เขาไม่ใช่สายลับ เจมส์ บอนด์ 007 เขาไม่ใช่นักสืบหัวเห็ด เชอร์ล็อค โฮล์ม และเขาไม่ใช่ยอดนักสืบรุ่นจิ๋ว โคนัน รวมถึงเขาไม่ใช่ศัตรูคู่อาฆาตของผู้ยิ่งใหญ่ทั้งหลายในเมืองไทย แต่เขาคือ เรืองไกร ลีกิจวัฒนะ ชายธรรมดาวัย 47 ผู้ทำให้นักการเมืองน้อยใหญ่ร้อนหนาวไปตามๆ กัน ด้วยวิธีการทำงานที่ทำเอาสื่อมวลชนทั้งหลายต้องเหลียวมอง ผู้นำการชุมนุมต้องเงี่ยหูฟัง แม้เสียงของเขาไม่ดังกระหึ่ม ไม่มีฝูงชนปรบมือชื่นชมทุกครั้งที่ปราศรัยจบประโยค หากแต่ผลงานกลับมีประสิทธิภาพเป็นที่ยอมรับจากหน่วยงานซึ่งมีหน้าที่ดำเนินการสอบสวนและผู้ถูกกล่าวหาต่างยอมรับโดยดุษณี
ฉายา “แจ๊คผู้ฆ่ายักษ์” จากสื่อมวลชนไม่ได้ทำให้ชีวิตของเขาดีขึ้น ฐานะเฟื่องฟู หรือมีความสุขกว่าคนปกติ หากแต่การได้ทำหน้าที่ของประชาชนพลเมืองโดยอาศัยกฎกติกาของกระบวนการยุติธรรมในการตรวจสอบความโปร่งใสสุจริตของนักการเมืองนั่นต่างหากที่สร้างความอิ่มเอมใจให้กับเขา แม้จะมีเสียงก่นด่าเซ็งแซ่ พอๆ กับการสรรเสริญในความเพียรพยายามก็ตาม
วันนี้ในตำแหน่งสมาชิกวุฒิสภาสรรหา เขายังคงเดินหน้าทำหน้าที่ทั้งภายใต้หมวกสว.และในบทบาทพลเมืองไทย รวมถึงเป็นคุณพ่อผู้สมถะ มีเหตุผล และสารถีประจำการรับส่งลูกสาวน่ารักวัย 9 และ 10 ขวบ ไป-กลับโรงเรียนคนเดิม
ไฮคลาส : ตอนนี้คุณทำอะไรอยู่บ้าง
ตอนนี้เป็นสมาชิกวุฒิสภาแบบสรรหา มีระยะเวลาดำรงตำแหน่ง 3 ปี มีอำนาจหน้าที่ตามที่รัฐธรรมนูญบัญญัติไว้ อีกหน้าที่หนึ่งคือทำหน้าที่คนไทยคนหนึ่ง เห็นอะไรที่สังคมควรจะปฏิบัตตามกฎหมายแต่ถูกละเลยไป ก็พยายามทำเรื่องนั้นสู่สาธารณะ เช่นเรื่องการเก็บภาษีจากการโอนหุ้น แม้แต่เรื่องตอนสมัครสว. ตอนเลือกตั้งทำเรื่องเกี่ยวกับกกต.ชุดเดิมบ้างนิดหน่อย เรื่องนี้อยู่ที่ศาลปกครอง แต่พอมาเป็นสมาชิกวุฒิสภาก็มีสถานะขึ้นมาอีกนิด ทำอะไรคนเขาก็จับจ้อง
ไฮคลาส : ตำแหน่งสว.ทำให้เสียงคุณดังขึ้นรึเปล่า
คงไม่เชิง อาจเพราะเรื่องที่ทำไปกระทบกับผู้หลักผู้ใหญ่ของบ้านเมือง อย่างกรณี (อดีต) นายกฯ สมัคร ก็ยังยืนยันว่าสิ่งที่ทำไม่ใช่เรื่องเล็ก เราต้องการให้เห็นว่ากฎหมายมีอยู่ ถ้าทำเรื่องเล็กโดยเห็นว่าไม่ถูกต้องแต่ก็ยังทำ ก็จะทำเรื่องใหญ่ที่ไม่ถูกต้อง นี่คือแนวคิดที่ต่อสู้ หลายเรื่องก็ไม่สำเร็จ อย่างกฎหมายงบประมาณ เสียงก็ไม่เพียงพอที่จะไปให้ศาลวินิจฉัย
