กรรมชั่วช้าลามกใครเล่าทำให้ เราเองหรอกเป็นผู้มักมาก มักใหญ่ใฝ่สูง ทำแต่ความชั่วใส่ตัวอยู่เป็นนิจ หลายคนที่มีความสุขในการเสพย์กาม มีความสุขกับการสัมผัสเนื้อหนังของหนุ่มหล่อสาวไม่อาจไม่เข้าถึงสิ่งที่กำลังจะกล่าวนี้ แต่กระนั้นเลยการเป็นคนมักมากขี้โลภในกิเลสกาม เอาแต่สนุกสนานในการร่วมเพศ ในวันหนึ่งถ้าไม่ติดกามโรคก็ถือว่าโชคดีของท่านไป แต่คนเราหนีเวรกรรมกันไม่พ้น…
ศีล 5 ข้อ 3 กล่าวว่าอย่างไร?… “กาเมสุมิจฉาจารา เวระมะนี สิกขาปทัง สมาทิยามิ” ข้าพเจ้าขอสมาทาน เว้นห่างไกลจากเมถุน ละเว้นจากเสพย์เมถุนอันเป็นของชาวบ้าน ตลอดวันและคืนนี้”
ต่อไปนี้จะเป็นธรรมะสอนใจจากเหตุการณ์จริงที่พระภิกษุสงฆ์รูปหนึ่งเผชิญพบมาและนำมาเทศนาต่อพุทธศาสนิกชนอยู่เรื่อยมา
“สมัยหนึ่งได้ไปจำพรรษาอยู่ที่ วัดป่าช้าบ้านหัวดง อ.เมือง จ.นครพนม กับ พระอาจารย์อ่ำ (ธัมมกาโม) ที่นั้นเป็นป่าช้าเก่าแก่ ตั้งแต่สมัยเริ่มตั้ง จ.นครพนม เมื่อไปอยู่แล้วก็ตั้งใจทำความเพียร เพราะเราจากครูบาอาจารย์มาแล้วจะประมาทไม่ได้ ในพรรษานั้นก็ตั้งใจไม่นอนตลอดไตรมาส 3 เดือน ทำความเพียรอยู่ใน 3 อิริยาบถเท่านั้น คือ เดิน ยืน นั่ง ทำอยู่อย่างนั้น ไม่ลดละ ไม่หวั่นไหวต่อชีวิตสังขาร เพราะหวั่นไหวแล้วก็ไม่ได้ตามใจหมายทั้งนั้น ทำคุณงามความดี ให้เกิดมีขึ้นในตนเสียดีกว่า”
วันหนึ่งเดินจงกรมถึง 3 ทุ่ม แล้วก็ยืน ยืนกำหนดลมหายใจเข้าว่า พุท ออกว่า โธ อยู่กับ อานาปานสติกรรมฐาน ไม่ลดละ ไม่นาน จิตก็วางพุทโธ จิตก็รวมพึบเกิดแสงสว่างกระจ่างแจ้งในท่ายืนนั้น ไม่นานก็มีกลิ่นเหม็นลอยมา กลิ่นอะไรหนอ เขาฝังศพไม่ลึกแล้วหมาไปคุ้ยกินหรือเปล่าหรือว่ากลิ่นอะไร ไม่นานก็ปรากฏเป็นหญิงเปรต 3 ตน ร่างกายใหญ่โต ตัดผมสั้นทรงดอกกระทุ่มเหมือนคนโบราณในภาคอีสาน ไม่มีผ้าปกปิดร่างกายมายืนอยู่ตรงหน้า ห่างประมาณ 2 วาเท่านั้น มีหนอนตัวดำใหญ่ขนาดเท่านิ้วมือเจาะไชของลับเต็มไปหมด แทงๆงัดๆบิดซ้ายบิดขวา มีน้ำเน่าไหลโทรมกายโทรมขา โทรมก้น ส่งกลิ่นเหม็น ไม่นานก็เอาของลับไปถูไถกับเครือไม้ กิ่งไม้ ต้นไม้ หนอนหลุดออกแล้วก็ไต่เข้าไปอีก
กำหนดถามไปว่า “ทำไมจึงเป็นเช่นนั้น?”
