จากประสบการณ์ในการบันทึกเกียรติยศความสำเร็จของเหล่าผู้นำและผู้บริหารระดับสูงจากทั่วทุกวงการของไทยตลอดเวลากว่าสองทศวรรษ คุณลักษณะสำคัญประการหนึ่งที่เป็นจุดเด่นของเหล่าผู้ประสบความสำเร็จนั้นคือพรสวรรค์ในการมองเห็นโอกาส ในทุกสถานการณ์ แม้ห้วงวิกฤต นอกเหนือจากสติปัญญา วิสัยทัศน์ ความวิริยะอุตสาหะและความเป็นผู้นำ ทั้งในการปฏิบัติหน้าที่และชีวิตส่วนตัว
ณ ปัจจุบันคงไม่มีใครไม่รู้จักร้านอาหารสุดหรู Sirocco ซึ่งตั้งอยู่บนยอดตึกโรงแรมเลอบัว และคงเคยได้ยินข่าวอาหารมื้อละล้านที่เป็นที่พูดถึงเมื่อต้นปีที่แล้ว ซึ่งวันนี้เรานั่งสนทนาอยู่กับผู้บริหารมือทองผู้อยู่เบื้องหลังความสำเร็จ ในระยะเวลาอันสั้นของกลุ่มโรงแรมเลอบัวอย่าง ดีภัค โอหริ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่มโรงแรมเลอบัว โฮเต็ล แอนด์ รีสอร์ท
Hi class: กรุณาเล่าถึงจุดเริ่มต้นของการทำงานของคุณ
ผมเรียนไปด้วยทำงานไปด้วยตั้งแต่เด็ก เริ่มจากล้างชามก่อน ได้ค่าแรงวันละประมาณ 15 บาท ซึ่งก็ใช้หมดไปกับค่ารถไปโรงเรียน ค่าอาหารกลางวัน จนวันหนึ่งก็ได้เลื่อนขึ้นไปเป็นผู้จัดการฝึกหัดของร้าน อีก 1 ปีต่อมาผมจึงได้เป็นผู้จัดการเต็มตัวเสียที หลังจากนั้นก็เปลี่ยนมาทำงานด้าน Operation และในที่สุดก็เริ่มสนใจการบริหารร้านอาหาร
หลังจากนั้นผมย้ายไปทำงานที่โรงแรม Kempinsky ในตำแหน่งผู้ช่วยผู้จัดการใหญ่อีกประมาณ 1 ปี แล้วจึงย้ายมาที่ประเทศสิงคโปร์เพื่อเปิดร้านอาหารอินเดียที่นั่น ตอนนั้นร้านที่ผมเปิดถือเป็นร้านอาหารอินเดียที่ราคาแพงที่สุดสิงคโปร์ อยู่ที่นั่นอีกประมาณ 2 ปีจึงย้ายมาที่กรุงเทพ เมื่อประมาณปี 2537 แล้วเปิดร้าน Paulaner Beer House หลังจากนั้นอีกประมาณ 6 เดือนจึงขยายไปเปิดที่ประเทศสิงคโปร์ แล้วผมก็ไปทำงานที่ยุโรปพักหนึ่ง จึงกลับมารับงานที่โรงแรมเครือ Taj Hotel ที่อินเดีย แล้วมาจับงานธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ที่เมืองไทย ก่อนที่จะเข้ามาที่ The Dome
Hi class: สิ่งที่ทำให้คุณสนใจงานด้านธุรกิจการบริการคืออะไร
พี่ของผมเขาดูลักษณะของผม แล้วบอกว่าผมน่าจะทำงานด้านนี้ได้ดี เพราะผมชอบกินและดื่ม ซึ่งอันที่จริงมันก็น่าจะเกี่ยวข้องกัน (หัวเราะ) แต่พอได้เข้ามาทำจริงๆถึงเข้าใจว่าไม่ใช่แค่กินกับดื่มเท่านั้น มีอะไรมากกว่านี้เยอะ เรียกว่าเป็นงานที่หนักมาก แต่เมื่อตัดสินใจเข้ามาทำแล้ว ผมก็สนุกกับงานนี้มาก
วันหนึ่งถ้าผมสามารถเปลี่ยนอะไรบางอย่างของงานด้านนี้ได้ เช่นวิธีคิดและวิธีการทำงานของบุคลากร ผมก็อยากจะทำ แล้วก็กำลังพยายามทำอยู่ ผมปลื้มใจมากที่ได้เข้ามาทำงานในกลุ่มโรงเรมเลอบัว โฮเต็ล แอนด์ รีสอร์ท เพราะว่าเจ้านายของผม คุณรัฐวดี บัวเลิศให้อิสระในการทำงานอย่างมาก ที่นี่เราทำงานกันไม่เหมือนที่อื่นเลย