การพิจารณาต่างๆ จะมองก่อนว่ามีการกระทำแล้วหรือไม่ ถ้ามีคนอื่นทำแล้วผมไม่ค่อยอยากเข้าไปยุ่งเพราะจะซ้ำซ้อน เรายึดถือการแบ่งแยกอำนาจหน้าที่กันทำ แต่ถ้าเรื่องใดที่คนไม่อยากทำหรือไม่เข้าใจก็จะไปช่วยทำให้ เพื่อให้เกิดข้อพิสูจน์ในตัวบทกฎหมายนั้น เพื่อให้เกิดจริยธรรมในนักการเมือง
ไฮคลาส : แต่เรื่องไม่ถูกต้องมีอยู่เยอะ คุณคัดสรรอย่างไร
ดูที่แนวความคิดก่อนเลยครับ มองที่อำนาจสูงสุดคืออำนาจอธิปไตยใช้อยู่ 3 ทาง ใช้ทางบริหารคือคณะรัฐมนตรี ทางนิติบัญญัติผ่านสส. สว. และทางตุลาการ อำนาจสูงสุดจะต้องมีการตรวจสอบซะก่อน ถ้าเราไปตรวจในระดับรองลงไปฐานมันก็จะใหญ่ขึ้น เราดูที่ยอดปิรามิดเพื่อบังคับจากยอดปิรามิดลงไป มันก็จะไล่ลำดับชั้น ยอดดีฐานลงไปก็ควรจะกำกับลงไปได้ดี และอาจกระชับระยะเวลาและกำลังคนในการวางแนวทาง ไม่ว่าจะเป็นคณะรัฐมนตรี หรือว่าสมาชิกสภาผู้แทนฯ สมาชิกวุฒิสภาด้วยกัน ผมอยากให้กรอบนี้ชัด การเข้ามาทำหน้าที่ครั้งแรกเราปฏิญาณแล้วว่าจะดำเนินงานด้วยความซื่อสัตย์สุจริตและกระทำการตามบทบัญญัติแห่งรัฐธรรมนูญและกฎหมายทุกประการ
สิ่งหนึ่งที่ผมมองและเห็นว่าเป็นสิ่งที่ขาดไปก็คือแนวทางการตรวจสอบ สิ่งที่ทำอยู่ทุกวันนี้จึงนำหลักของการตรวจสอบเข้ามาจับในการทำงาน
ไฮคลาส : แต่ในแต่ละหน่วยก็มีกรรมาธิการ มีผู้ทำหน้าที่ตรวจสอบโดยหน้าที่อยู่แล้ว
นั่นก็ส่วนหนึ่ง เขามีเรื่องศึกษาของเขา บางเรื่องจำเป็นต้องศึกษาอย่างนั้นเพราะต้องใช้เวลา แต่ในขณะเดียวกันเราก็มาดูอีกส่วนหนึ่ง เช่นอยากให้นักการเมืองถูกตรวจสอบทรัพย์สิน เพื่อที่จะช่วยกำกับพฤติกรรมของนักการเมืองให้มีความซื่อสัตย์สุจริต มีความโปร่งใส และถูกตรวจสอบได้
เรามองการกระทำของคนใดคนหนึ่งหรือกลุ่มใดกลุ่มหนึ่ง สุดท้ายคุณทำไปเพื่ออะไร เพื่อทรัพย์สินไงล่ะ ทรัยพ์สินวัดง่าย เป็นตัวเลข ท่านจะมีทรัพย์สินแบบไหน ถ้าพิสูจน์ได้ว่ามีที่มาที่ไปก็เป็นการที่ควรกระทำ ถ้ารับรองว่าตัวเราดีแต่ไม่ยอมให้ตรวจสอบ มันก็เหมือนเราขับรถ ครบหมื่นกิโลฯ ไม่ยอมเช็ครถ แล้วเราจะรู้ได้อย่างไรว่าเครื่องยนต์ตรงไหนมันดีไม่ดี หรือแม้แต่ร่างกายของเรา ในปีหนึ่งแพทย์แนะนำว่าเราควรมาตรวจเลือดตรวจสุขภาพ ไม่ได้หมายความว่าท่านผิดหรือท่านป่วย แต่เพื่อตรวจความสมดุลของร่างกาย กินอะไรมากไปรึเปล่า หรือมีภาวะแทรกซ้อนที่อาจเกิดโรคภัยไข้เจ็บหรือไม่ เหมือนสุขภาพฟันก็ควรตรวจปีละสองหน นี่คือแนวทางที่ควรจะเป็นที่เราพยายามมอง