เขาก็ตอบว่า “ท่านอาจารย์ ตั้งแต่เริ่ม จ.นครพนม พวกข้าพเจ้าทั้ง 3 คนนี้เล่นชู้นอกใจผัวทั้งต่อหน้าและลับหลัง ทำให้ผัวคับแค้นอัดอั้นตันใจ ได้ไม่พอ กินไม่อิ่ม เป็นคนมักมากขี้โลภในกิเลสกาม พระเทศน์ให้ฟังว่ากาเมสุมิจฉาจารนั้นทำให้เป็นบาปชั่วช้าลามกก็เฉยไม่เชื่อฟัง เอาแต่สนุกสนานในการคบชู้สู่ชาย ไม่เลือกทั้งฆราวาส ทั้งพระ เอาหมดทั้งนั้น เมื่อตายแล้วจึงมาเกิดเป็นเปรต มีหนอนเจาะของลับอยู่ในป่าช้านี่แหละท่าน”
ถามว่าจะพ้นจากกรรมได้เมื่อไรก็ไม่รู้ ทำอย่าไรจึงจะพ้นกรรมก็ไม่รู้อีก จึงได้กำหนดถามพระธรรมตัวเองว่า “หญิงเปรต 3 ตนนี้ เป็นญาติของเราบ้างไหมหนอ ?”
พระธรรมพูดขึ้นมาที่ใจว่า “เป็น…เป็นญาติกันมาหลายภพหลายชาติแล้ว ครั้นเมื่อเราตกทุกข์ได้ยาก เขาก็ช่วยเหลือสงเคราะห์ ต่างคนก็ต่างสงเคราะห์กันมาอย่างนี้ มาชาตินี้ภพนี้ ต่างคนต่างทำกรรมไม่เหมือนกัน ต่างคนก็ต่างไปคนละภพ แต่กรรมเก่าที่เคยสงเคราะห์กันมา ก็ดลบันดาลให้มาจำพรรษาอยู่ที่นี่ ฉะนั้นจงช่วยเหลือสงเคราะห์เขาเสีย”
จากนั้นก็พูดกับหญิงเปรตนั้นว่า “โยมทั้ง 3 กับอาตมา เคยเป็นญาติกันมาแต่ปางก่อนโน้น หลายภพหลายชาติแล้ว ต่างคนต่างทำกรรมไม่ดี มาชาตินี้ก็เปลี่ยนแปลงภพชาติเป็นอย่างนี้ แต่กรรมเก่าก็ส่งผลให้มาสงเคราะห์ อาตมาจะสงเคราะห์ให้เอาไหม ?”
“เอา…เมตตาสงเคราะห์บ้างเถิดท่าน เป็นเปรตตกทุกข์ยาก ทรมานมานานแสนนาน ตั้งแต่เริ่มตั้ง จ. นครพนม แล้วละท่าน”
“เอ้า…นั่งลง เจ็บปวดก็ทนเอานะ เพราะตนเองทำไว้ ทำอย่างไรก็ให้ผลอย่างนั้น นั่นแหละ อัตตะนา วะกะตัง ปาปัง อัตตะนา สังกิสิสสะติ อัตตะนา อะกะตัง ปาปัง อัตตะนา วะ วิสุชฌะติ ทำบาปเอง ย่อมเศร้าหมองเอง ไม่ทำบาปเองย่อมหมดจดเอง ความหมดจดและความเศร้าหมองเป็นของเฉพาะตน คนอื่นยังคนอื่นให้หมดจดและเศร้าหมองหาได้ไม่ ฉะนั้นบุญก็ดี บาปก็ดี ตนของตนเองหรอก เป็นผู้กระทำสะสมไว้และให้ผลเป็นทุกข์แน่นอน”
เขาก็นั่งลง กราบไหว้ เสร็จแล้วก็ให้เขารับพระไตรสรณคมน์และศีล 5 ธรรมทั้งสองรวมกันเข้าแล้วก็ได้ชื่อว่า มนุสสธัมโม จะได้ภพชาติกับมาเป็นมนุษย์อีก ต่อจากนั้นก็ให้เขาเดินจงกรมบูชา พระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ เอาบุญ ยืนภาวนาบูชา พระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ เอาบุญ พระไตรสรณคมน์และศีล 5 กับการเดินจงกรม นั่งภาวนา เป็นการบำเพ็ญบุญเพื่อล้างบาป พวกท่านทำบาปใหญ่โตมโหฬารแล้ว ใครๆก็ไม่ต้องการทั้งนั้น ฝนตกก็หนาว ลมพัดก็หนาว แดดออกก็ร้อน เป็นทุกข์ยากลำบากแสนกันดารนานแล้วนั่นแหละ จะบอกให้ชาวบ้านหัวดง เขาทำบุญอุทิศส่วนกุศลไปให้ เขาก็เป็นญาติของเราของท่านเหมือนกัน