ผมทำงานมา 20 ปี ซึ่งก็ไม่ถือว่านานนะ แต่ก็ถือเป็นครึ่งหนึ่งของชีวิตการทำงาน จริงๆเท่านี้ก็อาจจะเพียงพอแล้วที่จะบอกอะไรเราได้ คุณจะประสบความสำเร็จได้ก็ต่อเมื่อคุณสามารถทำงานได้ในหลายมิติ สามารถมองภาพรวมหรือลงรายละเอียดก็ได้ จัดการทรัพยากรบุคคลหรือลงไปทำงาน Labour ก็ได้(หัวเราะ) ใน 20 ปีที่ผ่านมานั้นก็สอนผมว่าอะไรดี อะไรไม่ดี
Hi class: คุณคิดว่าอะไรคือปัจจัยที่ทำให้คุณประสบความสำเร็จ
จริงๆแล้ว ส่วนตัวผมถือว่ายังไม่ประสบความสำเร็จ เพราะสำเร็จในความหมายของผมก็คือเราสามารถเป็นผู้นำในการสร้างสรรค์สิ่งใหม่ๆและเป็นแรงบันดาลใจในธุรกิจการบริการได้ผมมองว่าในวงการโรงแรมนั้นยังแข่งขันกันไม่สูงมากอย่างที่ควรจะเป็น ผมต้องการส่งต่อข้อความนี้ออกไปทั่วโลก อยากบอกว่าถ้ามีวงการไหนที่จะทำอะไรแล้วได้ผลเกินความคาดหมายก็ควรจะเป็นวงการนี้ ถ้าบริษัทของผมยังไม่ส่งต่อข้อความนี้ออกไปได้อย่างทั่วถึง ผมก็ยังไม่คิดว่าผมประสบความสำเร็จ
Hi class: คุณคิดว่าทุกวันนี้คุณยังสื่อสารไม่มากพอ
หลังจากการให้สัมภาษณ์ครั้งนี้ ผมว่าก็คงจะได้ผลน่าพอใจแล้ว (หัวเราะ) ตอนนี้ทัศนคติของคนในวงการนี้ยังไม่ค่อยน่าพอใจเท่าไร คนยังคิดว่าการใช้บริการด้านนี้ยังไม่ใช่สิ่งจำเป็น ทำให้ไม่เกิดการแข่งขันและคิดค้นอะไรใหม่ๆ แต่ผมเห็นว่าวงการนี้จำเป็นต้องใช้คนที่มีความคิดสร้างสรรค์สูงมาก เพราะฉะนั้นเราจึงต้องการคนที่ใช้สมองซีกขวามากกว่าสมองซีกซ้าย
การคิดค้นสิ่งใหม่ๆเป็นเรื่องสำคัญมาก เพราะเป็นปัจจัยหนึ่งในการก้าวไปสู่ความสำเร็จ อย่างวงการเครื่องบินก็ต้องคิดค้นนวัตกรรมขึ้นมาอยู่เสมอ เช่น เครื่องบินรุ่น A 380 เป็นต้น วงการ Life Style บริษัทอย่าง Apple เขาก็สร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์ที่เปลี่ยนแปลงโลกไปเลย เช่น iPod และ iPhone เพราะฉะนั้น วงการการบริการก็ต้องคิดอะไรใหม่ๆออกมาเรื่อยๆเหมือนกัน
แต่การจะสร้างสรรค์สิ่งใหม่ๆออกมาได้แล้วเป็นที่สนใจ เป็นที่นิยมนั้น อย่างแรกเราก็ต้องเข้าใจคนและพฤติกรรมของคนให้ได้ก่อน ผมถือว่าผมเป็นเพียงโซ่ข้อเล็ก ไม่ได้มีบทบาท ตัวตนอะไรมากนัก แต่ผมก็ดีใจมากที่สิ่งที่ผมได้ทำไว้เมื่อ 2 ปีก่อน เป็นแรงบันดาลใจให้กับโรงแรมหลายๆแห่ง ในการให้ความสำคัญกับการทำความเข้าใจพฤติกรรมผู้บริโภค และใช้ความรู้ความเข้าใจตรงนั้นมาสร้างสรรค์สินค้าที่ตรงกับความต้องการของพวกเขา
Hi class: คุณวาดอนาคตของเครือโรงแรมเลอบัว โฮเต็ล แอนด์ รีสอร์ท ไว้อย่างไร
ผมคิดเรื่องการเติบโตอยู่เหมือนกัน แต่ก็คิดว่าต้องเริ่มจากรากฐานที่มั่นคงแข็งแรงก่อน แล้วจึงกำหนดจุดหมายที่แน่นอน
Hi class: ปัจจัยหลักที่ทำให้อุตสาหกรรมการบริการประสบความสำเร็จคืออะไร