แล้วทำไมต้องเป็นปีหนึ่ง เพราะว่าปีหนึ่งจะกระทบทรัพย์สินหัวท้าย กระทบกับแบบแสดงรายการเสียภาษี ฉะนั้นถ้าทุกคนคิดว่าตัวเองดีก็อย่ากลัวการถูกตรวจสอบ ไม่ใช่ความยุ่งยากเลย แล้วมันจะช่วยกรองคนที่คิดหรือประพฤติทุจริตประพฤติมิชอบ มีที่มาของทรัพย์สินที่ไม่สามารถเปิดเผยได้เขาก็อยู่ไม่ได้ เมื่อคนประพฤติมิชอบอยู่ไม่ได้ คนที่ประพฤติชอบเขาก็มีโอกาสเข้ามาบริหารประเทศแทน แล้วก็จะตอบได้ว่าสังคมจะดีขึ้นไหม
ไฮคลาส : การสู้กับยักษ์ใหญ่ ต้องเผชิญกับภัยคุกคาม ที่ผ่านมาคุณเจออะไรมาบ้าง
ก็มีบ้าง แต่คุยกันแฟร์ๆ ตามหลักการก่อน “ท่านทำรึเปล่า แล้วเราไปยัดข้อหาท่านหรือไม่” แล้วท่านที่ยอมรับความผิดพลาดที่ทำมา จะโดยตั้งใจหรือไม่ตั้งใจอยู่ที่ศาลวินิจฉัยไป ยอมรับกันตรงนี้ไหม ไม่ใช่วันดีคืนดีเราไปชี้ว่าทรัพย์สินท่านโกงเขามาโดยไม่มีเอกสารพยานหลักฐาน นั่นก็ไม่ใช่ หรือว่าท่านทำในขณะที่บทบัญญัติแห่งกฎหมายเขียนว่าห้ามกระทำ มันก็เป็นเรื่องของวิธีประพฤติปฏิบัติหรือจริยธรรมที่มีบทลงโทษ แต่บทลงโทษนั้นอาจจะไม่ใช่ทางอาญา หากเป็นการให้พ้นจากตำแหน่งเพื่อให้ท่านไปคิดพิจารณาดูว่าคนกลางเขายังชี้ว่าท่านไม่ถูกต้อง
ท่านเป็นคนใหญ่คนโตอยู่ที่ยอดปิรามิด ถูกตรวจสอบถูกจัดให้อยู่ในระเบียบวินัย มีความประพฤติปฏิบัติที่ชอบด้วยกฎหมาย แล้วท่านก็จะไปกำกับดูแลคนข้างล่างที่ท่านดูแล รัฐมนตรีมี 35 + 1 เป็น 36 รัฐมนตรีคุมปลัดกระทรวง คุมอธิบดี มันก็จะไล่ลงไป เมื่ออธิบดีไปคุมผู้อำนวยการกองก็ไล่ลงไปเรื่อยๆ การบริหารราชการแผ่นดินส่วนกลางดี ส่วนภูมิภาคดี ส่วนท้องถิ่นดีมันก็จะดีกันไปหมด
ถามว่าทำแล้วเรากลัวอิทธิพล อำนาจเขาไหม…ก็คิด แต่ถ้าไม่เริ่มลูกหลานเราจะอยู่ด้วยอะไร เราจะปล่อยให้บ้านเมืองของเราเป็นอย่างนี้ต่อไปเรื่อยๆ หรือ และผลกระทบ ผมว่าไม่ได้กระทบเฉพาะคนอื่นที่ไม่ใช่ลูกหลานท่าน อีกหน่อยเมื่อท่านหมดอำนาจวาสนา แล้วคนอื่นมาใช้วิธีการนี้ลูกหลานท่านก็จะได้รับผลกรรมไปด้วย
ไฮคลาส : การจัดลำดับว่าจะเชือดใครก่อนเป็นไปตามลำดับอำนาจหรือตามปัจจัยใด
