ระย้า เป็นผลงานการแสดงแรกในวงการบันเทิงของผม ช่วงแรกมีบ้างที่เพื่อนๆ มักแซวว่าดูผลงานนะ เล่นแข็งเป็นไม้กระดานเลย ฯลฯ ก็ว่ากันไป ถ้าจะนับแล้วผมอยู่ในวงการฯ มาก็เกือบ 30 ปี เข้าวงการตั้งแต่ประมาณปี 2521 เริ่มฝึกเรียนแอคติ้ง ฝึกคิวบู๊ ถ่ายทำปี 2522 ประมาณ 29-30 ปีแล้ว
สำหรับผมไม่รู้สึกว่าชีวิตผมเปลี่ยนไป(จากเดิม)เพราะมีความรู้สึกตลอดเวลาว่าเราก็ยังเป็นเรา เมื่อสมัยที่เราเป็นเด็กๆ เป็นอย่างไรเราก็ยังเป็นอย่างเดิมไปเจอเพื่อนที่สนิทกันหรืออยู่ด้วยกันเราก็ยังเหมือนเดิม สามารถไปเดินห้าง ไปกินก๋วยเตี๋ยวข้างถนน ทำอะไรๆ ได้ตามปรกติ ก่อนเข้าวงการเป็นอย่างไรเมื่อเข้ามาในวงการแล้วก็ยังเป็นแบบนั้น อาจจะมีแฟนๆ มากขึ้น เขาเข้ามาทักทายเรา ขอลายเซ็นบ้างผมรู้สึกว่าเราเหล่านี้เป็นเรื่องธรรมดา เรื่องปรกติ ดีใจด้วยที่เรามีแฟนๆ ยังรักเราอยู่
การโลดแล่นอยู่ในวงการได้นานคือผมตั้งใจกับการทำงานทุกชิ้น เพราะมีความรู้สึกอย่างหนึ่งว่าเราต้องรักงานของเราในทุกๆ ชิ้น และตั้งใจทำมันให้ดีที่สุดในทุกๆ ชิ้น ที่เราได้รับมอบหมายมาไม่ว่าจะเป็นนักแสดงหรืองานอะไรก็ตามแต่ที่ไม่ได้เกี่ยวกับนักแสดง บางอันเราอาจจะไม่เก่งที่จะทำตรงนั้นแต่เราก็ต้องตั้งใจทำให้เต็มที่
เลือกทำหรือเลือกไม่ทำงานนั้นมีหลายสาเหตุในวงการฯ ทั้งแบบ (รับ) เล่นเพราะเป็นพี่เป็นน้องเป็นคนที่เคารพนับถือ บางเรื่องเราก็เล่นเพราะส่วนหนึ่งอยากทำ บางเรื่องเราก็เลือกรับงาน แล้วแต่ความคิดของเรา สำหรับผมเป็นอิสระไม่มีกฎเกณฑ์ในการเลือกงานนะครับ
มาถึงตอนนี้กลายเป็นว่าทุกคนเรียกผมว่า “พระเอกตลอดกาล” อาจเป็นเพราะเขาคงเห็นเรามานานมากแล้ว ผมยังไม่คิดถึงสิ่งนั้น ที่เราเล่นมาทั้งหมดผมก็สวมบทบาททุกบทบาท บางทีก็ไม่ได้เป็นพระเอก ไปเป็นตัวเอก เป็นตัวร้าย เป็นฆาตกร มันสนุกกับการที่ได้เล่นในหลายๆ บทบาท แต่ก็ยังโชคดีที่เขาเห็นว่าถึงจะไปเล่นตัวร้ายแล้วแต่ก็ยังมีความรู้สึกว่าเห็นเรามานานมากแล้วก็เล่นเป็นพระเอกมาตลอด อาจจะเป็นบทในเรื่องตี๋ใหญ่ ปริศนา สี่แผ่นดิน หนังบู๊ต่างๆ ที่เคยเล่นมา
ถึงเราจะอยู่เบื้องหลังบ้างแต่ว่าในใจของตัวเองก็ยังอยากแสดงอยู่ ผมก็จะแสดงไปเรื่อยๆ..อย่างรุ่นแม่จุ๊ (จุรี โอศิริ) ป๋า ส. (สมชาย อาสนจินดา) ฯลฯ เวลาไปแสดงแล้วมีความสนุกนะครับ เรารักกับสิ่งที่เราได้ไปทำมา
Text : วสิน ทับวงษ์ Photo : สรวิชญ์ หอมสุวรรณ