พอรุ่งเช้าเสร็จจากการบิณฑบาตแล้วก็เล่าให้โยมฟังว่า “เมื่อคืนได้พบหญิงเปรต 3 ตน มาหา ไม่มีเสื้อผ้าใส่ มีแต่หนอนเจาะไชของลับ เจ็บปวดแสนทุกข์ยากทรมาน ดูแล้วน่าสังเวชสลดใจ พวกเขาเหล่านั้นก็เคยเป็นญาติพี่น้องกับพวกท่านมา ฉะนั้น จงทำบุญอุทิศส่วนกุศลไปให้เขาเสีย”
ชาวบ้านเขาทำบุญอุทิศส่วนกุศลไปให้ แล้วเปรตเหล่านั้นก็มารับส่วนบุญ พอถึงวันพระ ๘ ค่ำ ๑๔ ค่ำ ๑๕ ค่ำ ก็ให้เขามารับพระไตรสรณคมน์ และศีล ๘ ตามอย่างมนุษย์
นั่นแล…เทศน์แนะนำพร่ำสอนเขาอยู่อย่างนั้น กรรมชั่วช้าลามกใครเล่าทำให้ เราเองหรอกเป็นผู้มักมาก มักใหญ่ใฝ่สูง ไม่ยอมทำความดี ทำแต่ความชั่วใส่ตัวอยู่เป็นนิจ นี่แหละทำลงไปแล้วก็ให้ผลเป็นทุกข์อย่างนี้
ต่อจากนั้น บางคืนสงบสงัดก็ได้ยินเสียงร้องไห้อยู่กลางป่าช้า (บางทีกลางวันสงบสงัดก็ได้ยิน) “โอ๊ย ! … เจ็บเหลือเกิน เจ็บเด๊…ปวดเด๊…พ่อเอ๊ย…แม่เอ๊ย…เมื่อไหร่หนอจะพ้นจากกรรมเวร” ได้ยินแล้วน่าสงสาร น่าสังเวชสลดใจ เวลาล่วงเลยไปถึงเดือนตุลาคม ขึ้น ๑๐ ค่ำ ไปยืนภาวนาอยู่กลางป่าช้า ไม่นาน จิตใจก็สงบ เห็นหญิงเปรต 3 ตนนั้นมาหา ใส่เสื้อผ้าและมีผ้าเฉลียงบ่าเรียบร้อยดี เข้ามากราบแล้วพูดว่า “ท่านอาจารย์พวกดิฉันพ้นบาปกรรมจากกำเนิดเป็นเปรตแล้ว เพราะว่าท่านมาโปรด หนอนเจาะของลับนั้นตายหมดแล้ว เพราะอำนาจของพระไตรสรณคมน์ และศีล 5 สังหารล้างบาปเคราะห์เข็ญเวรร้ายได้หมดและอำนาจที่ไปอนุโมทนากุศลกับญาติทั้งหลายที่อุทิศให้และท่านอาจารย์อุทิศให้พ้นทุกข์จากกำเนิดเป็นเปรตได้ รวมทั้งที่พวกข้าพเจ้าทั้งหลายได้น้อมเอาพระไตรสรณาคมน์และศีล 5 ไหว้พระสวดมนต์ ภาวนา เดินจงกรมอย่างที่ท่านสอน บาปทั้งหลายก็หมดสิ้นไปไม่เหลือเศษอยู่ได้ เมื่อก่อนนี้ก็มีพระมาจำพรรษาอยู่ที่นี่เป็นร้อยๆก็ไม่มีใครโปรดได้ ไปหาแล้วก็เฉย ผลสุดท้ายเขย่าต้นไม้ถามก็วิ่งหนีขึ้นกุฏิไปเลย บางทีก็หันหน้ามาด่าว่าและขว้างปาใส่อีก แต่สำหรับท่านอาจารย์มาหาแล้วก็คุยกันรู้เรื่องและโปรดสงเคราะห์ช่วยเหลือได้ ต่อแต่นี้ไปพวกดิฉันทั้ง 3 จะขอลาไปเกิดยังเมืองมนุษย์”
อาตมาจึงว่า“พวกพระเหล่านั้นเขาไม่ใช่ญาติของโยมและก็ไม่เคยมีอุปการคุณต่อกันมา อีกทั้งจิตของเขาก็ไม่สงบลงสู่ภพเดียวกัน มันก็ไม่เห็นกันหรอก แต่อาตมากับพวกท่านเป็นญาติกันมาหลายภพหลายชาติแล้ว กรรมเก่าจึงบันดาลให้มาโปรดและถ้าจะไปเกิดยังเมืองมนุษย์ก็ขอให้ไปเกิดที่ จ.