ผมศึกษาจากการแสดงบัญชีทรัพย์สินเป็นหลัก ซึ่งรัฐธรรมนูญเขียนไว้ว่าปปช. (คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ) ต้องเปิดเผย และติดตามจากข่าวคราวว่า กรณีนี้ท่านเคยพูดว่าเห็นกฎหมายอย่างนี้แล้วคิดว่าทำได้ ปรึกษาที่ปรึกษากฎหมายชั้นยอดแล้วบอกว่าทำได้ แต่พอเราฟังท่านพูดแล้วเราไม่เห็นด้วย เราก็จะหาวิธีการที่ถูกต้องโดยคนกลางเป็นผู้ตัดสิน ขณะเดียวกันสิ่งที่เปิดเผยโดยกฎหมายเช่นการแสดงบัญชีทรัพย์สินหนี้สินต่อปปช.มันก็จะมีคำอธิบายบ่งบอกอยู่แล้ว เราดูด้วยความละเอียดรอบคอบว่าเขาสั่งให้ทำอะไร เมื่อสั่งให้เราต้องปฏิบัติอย่างนี้แต่มีหลายคนไม่ปฏิบัติ ก็ต้องถามว่าเมื่อไม่มีการปฏิบัติตามคำสั่งมันจะมีอะไรลงโทษอย่างที่เขียนไว้หรือไม่
รวมทั้งของกกต. (คณะกรรมการการเลือกตั้ง) ด้วย โดยอยู่ในประเด็นที่ว่ารัฐธรรมนูญห้ามไปกระทำการ เมื่อกระทำการแล้วกกต.มีหน้าที่ตรวจสอบ เราก็จะตรวจสอบว่าใช่อย่างที่เราเข้าใจรึเปล่า นี่คือการใช้สิ่งที่มีอยู่ให้เห็นว่าระบบถ้าถูกเอามาใช้มันจะกำกับดูแลตัวผู้บริหาร ไม่นับว่าเป็นใคร แต่จะมองที่กลุ่มยอดเช่นยอดปิรามิดก่อน มองอำนาจอธิปไตยถูกใช้โดยใครบ้าง ซึ่งกระบวนการทางศาลเขามีบทบาทมาตรฐานการสอบเป็นผู้พิพากษาอย่างชัดเจน แต่ความเป็นสส. เป็นรัฐมนตรี เป็นสว.มันไม่มี ใครเลือกตั้งมา หรือใครสรรหามา หรือที่เราได้ยินกันว่ามีบุญคุณต่อพรรคก็อาจจะได้เก้าอี้ไป หรือมีกลุ่มก้อนสัก 10 คนสนับสนุนท่านก็ได้เป็นรัฐมนตรีไป ไอ้วิธีการเข้าสู่อำนาจลักษณะนี้จึงควรต้องถูกตรวจสอบในลำดับต้นๆ
ไฮคลาส : อยากทราบทรรศนะต่อประเด็นผู้ว่าฯ กทม. ฝ่ายที่ตรวจสอบคุณอภิรักษ์น่าจะมีความรับผิดชอบต่อการปล่อยให้การเลือกตั้งเกิดขึ้นแล้วประเทศชาติต้องเสียงบประมาณ พรรคประชาธิปัตย์เองก็ควรแสดงความรับผิดชอบ ในกรณีที่คุณอภิสิทธิ์บอกว่าเป็นต้นทุนประชาธิปไตย
บางเรื่องเคยทราบมาบ้างแต่เป็นความลับของทางราชการที่เราไม่อยู่ในฐานะจะเปิดเผยได้ ผู้มีหน้าที่ชี้แจงหรือทำเรื่องตรวจสอบทำสำนวนเขาจะเป็นคนทำหน้าที่ กรณีของผู้ว่าฯ อภิรักษ์ ก็เป็นบทบาทหนึ่งของการตรวจสอบตามกระบวนการยุติธรรมที่เดินตามระบบมา ว่าการที่ซื้อรถ-เรือดับเพลิงมีผู้ใดเกี่ยวข้องบ้าง แต่ขณะเดียวกันต้องมองว่าการชี้มูลความผิดโดยมติ 9:0 ของปปช.