ไม่ว่าวงการไหนก็ตาม ปัจจัยหลักที่ทำให้ประสบความสำเร็จคือการคิดนอกกรอบ มองให้เห็นภาพรวมเพื่อกำหนดทิศทาง ตัวอย่างเช่นเมื่อ 4 ปีที่แล้ว ตอนเปิดร้านอาหารแห่งแรก(Sirocco) ไม่มีใครคิดว่าจะประสบความสำเร็จเลย เพราะที่ตั้งค่อนข้างจะโดดเดี่ยวบนตึกสูงที่เกือบจะร้าง คนก็พากันคิดว่าคงไปไม่รอด
ครั้งหนึ่งมีเพื่อนๆที่ทำกิจการโรงแรมมาเยี่ยม เขาก็บอกว่าต้องมีอะไรผิดพลาดแน่ เพราะบาร์ของเราไม่มีที่นั่ง คือบาร์ที่Sirocco เป็น Standing bar แห่งแรกในเมืองไทย แล้วคนเขาก็ไม่คิดว่าจะมีบาร์แบบนี้ด้วย แสดงให้เห็นว่าคนในวงการนี้ยังไม่สามารถยอมรับอะไรใหม่ได้
ผมถือคติว่าผมกำลังขายความหรูหรา แล้วคนประเภทที่จะมาซื้อความหรูหราก็คงไม่อยากถูกบอกว่าต้องใช้อะไร อย่างไร เผื่อว่าบางที่จะมีของใหม่จนเขาใช้ไม่เป็น อย่างเช่นรีโมทที่สั่งการได้ทุกอย่างในห้องพัก เป็นต้น ลูกค้าระดับนี้ต้องการอะไรง่ายๆ มีคุณภาพ และแตกต่าง
อย่างที่เล่าให้ฟัง ก่อนที่ผมจะทำอะไรลงไป ผมศึกษามาก่อนแล้วว่าลูกค้าต้องการอะไร แล้วผมก็ให้ในสิ่งที่เขาต้องการ เพราะอย่างนี้เราจึงประสบความสำเร็จได้ในระยะเวลาอันรวดเร็ว
สิ่งง่ายๆ ที่ลูกค้าต้องการก็แค่บริการที่ดี อาหารคุณภาพดี เมื่อเขาอยากใช้เวลา 2-3 ชั่วโมงมารับประทานอาหาร เขาก็ต้องอยากใช้เวลาเหล่านั้นให้คุ้มค่าที่สุด ส่วนในโรงแรม ลูกค้าก็ต้องการเตียงที่นอนสบาย แล้วก็อุณหภูมิเหมาะๆ ในห้อง อาหารกับเครื่องดื่มที่ดี เพียงเท่านี้ แต่มีคนน้อยมากที่เข้าใจสิ่งที่พวกเขาต้องการ
เหตุผลหนึ่งที่ผมคิดว่าทำให้ผมเข้ามาอยู่ในตำแหน่งนี้ได้ อาจเป็นเพราะผมเข้าใจในเกมส์ของผมเอง ผมเริ่มต้นจากศูนย์ ก่อนจะเริ่มสร้างแบรนด์ของตัวเอง แล้วจึงแข่งขันกับคนอื่นเพื่อจะได้สร้างสิ่งใหม่ๆ อย่างหนึ่งที่สำคัญมากคือเราต้องเข้าใจคนของเรา เปรียบไปก็เหมือนเราเป็นโรงแรมห้าดาวที่ไม่มีแบรนด์ ขณะที่คนอื่นเป็นโรงแรมห้าดาวที่มีแบรนด์ระดับโลกอยู่แล้ว เราจะอยู่รอดได้อย่างไร วิธีเดียวก็คือการคิดค้นสร้างสรรค์สิ่งใหม่ๆ สินค้าและบริการของเราต้องอยู่ในความรับรู้และสามารถเกิดขึ้นได้จริง โดยมีคุณภาพอยู่ในระดับต้นๆแน่นอนว่าการจะได้มาซึ่งสิ่งเหล่านี้เราต้องใช้กำลังเยอะมาก ใช้คนเยอะ ใช้ความคิดเยอะ ใช้ความกล้าหาญอย่างสูง เพื่อให้สิ่งที่เราสร้างขึ้นมานั้นได้ผลสมบูรณ์ที่สุด
Hi class: ถ้าอย่างนั้นการสร้างให้แบรนด์ของคุณเป็น Luxury ต้องใช้หลักเหมือนกันไหม
ผมมองว่าความหรูหราไม่ได้จำเป็นต้องแพง คนจนก็หรูหราได้ (หัวเราะ) เช่นเวลาคุณออกไปตามชนบท คุณสามารถขายแปรงสีฟันธรรมดาในราคาบาทเดียวก็ได้ บางทีคนเหล่านั้นอาจยังไม่คุ้นเคยกับการแปรงฟันเลยด้วยซ้ำ แค่นั้นก็เป็นความหรูหราของเขาแล้ว
