกายตาม “ฟิตเนส” ราคาถูก ส่วนคนที่ไม่มีเงินมากนักก็จะออกกำลังกายอย่างง่ายๆอยู่กับที่พัก…
ส่วน “ลูกค้า” มีมากหน้าหลายตาบางคนขับรถยนต์ยี่ห้อดีราคาหลักล้าน บางคนนั่งแท็กซี่ บางคนขี่รถจักรยานยนต์ บางรายให้เจ้าหน้าที่จากโรงแรมขับรถมารับถึงที่ สำหรับลูกค้าผู้ชายที่นิยมชายด้วยกันอายุเฉลี่ยประมาณ 25 ปีขึ้นไป ขณะที่ผู้หญิงที่เข้ามาใช้บริการน้อยกว่าอายุประมาณ 25 ปีขึ้นไปเช่นกัน โดยส่วนใหญ่ลูกค้าจะเมามาแล้วแทบทั้งสิ้น
“ผมเข้ามาหากินอยู่บริเวณนี้นานหลายเดือนแล้ว ก่อนหน้านี้ขายบริการอยู่แถบถนนสีลม แต่ด้วยการที่มีคนเข้ามายึดอาชีพนี้เยอะ มีเด็กรุ่นใหม่หน้าตาดี ทำให้รายได้น้อยลงจึงตัดสินใจออกมาหากินแบบอิสระ ตอนอยู่ร้านแห่งหนึ่งแถวสีลม คืนหนึ่งๆผมได้แค่ 800 บาท โดนตัดหัวคิวครึ่งต่อครึ่ง อีกทั้งคนเชียร์แขกถ้าไม่ให้เขา เขาก็จะเชียร์คนอื่น ผมออกมาหากินข้างนอกดีกว่า”
อย่างไรก็ดี ดูเหมือนว่าในอนาคต “แมค” และผองเพื่อน ร่วมอาชีพ “โสเภณีชาย” อาจจะต้องได้รับผลกระทบมากขึ้น เพราะนอกเหนือจาก “เด็กใหม่” ที่ก้าวขึ้นมาแทนที่แล้ว ขณะนี้พบว่า “ชาวต่างชาติ” โดยเฉพาะประเภท “นิโกร” กำลังคืบคลานเข้ามาแย่งส่วนแบ่งการตลาดจากพวกเขา เพราะกำลังได้รับความนิยมอย่างยิ่งจากลูกค้า ถ้าหน่วยงานที่เกี่ยวข้องยังปล่อยให้ “ตลาดโสเภณีชาย” ทั้งไทยและเทศ เติบโตอยู่เช่นนี้ต่อไป สุดท้ายผลกระทบจะเกิดขึ้นกับสถาบันครอบครัว
จากการสำรวจผนวกกับงานวิจัยหลายๆชิ้น พบว่าปัจจุบันจำนวนโสเภณีชายมีแนวโน้มเพิ่มมากขึ้น ผู้ชายที่ขายบริการจะมีอายุตั้งแต่ 12-35 ปี กลุ่มเด็กที่มีอายุ 12-13 ปี จะขายบริการให้กับผู้ชายต่างชาติ ส่วนผู้ชายที่มีอายุตั้งแต่ 18-35 ปี จะขายบริการให้กับกลุ่มหญิงไทยและต่างชาติ
“ผู้ชายขายบริการ” ส่วนใหญ่จะมีหน้าตาดี มีการศึกษา เป็นพนักงานบริษัท และนักศึกษา ที่ต้องการรายได้เสริม หรือ “กลุ่มเด็กเร่ร่อน”
“ผู้ชาย ไทย” ค่อนข้างได้รับความนิยมจาก “หญิงต่างชาติ” โดย เฉพาะญี่ปุ่น ที่ขึ้นชื่อลือชาถึงขั้น “เหมาทัวร์” มาใช้บริการ เพราะผู้ชายไทยเอาใจเก่ง…..ที่สำคัญ ราคาแบบไทย เมื่อคิดเป็นเงินเยน “ไม่แพง”!!!
กลับกันรสนิยมลูกค้า “หญิงไทย” กลุ่มที่มีอายุมากและฐานะร่ำรวย จะนิยม “ผู้ชายต่างชาติ” โดยเฉพาะขณะนี้เน้นไปที่ “หนุ่มนิโกร” เพราะเชื่อกันว่าร่างกายแข็งแรง บึกบึน มีความโลดโผน รุน แรง…..ทำเลที่นิโกรเหล่านี้เตร็ดเตร่จะอยู่แถวๆ ซอยนานา ถนนสุขุมวิท สินค้าดีตลาดต้องการ ทั้งยังมีจำนวนไม่มาก ค่าบริการหนุ่มนิโกรจึงค่อนข้างแพงมาก แพงที่สุดประมาณครั้งละ 7,000 บาท เทียบกับผู้ชายไทยมาตรฐานเดียวกัน ไม่เกิน 5,000 บาท และ 7,000 บาทนี้ เป็นแค่ค่าตัวไม่รวมค่าเครื่องดื่ม ค่าที่พัก เบ็ดเสร็จแล้วต่อครั้งประมาณ 2-3 ชั่วโมง การใช้บริการจากหนุ่มนิโกรจะมีค่าใช้จ่ายถึง 1 หมื่นบาท ซึ่งบริการหนุ่มผิวดำราคาแพงขนาดนี้ ลูกค้าส่วนใหญ่จะต้องเป็นไฮโซ มีเงินเหลือใช้ ไม่ใช่สินค้าสำหรับหญิงไทยทั่วไปที่มีฐานะระดับขั้นพอมีหยิบฉวย” แหล่งข่าวจากตำรวจท่องเที่ยวให้ข้อมูล
แหล่งข่าวรายเดิมให้ข้อมูลอีกว่า สำหรับ “ลูกค้าไฮโซ” ที่นิยมชมชอบซื้อบริการทางเพศ “หนุ่มนิโกร” ก็ไม่ใช่ประเภทอ้วนฉุ อายุมาก หรือหน้าตาขี้ริ้วขี้เหร่อะไร เพราะส่วนใหญ่ที่เห็นจะหน้าตาดี รูปร่างไม่ธรรมดา แถมอายุอานามไม่ได้มากมายอย่างที่คิด เท่าที่ทราบเคยมีถึงขนาดบางครั้งอายุแค่ 20 ปีก็มี ซึ่งหลายคนคงเกิดคำถามว่าแล้วด้วยสภาพเช่นนี้ ทำไมผู้หญิงเหล่านี้ยังต้องออกมาหาความสำราญนอกบ้าน ถึงขั้นต้อง “ซื้อบริการทางเพศ”
สถานที่อันเป็นที่ศักดิ์สิทธิ์และเป็นสัญลักษณ์ของกรุงเทพกลายเป็นสถานที่สำหรับแบบนี้หรือ ??? แต่สถานที่แห่งนั้นเป็นแหล่งเพราะเชื้อ AIDS ชั้นดี สำหรับคนที่มักมากและไม่ยั้งคิด
Credit : คลับของคนมีคลาส