ก็ยังมิได้หมายความว่ามันถึงที่สุด มันมีมูลเพียงพอ และจำนวนคนก็เพิ่มขึ้นมาจากที่คตส.เคยชี้มูล ตอนคตส.ชี้ไม่มีตัวผู้ว่าฯ อภิรักษ์ แต่เมื่อมติปปช.มีตัวผู้ว่าฯ อภิรักษ์ เราจะไปเอาตัวกำหนดการเลือกตั้งมาเร่งกระบวนการตรวจสอบหรือกระบวนการยุติธรรมก็ไม่ถูกต้อง แต่เมื่อมันเกิดความเสียหายในรูปของค่าใช้จ่ายเลือกตั้ง ก็คงเป็นเรื่องของระบบอย่างที่คุณอภิสิทธิ์มองส่วนหนึ่ง
ไฮคลาส : หากคุณอยู่ในบทบาทคุณอภิสิทธิ์ จะส่งคุณอภิรักษ์ลงสมัครไหมในขณะที่ยังไม่เคลียร์
สมมติเหรอครับ (หัวเราะ) สมมติผมเห็นเนื้อหาทั้งหมด ก็ต้องดูโอกาสที่จะชนะว่ามีมากน้อยแค่ไหน ซึ่งในวันที่ส่งผู้ว่าฯ อภิรักษ์ลงสมัครอีกสมัย และเลือกตั้งวันที่ 5 ตุลาคม อย่าลืมว่ามติคตส. (คณะกรรมการตรวจสอบการกระทำที่ก่อให้เกิดความเสียหายแก่รัฐ) ออกไปแล้วว่าไม่มี เมื่อไม่มีชื่อคุณอภิรักษ์อยู่ในสำนวน ณ เวลานั้น โพลล์ต่างๆ ชื่อคุณอภิรักษ์มาลำดับต้นๆ เลยนะ คุณอภิสิทธิ์เขาก็ต้องเลือกส่งคุณอภิรักษ์ ถ้าผมเป็นเขาผมก็คงมองในลักษณะเดียวกัน เพราะหน่วยงานตรวจสอบเขาสรุปมาแล้ว แต่ถ้ายังไม่สรุป เช่น มีเทปคุณอภิรักษ์ออกมาหรือมีคนหน้าเหมือนคุณอภิรักษ์ไปกับคนนู้นคนนี้ ผมว่าคุณอภิสิทธิ์อาจคิดอีกอย่างหนึ่ง
แต่ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลทางจริยธรรมบวกกับการเมืองหรือไม่ก็ตาม การที่คุณอภิรักษ์ลาออกก็เป็นการยกระดับความคิดของนักการเมือง เหมือนสมัยท่าน (อดีต) นายกฯ สุรยุทธ์ รัฐมนตรีกระทรวงไอซีทีมีหุ้นปั๊บเขาออกเลย แต่มาตรฐานก็เกิดแค่รัฐบาลสุรยุทธ์ ไม่ได้มาเกิดต่อในรัฐบาลสมัครหรือรัฐบาลสมชาย หรือแม้แต่พรรคฝ่ายค้านเอง ซึ่งถ้าจะมีคนที่ควรจะคิดได้เอง คนนั้นก็คือตัวของผู้กระทำเรื่อง จะเป็นตัวสส.ก็ดี หรือผู้ว่าฯ ก็ดี ถ้าเขาทำอะไรที่ไม่ถูกไม่ต้อง ถ้าเขาคิดได้เอง ก็ควรจะขอโทษประชาชนแล้วรีไทร์ออกไป นี่คือสิ่งที่เราอยากเห็นเหมือนกับต่างประเทศ แต่ก็อย่างที่เห็น เรื่องเล็กๆ น้อยๆ บางเรื่องอย่างการชี้มูลกรณี 3 รัฐมนตรีคดีหวยฯ ก็อ้างว่าเป็นคนละตำแหน่ง กรณีคลิปเรื่องจริยธรรมก็เป็นอีกมาตรฐานหนึ่ง
ไฮคลาส : คุณมองว่ากระบวนการตรวจสอบที่ทวีความแน่นหนักไปเรื่อยๆ จะปรับมาตรฐานการรับรู้ของประชาชนเกี่ยวกับการเมืองไทยอย่างไร