เพราะฉะนั้นความหรูหราจึงไม่ใช่สิทธิที่จำกัดอยู่เฉพาะคนกลุ่มใดกลุ่มหนึ่งเท่านั้น เมื่อบอกว่าหรูหรา ราคาอาจจะเท่าไรก็ได้ แค่เป็นของพิเศษที่ไม่สามารถซื้อหาได้จากที่อื่นได้เท่านั้น อย่างน้ำส้มคั้น (ที่เสิร์ฟพวกเราอยู่บนโต๊ะสัมภาษณ์) ในเวลานี้ ของเราเป็นที่เดียวที่ใช้มือคั้นแทนที่จะใช้เครื่องบีบ อันที่จริงที่อื่นเขาก็สามารถคั้นด้วยมือได้ แต่เมื่อไรที่เขาทำ ของเราก็ไม่ใช่ของหรูหราอีกต่อไป เพราะกลายเป็นของที่หาได้ทั่วไปเสียแล้ว
Hi class: จากร้านอาหาร 3 ร้านและโรงแรม Maritus Suite อะไรคือแรงบันดาลใจให้คุณพัฒนาเป็นแบรนด์ Lebua ขึ้นมา
อันที่จริงเป็นความคิดของคุณรัฐวดี บัวเลิศ ซึ่งผมยอมรับว่าเธอเป็นคนฉลาดมาก เธอมองเห็นว่าลูกค้าที่มาโรงแรมกับร้านอาหารนั้นเป็นคนละกลุ่มกัน แล้วเกิดความคิดว่าต้องการให้คนเหล่านั้นรวมเป็นกลุ่มเดียวกัน ผมเป็นคนรับความคิดนั้นมาทำต่อ เลยบริษัทเราจาก The Dome เลยเปลี่ยนมาเป็น Lebua
Hi class: ส่วนใหญ่ลูกค้าเป็นใคร
หลากหลายมาก มาจากสหรัฐอเมริกา, อังกฤษ, เยอรมนี, ญี่ปุ่น, อินเดีย, ฮ่องกงและจีน
Hi class: คุณมองความเหมือนหรือความแตกต่างของลูกค้าเหล่านั้นอย่างไร
สิ่งที่เหมือนกันก็คือพวกเขาต่างก็มองหาความไม่สม่ำเสมอที่สม่ำเสมอ โรงแรมทั่วไปมีความสม่ำเสมอให้คุณทุกๆที่ แตกต่างกันก็แค่การตกแต่งและบรรยากาศเท่านั้น แต่เราสามารถให้บริการที่สม่ำเสมอได้ ในขณะเดียวกันก็ซ่อนความไม่สม่ำเสมอเอาไว้ได้ด้วย ยกตัวอย่างเช่นวันหนึ่งคุณมาที่นี่กับเพื่อน อีกวันหนึ่งคุณมากับสาวสวย แล้วอีกวันหนึ่งคุณกลับมาพร้อมกับภรรยาอีกครั้ง ทุกครั้งพนักงานก็จะบอกว่าคุณเพิ่งมาเป็นครั้งแรก แล้วเราก็จะไม่เอ่ยชื่อของคุณ จนกว่าคุณจะอนุญาต (หัวเราะ) นี่คือความไม่สม่ำเสมอที่คุณจะต้องชอบ ในขณะที่เราจะยิ้มและไหว้อย่างสม่ำเสมอ เราคิดอยู่เสมอว่าเราควรทำหรือไม่ทำอะไรเมื่อไร
Hi class: คุณต้องพบกับคนหลายชาติ สิ่งที่ยากที่สุดในการเข้ากับพวกเขาให้ได้คืออะไร
ผมคิดอยู่เสมอว่าเราจะทำอย่างไรให้มีผลิตภัณฑ์เพียงหนึ่งเดียวที่ทุกคนชื่นชอบ ตรงนี้คือสิ่งที่ยากที่สุด นอกจากนี้เราก็จะพยายามค้นคว้าผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ ในขณะที่คงผลิตภัณฑ์ที่ได้รับการยอมรับไว้ให้ได้มาตรฐาน คุณอาจไม่ทันได้สังเกตว่าปัจจุบันนี้ สิ่งที่หายากมากที่สุดในโลกก็คือความเรียบง่าย และนั่นก็เป็นสิ่งที่คนต้องการมากด้วย ซึ่งอันนี้เองที่เราเรียกว่าความหรูหรา เพราะเป็นสิ่งหายาก
Hi class: รู้สึกว่าคุณพัฒนาตัวเองอยู่เสมอทุกวันคุณมีเคล็ดลับอย่างไร