สกลนครโน่น เพราะมีพระกรรมฐานมาก มีหลวงปู่ฝั้น อาจาโร หลวงปู่กงมา จิรปุญโญ และอีกหลายองค์หรือไม่ก็ไปที่ จ. อุดรธานี ก็มีพระกรรมฐานมากเช่นกัน ขอให้ภาวนาพุทโธ ธัมโม สังโฆ ไปนะ อย่าได้ประมาท อำนาจของพุทโธ ธัมโม สังโฆ จะพาไปเกิดในตระกูลของนักปราชญ์จะได้แนะนำพร่ำสอนแต่ในทางที่ดี ไปเกิดเป็นมนุษย์แล้วขอให้เข็ดหลายและจดจำผลของความชั่วช้าลามกที่ทำให้มาเกิดเป็นเปรตนี้ไว้ให้ดี อย่าดื้ออย่าด้าน อย่าล่วงประเวณี เล่นชู้ในใจผัวอีกนะ”
เขาก็ว่า “เข็ดแล้วกลัวแล้ว จะไม่ทำอีกต่อไป” จากนั้นก็กราบลา แล้วออกเดินทางไป
ในพระไตรปิฎก มหาวิบากสูตรและพระมาลัยสูตรก็ว่าไว้อย่างนั้นว่าหญิงก็ดี ชายก็ดี นอกใจสามีภรรยา ตายแล้วไปตกมหาตาปนะนรก ถูกนายยมบาลต้มด้วยน้ำร้อน สังหารด้วยหอกด้ามกล้าพร้าด้ามคมแสนปี พ้นจากนั้นเวรกรรมยังไม่สิ้น มาตกคูถนรกจมในหลุมมูตรหลุมคูถท่วมศีรษะ มีหนอนเจาะไชอยู่อย่านั้นเป็นแสนๆปี พ้นจากนั้นมาตกสิมพลีนรกถูกนายยมบาลบังคับให้ปีนต้นงิ้วสูงใหญ่มีหนามยาว สัตว์นรกขึ้นไปแล้วก็ถูกหนามงิ้วทิ่มแทง เป็นบาดแผลตามหน้า ตามเนื้อตัวและแขนขาเป็นทุกขเวทนาสาหัส พอขึ้นไปถึงยอดก็ถูกแร้งกาปากเหล็กจิกหน้าตา ตกลงมาถูกหมาขย้ำฉีกเนื้อกินเป็นอาหาร เหลือจากนั้นหนอนก็เจาะไชกินเป็นอาหาร
พ้นจากนั้น เวรกรรมยังไม่สิ้นไปเกิดเป็นเปรต ผู้หญิงไปเกิดเป็นเปรตของลับใหญ่เต็มหว่างขามีไฟไหม้ เดินไปไหนมาไหนก็ลำบาก ผู้ชายก็ไปเกิดเป็นเปรตมีของลับใหญ่ มีไฟนรกเผาไหม้อยู่ปลายของลับนั้น เดินไปไหนมาไหนก็ลำบาก ทุกข์ยากแสนเข็ญ นั่นแหละบาปกรรมเวรเป็นอย่างนั้น ตายแล้วเกิด เกิดแล้วตายเป็นอยู่อย่างนั้นถึง 500 ชาติ พ้นจากนั้นไปเกิดเป็นสุนัขทั้งตัวผู้ตัวเมียเป็นกามโรค เป็นทุกข์จนตาย ตายแล้วเกิดอีกเป็นอยู่อย่างนั้นอีก 500 ชาติ พ้นจากนั้นมาเกิดเป็นมนุษย์ก็หน้าด้านเสพกามไม่เลือก เป็นกามโรคตายแล้วตายเล่าอีก 500 ชาติ พ้นจากนั้นมาเกิดเป็นมนุษย์ธรรมดา ก็ทุกข์ยากลำบาก นอกใจผัวนอกใจเมียเป็นทุกข์อยู่อย่างนั้นอีก 500 ชาติ
นี่แล….โทษกรรมของกามคุณทั้งหลาย
อัตโนประวัติของ “หลวงปู่จันทา ถาวโร” หนังสือธรรมพเนจร
วัดป่าเขาน้อย ตำบลวังทรายพูน อำเภอวังทรายพูน จังหวัดพิจิตร
Thanks to images from http://i.telegraph.co.uk/multimedia/archive/02314/affair_2314494b.jpg
http://www.mplscounseling.com/counseling-blog/wp-content/uploads/2013/07/Affairs-at-work.jpg
http://img.thesun.co.uk/aidemitlum/archive/01542/sex-on-floor_532_1542091a.jpg
http://images.askmen.com/dating/love_tip_3800/3831_affairs-and-sex-1052193-flash-1052193-flash.jpg