คงไม่มีนะ เพราะวิธีการตรวจสอบอย่างที่ผมพยายามทำ มีคนที่เห็นด้วยกับผมน้อยมาก (เน้นเสียง)
ไฮคลาส : คุณมองว่าประชาชนไม่ยินดียินร้ายต่อเรื่องเหล่านี้
ประชาชนมี แต่คนที่เป็นตัวแทนของประชาชนไม่มี คนที่เป็นตัวแทนของประชาชนก็คือคนที่จะเข้าไปแก้กฎหมายออกกฎหมาย เขาไม่ออกกฎหมายที่ทำให้เขาลำบาก พูดกันด้วยเหตุด้วยผล เขาเชื่อว่าเหตุผลของเรามี แต่ถ้าถามว่าเขาอยากให้มีหรือไม่ ผมคิดว่าเขาไม่อยากให้มี ถ้าเขาแก้ได้ผมคิดว่าเขาจะเอากระบวนการตรวจสอบที่มีอยู่ออกไปเกือบทั้งหมดด้วยซ้ำ เขาไม่อยากแสดงหรอกบัญชีทรัพย์สิน เขาไม่อยากแสดงหรอกบัญชีหนี้บัตรเครดิต
ผมเชื่อว่านักการเมือง ณ ปัจจุบันมีน้อยมากที่อยากจะทำอย่างผม ผมก็ไม่รู้ว่าผมคิดถูกคิดผิดนะ ความรัก ความชอบ ความชังในหมู่พรรคพวกมันก็มีบ้างไม่มีบ้างตามโอกาส แต่เราทำให้สังคมเห็น สังคมเอาไม่เอาก็เป็นเรื่องของสังคม ผมคนเดียวไม่สามารถเป็นตามฉายาไปฆ่ายักษ์นู่นยักษ์นี่ ผมทำไม่ไหวหรอก มันก็คลื่นกระทบฝั่งชั่วเวลาหนึ่ง
ไฮคลาส : พูดเหมือนทดท้อกับวัฒนธรรมทางสังคมเช่นนี้
ก็มันเป็นแบบนี้จริงๆ ผมอยากจะวางหลักกระบวนการตรวจสอบไว้กับระบบการเมือง แต่ผมก็เชื่อว่าเกิดขึ้นยาก บอกง่ายๆ ว่าคุณกองทรัพย์สินแล้วแยกว่าแจงได้แจงไม่ได้ แจงได้ก็ดูว่าเสียภาษีหรือไม่เสียภาษี แจงไม่ได้ก็ต้องบอกว่ามีที่มาที่ไปที่ไม่ถูกต้อง กฎหมายก็มีอยู่ ปปช.ก็มี ปปง. (สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน) ก็มี ปปส. (คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด) ก็มี แต่ทำไมกฎหมายพวกนี้ตรวจสอบนักการเมืองไม่ได้ เพราะนักการเมืองเป็นคนออกกฎหมาย ใครจะออกกฎหมายเพื่อมาตรวจตัวเอง นี่คือความคิดที่ผมบอกว่าน่าจะเกิดได้ แต่อยู่ที่สังคม ที่สื่อจะไปช่วยกันทำ
ไฮคลาส : เหมือนคนในสังคมยอมอะลุ่มอล่วยให้บุคคลที่มีอำนาจ
ใช่ สังคมเข้าใจแต่เรื่องที่ไม่สลับซับซ้อน เช่น โรงเรียนนี้ครูตีเด็กด้วยความรุนแรงเป็นข่าวใหญ่โต พระมีสีกาอยู่ในกุฎิเป็นข่าวใหญ่โต นี่คือสิ่งที่คนเข้าใจว่าเฮ้ย…ไม่ได้ ฉันไม่ยอมรับ แต่กับวิธีตรวจสอบผู้บริหารที่กำหนดชะตากรรมชีวิตของท่าน ของลูกหลานท่าน ของประเทศท่าน มันกลายเป็นเรื่องที่เข้าใจยาก เขาจึงถามว่า เอ๊ะ…จะทำไปทำไม ไม่อย่างนั้นจะมีโพลล์ออกมาเหรอว่า โกงไม่ว่า ทุจริตไม่ว่า แต่ขอให้มีสิ่งที่มาแจกจ่าย แต่เขาไม่ได้คิดว่าไอ้สิ่งที่เอามาแจกจ่ายมันคือสิ่งเล็กๆ น้อยๆ หลังจากที่เขาเอาชิ้นใหญ่ๆ ไปแล้วรึเปล่า ตรงนี้เราต้องพัฒนาให้เขาเข้าใจ