เราไม่ได้พัฒนาทุกวันนะ เราพัฒนาทุกนาที เริ่มจากอ่านหนังสือ แล้วก็มอง แต่ผมไม่มองแค่ในวงการของตัวเองเท่านั้น ไม่เคยมองคู่แข่งในวงการเดียวกันแต่เพียงอย่างดียว ผมมองวงการอื่นด้วย เพราะฉะนั้นคู่แข่งคนสำคัญของผมจึงเป็น Microsoft, Apple, Singapore airline, Mc Donald, Starbucks เป็นต้น เพราะแบรนด์เหล่านี้มีส่วนสร้างพฤติกรรมใหม่ของมนุษย์ ทำให้ลูกค้าไม่สามารถขาดสินค้าของพวกเขาได้ แล้วพวกเขาก็ประสบความสำเร็จด้วย นั่นคือสิ่งที่ผมเองก็ต้องการเป็นเช่นกัน ยกตัวอย่างคุณสามารถไปโรมได้โดยที่ไม่ต้องไปวาติกัน แต่คุณจะไม่สามารถมากรุงเทพได้โดยที่ไม่ได้มาที่ Sirocco นั่นคือเป้าหมายและมุมมองของผม
สมมุติถ้าผมอยู่ในวงการนิตยสาร ผมก็จะไม่ดูนิตยสารต่างประเทศเลย แต่จะพยายามทำให้ต่างประเทศหยิบนิตยสารผมขึ้นมาดูให้ได้
Hi class: อะไรหล่อหลอมความคิดเหล่านี้ของคุณขึ้นมา
เมื่อก่อนผมผ่านงานลำบากมามาก สอนให้ผมรู้จักวีธีเอาตัวรอดในโลกได้อย่างมีประสิทธิภาพ (หัวเราะ)
Hi class: คุณตั้งเป้าหมายไว้ค่อนข้างสูง แล้วคุณคิดว่าจะใช้เวลาเท่าไรจึงจะไปถึง
ผมมีเป้าหมาย 3 ระยะ คือระยะสั้น ระยะกลาง แล้วก็ระยะยาว โดยใช้แผนหลายๆแผน แต่ละแผนก็ควรใช้เวลาไม่เกิน 1 ปี เพราะโลกเปลี่ยนไปเร็วมาก
Hi class: คุณใช้วิธีไหนถ่ายทอดความคิดและนโยบายไปสู่ผู้คนในองค์กร
โรงแรมทั่วไปเขาอาจจะประชุมกันทุกเช้า แล้วพูดคุยกันว่าวันที่ผ่านมาพวกเขาทำอะไรไปบ้าง มีคนมาพักกี่ห้อง รายได้เท่าไร มีแขก VIP เข้ามาไหม เป็นใคร แล้วจะกลับเข้ามาอีกเมื่อไร แต่ของพวกเราไม่ได้เป็นแบบนั้น เราจะเล่าให้กันฟังถึงพฤติกรรมของลูกค้า เมื่อเกิดความผิดพลาดตรงไหนขึ้นมา เราก็พยายามจะเข้าไปแก้ให้ถึงแก่นของปัญหา แล้วดูว่าที่เราทำลงไปนั้นผิดหรือถูก เพื่อจะได้ปรับตัวได้ง่ายๆ เมื่อไรที่การประชุมเริ่มน่าเบื่อหรือไม่สร้างสรรค์ ก็จะมีคนบอกเลยว่าการประชุมนี้ควรจบลงได้แล้ว
เราพยายามผลักดันและให้กำลังใจคนของเราอยู่เสมอ กระตุ้นให้พวกเขามีความคิดสร้างสรรค์ ผมจะให้แนวทางกว้างๆเพื่อให้เขามีโอกาสได้ใส่ความคิดสร้างสรรค์ของเขาลงไป โดยที่พวกเขาต้องตระหนักได้เองว่าแนวทางเหล่านี้จะนำเขาไปสู่ความสำเร็จและหาเงินได้อย่างน่าพอใจ
ผมให้อิสระกับคนของผม ให้พวกเขาได้คิดและสร้างสรรค์ ปัจจุบันความคิดสร้างสรรค์สำคัญมาก คู่แข่งของเราแต่ละแห่งล้วนเต็มไปด้วยความคิดสร้างสรรค์กันทั้งนั้น
Hi class: อยากทราบถึงโครงการ Lake Okareka Lodge by Lebua ที่ประเทศนิวซีแลนด์
ผมเชื่อเหลือเกินว่าโครงการนี้ต้องประสบความสำเร็จอย่างแน่นอน และต้องไปได้ดีกว่าที่นี่เสียอีก ผมว่าคนที่จะประสบความสำเร็จอย่างสูงได้ ไม่ใช่แค่คนทำงานหนัก แต่ต้องมาจากการคิดเยอะๆ จากพลังสมอง สมองของเราทั้งซีกซ้าย กลาง และขวาจะผลิตเอนไซม์ออกมาเมื่อถูกกระตุ้นและใช้งาน ถึงตอนนั้นเราก็จะเหนื่อยและต้องการการผ่อนคลาย หลุดพ้น หากคุณต้องการสิ่งเหล่านี้คุณก็ต้องไปเยี่ยมโครงการของเราที่นิวซีแลนด์ ถ้าคุณไม่เชื่อผมก็อยากให้คุณลองหาโอกาสไปดูด้วยตาตัวเอง
