แม้ในวันที่สิ้นลมหายใจ แต่หัวใจไม่เคยจากลา พลตรี ขัตติยะ สวัสดิผล หรือ เสธ.แดงหนึ่งในวีรบุรุษชายชาติทหารที่มีบทบาทสำคัญในการเมืองอย่างต่อเนื่องโดยเฉพาะอย่างยิ่งการชุมนุมใหญ่ของกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการเพื่อขับไล่ความไม่ชอบธรรมของรัฐบาลนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ตั้งแต่วันที่ 14 มีนาคม – 19 พฤษภาคม 2553 จนมาถูกลอบสังหารโดยการถูกซุ่มยิงระหว่างการให้สัมภาษณ์สื่อมวลชนต่างประเทศ บริเวณด้านนอกสถานีรถไฟฟ้าใต้ดินสีลม ในคืนวันที่ 13 พฤษภาคม 2553 และเสียชีวิตในเวลาต่อมาเมื่อวันที่ 17 พฤษภาคม 2553 เวลา 9.20 น. ที่โรงพยาบาลวชิระพยาบาล
ขณะที่มีการชุมนุมที่ราชประสงค์นั้น ในทุกวันช่วงเช้า เสธ.แดง จะเดินตรวจความปลอดภัยของผู้มาชุมนุมด้วยตนเองเพื่อทำหน้าที่รักษาความปลอดภัยของประชาชนโดยรอบ เหตุผลที่ทำเช่นนั้นไม่ใช่เพื่อต้องการให้ตนเป็นที่รู้จักแต่ทำเพื่อประชาชนผู้มาเรียกร้องประชาธิปไตยโดยไม่สนใจความปลอดภัยของตนเอง หลังจากที่ตรวจพื้นที่เรียบร้อยแล้วก็จะเดินมาข้างทางเพื่อรับประทานอาหารเช้า โดยเมนูโปรดของเสธ.แดง คือ “ไข่ลวก” จากรถเข็นที่ขายข้างทาง จากนั้นจะเดินทางไปออกกำลังกาย โดยอาศัยลานกว้างที่วัดปทุมวนาราม และใช้ป้อมตำรวจแยกเฉลิมเผ่า ถ.อังรีดูนังต์ ในการพักผ่อน สถานที่สุดท้ายของเสธ.แดง คือหน้าสถานีรถไฟฟ้าใต้ดินสีลม
นายอรรณพ แซ่ตัน ทหารคนใกล้ชิดเสธ.แดง กล่าวว่า “กระแสการลอบสังหารเสธ.แดง มีมาเป็นระยะๆ ก่อนช่วงเวลาการถูกลอบยิง ซึ่งท่านเองก็เหมือนล่วงรู้ตลอดเวลาว่าตนเองจะตกเป็นเป้าสำคัญในการลอบสังหาร”
หลังการเสียชีวิตของพลตรี ขัตติยะ สวัสดิผล หรือ เสธ.แดง คดีคงยังไม่มีความคืบหน้าในช่วงการดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีของนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ จนถึงช่วงเวลาของการเลือกตั้งตามระบอบประชาธิปไตยเมื่อวันที่ 3 กรกฎาคม 2554 ที่ได้พรรคเพื่อไทยเป็นแกนนำในการจัดตั้งรัฐบาล ทำให้ผลของคดีการลอบสังหารเสธ.แดง มีความคืบหน้าไปพอสมควร
สามปีเต็มกับการเสียชีวิตของชายชาติทหาร ทางด้านครอบครัวของเสธ.แดง นางสาวขัตติยา สวัสดิผล บุตรสาว ได้ให้สัมภาษณ์ว่า “แม้คดีจะมีความคืบหน้าไปมากตลอดช่วงเวลาการทำหน้าที่ของรัฐบาลเพื่อไทยแต่ส่วนตัวมองว่าการสืบคดีนั้นต้องได้รับความร่วมมือจากทุกฝ่าย ไม่ใช่ฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง เพราะการเสียชีวิตของพลตรี ขัตติยะ ถือว่าเป็นนายทหารชั้นสูงคนหนึ่งของกองทัพไทย แต่ในทางกองทัพฯหรือ ศอฉ. กลับไม่ให้ความสำคัญหรือให้ข้อมูลที่เป็นประโยชน์ต่อรูปคดีเท่าทีควร”
ในวันนี้ครอบครัวสวัสดิผลที่ขาดเสาหลักไป สมาชิกในครอบครัวยังคงเศร้าโศกและกล่าวเป็นเสียงเดียวกันว่าเป็นความเหงาที่ไม่มีอะไรมาแทนได้ นางสาว ขัตติยา กล่าวว่า “ทุกวันนี้ไม่มีคุณพ่อแล้วรู้สึกขาดที่ปรึกษา ในการทำงานแม้จะมีความลำบากอยู่บ้าง แต่ประสบการณ์ที่ผ่านมาสอนให้ตัวเองมีความเข้มแข็งขึ้น และขอบคุณคุณพ่ออันเป็นที่รักที่ได้วางเส้นทางทางการเมืองไว้ให้ทำหน้าที่เพื่อประชาชน”
เสธ.แดง ผู้เป็นที่รู้จักของคนทั่วไปเมื่อมีคดีความการรื้อบาร์เบียร์ย่านซอยสุขุมวิท 10 และถูก พล.ต.อ.สันต์ ศรุตานนท์ อดีตผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ฟ้องเรียกค่าเสียหายที่กล่าวหาว่า พล.ต.อ.สันต์ มีพฤติกรรมในการใช้อำนาจโดยมิชอบและละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ รวมทั้งทุจริตการจัดซื้อ-จัดจ้าง การทำสำนวนคดีรื้อถอนบาร์เบียร์ที่มีพฤติการณ์ช่วยเหลือ ชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ และเป็นผู้มีส่วนร่วมในการอุ้มนายชูวิทย์จากโรงแรมดิเอมเมอรัลด์ รัชดาภิเษก จึงเป็นจุดเริ่มต้นของการเขียนหนังสือ คม…เสธ.แดง ขึ้น อันเป็นหนังสืออัตชีวประวัติและรวบรวมความคิดคำพูดของ พล.ต.ขัตติยะ เอง
ยังคงปริศนาในการหาคำตอบว่า “ใครฆ่าเสธ.แดง ?” เหลือทิ้งไว้แต่เพียงความอาลัยของผู้ที่ยังระลึกถึงในนามวีระบุรุษที่ชื่อ “พลตรี ขัตติยะ สวัสดิผล” ผู้สร้างความผาสุกสวัสดีแก่ประชาชน
ขอบคุณภาพจาก bangkok-today
http://www.bangkok-today.com/files/imagecache/W600/images/2012/05/17/article-12845–547220_362611890467198_100001551697964_1064601_1565880018_n.jpg