ไฮคลาส : ตอนนี้ในกระดานมีทั้งทหาร ตำรวจ นักการเมือง เต็มไปหมด ทำไมเมืองไทยไม่มีการตรวจสอบพวกทหารหรือพวกตำรวจบ้าง
ไม่ใช่ เคยมีนายทหารที่ถูกยึดทรัพย์เพราะร่ำรวยผิดปกติ แต่มีน้อย เคยมีข้าราชการชั้นผู้ใหญ่ที่เคยถูกตรวจสอบเรื่องทุจริตก็มีแต่มันน้อย ดังนั้นผมถึงบอกว่าถ้าการทำที่ยอดได้ ถ้าแก้กฎหมายได้มันจะลงไปหมดเลยครับ จะเป็นข้าราชการสีไหนก็ตาม หรือผู้มีอิทธิพล ฯลฯ แต่คนที่จะช่วยกันทำมันต้องมาจากฐานปิรามิด ท่านจะต้องคอยดู ถามว่าทำไมต้องมาจากฐานปิรามิด เพราะปิรามิดมันซ้อนด้วยฐานเล็กๆ จนเป็นปิรามิดใหญ่ คนที่อยู่ต่างจังหวัดลองดูสิ คนที่ไปเป็น อบต. หรือ อบจ. หรือ สจ. หรือ สท. ทำไมเขามีฐานะดีกว่าชาวบ้านได้อย่างรวดเร็ว ตรงนี้เขาต้องไปช่วยกันคิดช่วยกันตรวจสอบ เราวางหลักไว้ ถ้าท่านคิดอยากจะตรวจท่านตรวจตรงนี้สิ ท่านเป็นปุ๊บสร้างบ้านหลังใหญ่ หรือพอเป็นแล้วมีรถกระบะ มีรถบรรทุก ชาวบ้านต้องไปช่วยกันดู แทนที่จะดูแต่พระอาบัติ ก็มาดูกันว่าผู้บริหารในท้องถิ่นท่านอาบัติด้วยรึเปล่า
ไฮคลาส : มีบางพวกบอกว่าคุณเป็นพวกเสื้อเหลืองสุดโต่ง
ไม่ใช่ครับ…ผมเสื้ออะไรก็ได้ บางทีอยู่บ้านเสื้อไม่ใส่ก็มี (หัวเราะ) แต่สิ่งที่จะเรียนให้ทราบก็คือ ทุกส่วนที่เกิดข้อสงสัยในสังคม จะเป็นภาคสื่อมวลชน ภาคกลุ่มบุคคลที่มีความคิดเห็นทางการเมืองต่างกันอย่างไรก็ตาม ถ้าระบบนี้ทำได้จริงซึ่งผมทำให้ดูเป็นตัวอย่างแล้ว ถ้ามันถูกเอามาใช้อย่างแพร่หลายและคนเข้าใจมันจะกำกับได้หมดเลย แม้กับตัวผมเองก็ตาม ถ้าแม้ ณ วันหนึ่งเราประพฤติมิชอบ พูดง่ายๆ ถ้าผมมีเงินส่งลูกเรียนเมืองนอกปีละ 10 ล้าน สองคนก็ 20 ล้าน แต่ยังมาแสดงทรัพย์สินเท่านี้ ท่านต้องตรวจสอบว่าผมเอาเงินมาจากไหน นายเรืองไกรมีเงินเดือนจากสว.ปีหนึ่งประมาณล้านกว่าบาท เมื่อมีค่าใช้จ่ายแล้วยังสามารถมีทรัพย์สินเพิ่มเข้ามา ขณะที่ผมแสดงบัญชีทรัพย์สินไม่เคยมีอะไร แต่พอวันออกจากตำแหน่งผมมีโรเล็กซ์เรือนละ 3 ล้าน มีพระเครื่องมูลค่าหลายสิบล้าน ภรรยาหรือเมียมีสร้อยเพชร สร้อยมุกแบบที่เขาแสดงกันอยู่ทุกวันนี้ ต้องตรวจสอบว่าคุณเรืองไกรเอามาจากไหน ขอดูแบบภาษีคุณเรืองไกร เอ๊ะ…คุณเรืองไกรยื่นแค่เงินเดือนสว. แล้วทรัพย์สินที่เพิ่มเอามาอย่างไร
