หม่อมหลวงอภิมงคล โสณกุล สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร กรุงเทพมหานคร เขต 1, กรรมาธิการและโฆษกกรรมาธิการการพลังงาน สภาผู้แทนราษฎร และคณะทำงานด้านเศรษฐกิจ พรรคประชาธิปัตย์
เหตุผลที่มาเป็นนักการเมือง
ด้วยความที่โตมาในครอบครัวราชการ ทำให้ผมตั้งใจว่าจะทำงานให้กับประเทศตั้งแต่เรียนจบ ตอนนั้นอายุ 22 ปี มีหลายอย่างที่ทำได้ ก็รับราชการก่อน ถามว่าตั้งใจที่จะหันชีวิตไปสู่ถนนสายการเมืองไหม ผมคิดมาตลอด โดยเฉพาะหลังจากที่มีรัฐธรรมนูญปี 2540 ความมั่นคงของฝ่ายการเมืองมีมากขึ้น รัฐบาลสามารถอยู่ครบเทอมได้ ความสำคัญด้านการเมืองมีมากขึ้น แต่ก็ไม่ได้ตั้งเป้าไว้ชัดเจนว่าอายุ 26 จะมาลงสมัครสส. เพียงเห็นว่าการเมืองช่วงนั้นนิ่งมากขึ้น เป็นโอกาสที่ดีที่จะลงเลือกตั้ง ก็เดินเข้ามา
ความฝันสูงสุดในฐานะนักการเมือง
ผมไม่ได้มองตรงนั้น ถือเพียงว่าวันนี้มีโอกาสที่ประชาชนให้มา ก็ใช้โอกาสนั้นให้ดีที่สุด แล้วก็ทำงานรับใช้ประชาชนอย่างซื่อสัตย์สุจริตที่สุด ซึ่งวันหนึ่งถ้าผมได้เป็นฝ่ายบริหาร ก็หวังว่าจะสร้างการเปลี่ยนแปลงที่เป็นประโยชน์อย่างยั่งยืนแก่ประชาชนและประเทศ อาจไม่ต้องมากมายหลายอย่าง แต่เท่าที่เรามีความสามารถจะทำได้ ผมก็พอใจแล้ว
ปัญหาหนักของสังคมไทย
ปัญหาสำคัญที่ผมคิดว่า “ที่สุด” ตอนนี้ก็คือเรื่องความสามัคคี ความแตกแยกทางความคิดมันบานปลายไปทุกที ทั้งที่จริงๆ แล้วความเห็นที่แตกต่างทางการเมืองมันมีมาตลอด มันไม่ใช่เรื่องแปลกประหลาดในระบอบประชาธิปไตย ไม่ใช่เรื่องที่ต้องกลัวหรือว่าต้องพยายามลดลง เพราะระบอบประชาธิปไตยต้องเป็นอย่างนั้น ต้องหลากหลาย แต่ที่น่าเป็นห่วงที่สุดในวันนี้ก็คือความแตกต่างทางความคิด โดยเฉพาะค่านิยมของคน มันนำไปสู่ปัญหาความรุนแรง นำไปสู่ความแตกแยกที่ไม่สามารถพูดคุยกันได้อีกแล้ว ตรงนี้ผมคิดว่าไม่ใช่หน้าที่เฉพาะของนักการเมือง เป็นหน้าที่ของประชาชนทุกคนที่จะต้องเร่งแก้ไข ต้องถอยคนละก้าว แล้วนำเรื่องที่เป็นปัญหาเข้าสู่กระบวนการทางการเมือง เพราะปัญหานี้มันบานปลายไปสู่ปัญหาเศรษฐกิจและอะไรต่ออะไรอีกเยอะแยะ ถ้าแก้ไขตรงนี้ได้ ผมคิดว่าจะช่วยสังคมไทยให้เดินต่อไปได้
+++++++++++++++++