เราใช้งบประมาณไปประมาณ 10 ล้านเหรียญ มีที่ตั้งอยู่ทางตอนเหนือของนิวซีแลนด์ ที่เมือง Rotorua ริมทะเลสาบ Okareka ความพิเศษก็คือถึงจะเป็นบ้านเดี่ยวแต่ไม่ว่าคุณจะไปกัน 2 คน หรือ 6 คนก็ตาม คุณก็จะได้บ้านทั้งหลัง พื้นที่ใช้สอย พนักงานและการรักษาความปลอดภัยไปทั้งหมดเลย
บ้านเป็นแบบ 3 ห้องนอน แต่สำหรับลูกค้ารายเดียวเท่านั้น อยู่กันได้ถึง 6 คน ถ้าไปเป็นคู่ก็แค่ 3,000 ยูโร ถ้ามีคนเพิ่มเราก็คิดเพียงคนละ 500 ยูโร
เรามีสปากลางแจ้งซึ่งมีน้ำอุ่นไว้บริการด้วย มีเรือส่วนตัว มีสนามจอดเฮลิคอปเตอร์ส่วนตัว หากเดินทางมากจากเมือง Auckland ด้วยเฮลิคอปเตอร์ก็จะมาถึงที่นี่ในเวลาเพียง 45 นาทีเท่านั้น มีทางเดิน มีเส้นทางสำหรับขี่จักรยาน สนามกอล์ฟ ที่สำหรับล่าสัตว์ แน่นอนว่าที่นี่จะทำให้คุณมีแรงบันดาลใจและสามารถลืมเรื่องวุ่นๆทุกอย่างในเวลานั้นไปได้เลย
เชื่อว่าทุกอย่างที่นั่นจะทำให้คุณอยากมีชีวิตยืนยาวขึ้น (หัวเราะ) อยากจะประสบความสำเร็จมากขึ้น เมื่อมองไปที่ภูเขาก็จะได้เห็น ได้คิดว่ายังมีอะไรให้เราไขว่คว้าอีกมาก
หลายครั้งที่สถานที่ให้บทเรียนแก่เรา อย่างเวลาคุณขี่จักรยานขึ้นภูเขาคุณก็จะต้องมีเป้าหมาย แล้วระหว่างทางก็มีอุปสรรค นั่นล่ะชีวิต สิ่งเหล่านี้ล้วนสร้างพุทธิปัญญาแล้วก็ให้ชีวิตชีวากับเราด้วย
Hi class: คุณได้แรงบันดาลใจสำหรับโครงการที่ Lake Okareka มาจากไหน
เกิดขึ้นเพราะลูกค้าของเราที่มาจากอังกฤษและเยอรมนี ที่จะไปนิวซีแลนด์ต้องผ่านกรุงเทพ เราจึงอยากไปสร้างธุรกิจที่นั่นบ้าง
Hi class: โครงการแต่ละแห่งของคุณค่อนข้างแตกต่างกัน งานแต่ละชิ้นของคุณสร้างมาตรฐานใหม่ เปลี่ยนแปลงพฤติกรรมผู้บริโภค แล้ววันหนึ่งคุณก็จะครองโลก
(หัวเราะ) ใช่ครับ งานแต่ละโครงการจะต้องแตกต่างกัน อย่างตอนนี้ผมคิดจะไปนิวยอร์ค เพราะผมตั้งใจจะไปในที่ที่อิ่มตัวจนไม่มีตำแหน่งให้ความหรูหราแทรกเข้าไปได้แล้ว ซึ่งแน่นอนว่าเป็นเรื่องยากที่จะเจาะกลุ่มลูกค้าระดับสูง แต่ก็ท้าทายมาก ผมอยากเข้าไปเปลี่ยนเทรนด์ สร้างรสนิยมขึ้นมาใหม่ ซึ่งผมไม่ไช่แค่ท้าทายตัวเองเท่านั้นแต่ยังท้าทายคู่แข่งของผมอีกด้วย สำหรับที่นิวซีแลนด์บังเอิญเจ้านายของผมมีที่ดินที่นั่นอยู่ก่อนแล้ว ซึ่งอันที่จริงไม่ใช้ประโยชน์อะไรก็ได้ แต่เราอยากลองใช้ดู ส่วนที่นิวยอร์คเราคงต้องหาซื้อที่ดินใหม่ อะไรที่คนเอเชียทำ คนเอเชียเองมักไม่ค่อยเชื่อถือ ที่นี้เราก็จะไปนิวยอร์คแล้วทำให้ดูว่าบริษัทไทยทำอะไรได้บ้าง คนไทยเป็นคนที่มีจิตวิญญาณในการบริการสูงที่สุดในโลกก็ว่าได้ ดังนั้นงานของพวกเราจึงเต็มไปด้วยคุณภาพ แล้วเราก็จะไม่ไช่แค่ทำให้ Lebua เป็นที่รู้จักเท่านั้น แต่ยังทำให้ประเทศไทยเป็นที่ยอมรับมากขึ้นอีกด้วยทุกโรงแรมในโลกต่างก็มองหาคนไทยเข้าไปร่วมงานด้วยทั้งนั้น แต่ไม่ใช่ในระดับผู้บริหาร ซึ่งจริงๆแล้วคนไทยสามารถทำได้ดีทั้งงานบริหารและงานบริการ ผมตั้งใจจะให้คนไทยไปที่นิวยอร์คแล้วสร้างความหรูหราขึ้นมาใหม่ สร้างผลิตภัณฑ์หรูหราระดับโลกที่เป็นแบรนด์ของคนไทยเอง
Hi class: แล้วหลังจากที่นิวยอร์ค คุณวางแผนจะทำอะไรต่อ
เราวางแผนไว้แค่ 8 อย่างมากก็ 10 ที่ ซึ่งแต่ละที่ต้องแตกต่าง และเป็นสมบัติล้ำค่า
Hi class: คุณคงทำงานหนัก 8 วันต่ออาทิตย์กระมัง
ไม่เลย เมื่อถึงวันเสาร์-อาทิตย์ผมก็จะหยุดหมดทุกอย่าง ภรรยาผมอนุญาตให้ทำงานได้อย่างเต็มที่ในวันจันทร์ถึงศุกร์ กลับดึกก็ได้ แต่เขาอนุญาตเพียง 5 วันเท่านั้น เมื่อถึงวันหยุดผมก็จะอยู่กับเขา ซื้อของ ดูหนัง ทานข้าวเหมือนคนทั่วไป เราไปเที่ยววันหยุดด้วยกัน การเดินทางสนุกมากแต่เราก็ต้องเรียนรู้อะไรไปพร้อมกันด้วย เรียนรู้จากการท่องเที่ยว เป็นการศึกษาแบบอย่างไปในตัว
Hi class: การที่คุณคลุกคลีอยู่ในวงการการบริการ ทำให้คุณเป็นคนพิถีพิถัน เอาใจยากหรือเปล่า
ไม่เลย อย่างที่บอกตั้งแต่ต้นว่าผมเข้าใจในพฤติกรรมของผู้บริโภค เวลาอยู่กับภรรยาผมมักรู้ล่วงหน้าเสมอว่าเธอจะอารมณ์เสียเมื่อไร (หัวเราะ) ผมก็จะปรับ
สิ่งสำคัญอย่างหนึ่งสำหรับทุกคนคือความมั่นใจ เมื่อมีความมั่นใจสูง การศึกษาหรือประสบการณ์ก็เป็นเรื่องรอง สู้ความมั่นใจไม่ได้ เพราะฉะนั้นสิ่งที่เป็นอุปสรรคที่ใหญ่ที่สุดและเป็นมิตรที่ดีที่สุดในขณะเดียวกันก็คือจิตใจของคุณนั่นเอง เมื่อคุณต้องเดินลุยไฟ หากคุณคิดว่าไฟไม่มีทางไหม้คุณได้ มันก็จะไม่ไหม้คุณ แต่เมื่อคุณหวาดกลัวขึ้นมาไฟก็ไหม้คุณทันที
Hi class: ในเมืองไทย คุณไปเที่ยวที่ไหนบ้าง
เขาใหญ่ ผมชอบไปศึกษาธรรมชาติ ดูพฤติกรรมของสัตว์ หากจะดูตัวอย่างของพฤติกรรมที่ดีที่สุดก็ต้องไปดูสัตว์ พวกมันสอนให้เราเข้าใจถึงการเอาตัวรอด เพราะสัตว์ยังไม่เปลี่ยนแปลงพฤติกรรมในขณะที่มนุษย์เปลี่ยนไปเกือบหมดแล้ว เวลาไปดูธรรมชาติ ผมมักได้ความคิดใหม่ๆ อยู่เสมอ
Hi class: สถานการณ์ของประเทศไทยในตอนนี้ เป็นปัญหากับงานของคุณหรือไม่
ไม่มีปัญหาเลย ถือว่าอยู่ในเกณฑ์ดี ธุรกิจเรากำลังไปได้อย่างดี
Hi class: สำหรับผู้นำการเมืองคนใหม่ที่กำลังจะเข้ามา คุณคิดว่ามีผลต่อคุณไหม
ไม่มีผลเลย ผมเชื่อว่าถึงอย่างไรธุรกิจก็จะเดินไปได้ตามปกติ
Hi class: คุณมองว่าปัญหาเป็นเรื่องธรรมชาติของการทำงานหรือเปล่า
ผมไม่เคยมองว่าปัญหาเป็นปัญหา แต่ผมมองว่ามันคือโอกาสต่างหาก เราสามารถมองได้สองแบบ คือมองว่าแก้วมันเต็มไปแล้วครึ่งใบหรือยังเหลืออีกครึ่งใบ อยู่ที่การมอง
ผมมาจากไม่มีอะไรเลย เมื่อเริ่มบริษัทก็ไม่มีอะไร แต่วันนี้เรามี อย่างน้อยเราก็มีใจ ไม่มีใครมาแข่งกับเราได้เพราะคนอื่นไม่สามารถคิดได้อย่างเรา สิ่งสำคัญที่สุดคือการควบคุมความคิดไม่ดี ความคิดในทางร้าย ฉะนั้นทุกเช้าผมจึงบอกกับพนักงานทุกคนเกี่ยวกับวิธีควบคุมความคิด
Hi class: มีคนบอกว่าทำงานกับคนไทยเป็นเรื่องยาก คุณคิดอย่างไร
คนแต่ละคนมาจากวัฒนธรรมและครอบครัวที่แตกต่างกัน ในครอบครัวหนึ่งครอบครัวก็จะประกอบไปด้วยสมาชิกที่ไม่เหมือนกัน เราต้องยอมรับในสิ่งนี้ให้ได้ แม้กระทั่งงานของเราก็ต้องมีเป้าหมายที่ทุกคนสามารถบรรลุได้ในแบบที่เราต้องการ คนไทยหลายคนที่ผมรู้จักทำงานได้รวดเร็วมาก อย่างผมก็เป็นคนอินเดีย ซึ่งตอนนี้ก็เริ่มเข้ามามีบทบาทอย่างมากในวงการนี้ ทั้งที่โดยปรกติผู้บริหารของโรงแรมก็มักเป็นคนยุโรป แต่ถ้าทุกคนคิดอย่างนี้ ผมก็คงไม่ได้มาให้สัมภาษณ์ในวันนี้ (ยิ้ม)
Hi class: คุณเป็นคนขี้โมโหไหม
อันที่จริงผมเป็นคนขี้โมโห สิ่งที่ทำให้ผมโมโหมากที่สุดคือเมื่อพบว่าเราปล่อยปละละเลยในหน้าที่ พนักงานอาจจะไม่เข้าใจว่ามันสำคัญอย่างไรเมื่อเราไม่สามารถปฏิบัติตัวให้ลูกค้าสบายใจได้ แต่คุณต้องลองคิดดูเขาต้องจ่ายค่าใช้จ่ายสูง เราเลือกเขาเป็นลูกค้าแล้วเขาก็เลือกที่จะมาอยู่กับเรา มันเป็นพรหมลิขิตให้เรามอบบริการที่ดีแก่เขา เพราะฉะนั้นเราต้องทำให้ดีที่สุด ผมคิดอย่างนั้น
Hi class: คุณคิดจะเพิ่มเติมอะไรที่ Lebua at state tower
สปากับร้านอาหาร
Hi class: คุณคิดอย่างไรเกี่ยวกับบรรยากาศการท่องเที่ยวในประเทศไทย
ถ้าใครมาเห็นโครงการของผมที่จะดึงดูดนักท่องเที่ยวระดับไฮเอนด์มาเที่ยวเมืองไทยเมื่อ 2 ปีก่อนนี้ คงต้องหัวเราะแน่ๆ แต่เมื่อ 2 ปีผ่านไปคุณก็เห็นแล้วว่านักท่องเที่ยวเหล่านี้มีเพิ่มมากขึ้น ตอนนี้คนเริ่มเห็นมุมมองที่แตกต่างของเมืองไทยแล้ว เมื่อก่อนใครๆก็นึกถึงแต่ Night Life ของเมืองไทยแต่ตอนนี้มีคนพูดถึงวัดวาอาราม ผู้คน วัฒนธรรม รอยยิ้ม อาหารอร่อย Shopping mall และโรงแรมดีๆ เพราะฉะนั้นทัศนคติเปลี่ยนไปเยอะจากวันนั้น อุตสาหกรรมการท่องเที่ยวเพิ่งจะเริ่มต้นเท่านั้น ยังโตต่อไปได้อีก
Hi class: คุณคิดอย่างไรเกี่ยวกับภูมิภาคนี้
ผมได้ข้อมูลหลากหลายทั้งจากเยอรมนี, อังกฤษ, สหรัฐอเมริกา คนพวกนั้นเขาก็ค้าขายความหรูหราเหมือนผม พวกเขาพูดเป็นเสียงเดียวกันว่าคนรวยกำลังมองหา Peace of mind กันอยู่ เขาอยากพบเห็นแต่สิ่งที่ทำให้สบายใจ น่าชื่นชม เช่น วัดวา วัฒนธรรมประเพณี วิถีชีวิต เพราะฉะนั้นไม่ว่าจะเป็นกัมพูชา พม่า หรือไทยก็ตาม กำลังเป็นเทรนด์ใหม่ของการท่องเที่ยว จากนี้ไปอีก 5-8 ปี ประเทศไทยจะดีขึ้นมากในเรื่องการท่องเที่ยวและจะกลายเป็นศูนย์กลางของภูมิภาคนี้ครับ
Text: กองบรรณาธิการ
Photo: สรวิชญ์ หอมสุวรรณ