ผมเห็นเยอะแยะ บางบ้านเปิดมาเห็นงาช้าง ผมก็เข้าไปคลิกดูในปปช. ไม่เห็นงาช้างอยู่ในแบบ นั่นแปลว่าอะไร หรือแม้กระทั่งกรณีของนายกฯ ทั้งสองคน ท่านหนึ่งบ้านซอยนวมินทร์ที่ทางก็ไม่ใช่น้อย แต่ตัวบ้านไม่แสดง แปลว่าอะไร เราก็เกิดข้อสงสัย เหมือนบ้านท่านนายกฯ คนปัจจุบัน ท่านเพิ่งเกษียณจากปลัดกระทรวงและภรรยาท่านก็ทำธุรกิจ ขอดูแบบภาษีหน่อยสิ แล้วที่ดินมันดูไม่ยาก มีสารบบ มีสารบัญการจดทะเบียน บ้านก็ไปประเมินได้ ถามว่าอย่างนี้เอาไหม เกือบทั้งหมดบอกว่าดีครับ แต่ไม่เอา
ไฮคลาส : ทั้งหมดนี้คือใคร
ก็ส่วนใหญ่ที่เจอ เขาบอกว่ามันกระทบความรู้สึกและยุ่งยาก
ไฮคลาส : นอกจากการสร้างมาตรฐานการตรวจสอบ มีการดำเนินการเชิงรุกหรือสร้างเครือข่ายอะไรที่เป็นรูปธรรมบ้างไหม
จุดมุ่งหมายแรกที่พยายามคือจะคุยกับสื่อมวลชน เพราะสื่อเป็นอะไรที่ออกไปกว้างแต่ต้องใช้เวลาอธิบาย ว่าสิ่งที่เราทำอย่างกรณีที่เสนอโมเดลเข้าไป พอเราดูเรื่องบัตรเครดิจตเสร็จเราก็บอกว่าเออ…เรื่องนี้เราเริ่มเห็นแล้ว กรณีที่เราเทียบบัตรเครดิตแต่ละงวดมันไม่เท่ากัน ก็จะบ่งบอกวิธีการใช้จ่าย เสร็จแล้วก็จะมีเรื่องของการตรวจทรัพย์สินที่เพิ่มผิดปกติตามมา (เน้นเสียง) แล้วอย่าลืมนะครับว่าในปปช.มีการแสงดบัญชีในยุคทักษิณ 1, ทักษิณ 2, สุรยุทธ์, สมัคร และปัจจุบันก็จะเป็นสมชาย ผมตั้งใจจะให้เป็น Normal Practice กำลังเก็บรายละเอียดแต่ละขั้นเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์เพื่อเทียบแต่ละขั้นๆ ถ้าผมได้แบบภาษีที่ท่านแสดงมาก็จะมาเทียบให้คุณดูเป็นตัวอย่าง
ไฮคลาส : ถามจริงๆ ว่ากลัวตายไหม
ถ้าตอบว่าไม่กลัวก็อาจจะมี M 79 มาลงหน้าบ้าน ความกลัวก็มีบ้างแต่ไม่ได้ทำให้เราเลิกในสิ่งที่เราตั้งใจ ยิ่งกลัวมากยิ่งต้องระมัดระวังมาก ก็อย่าประมาท
ไฮคลาส : เคยถูกขู่ไหม
อ๋อ…มีๆๆ เขียนจดหมายมาเยอะแยะ โทรมาถึงบ้านก็มี หรือไปพูดกับพรรคพวก ข่มขู่มาก็มี
ไฮคลาส : การจะเก็บคนสักคนในประเทศไทยง่ายมาก แล้วทำไมคุณถึงอยู่รอดปลอดภัยมาได้ทั้งๆ ที่ทำนายกฯ หลุดไปสองคน
ผมเชื่อว่าสิ่งที่ผมทำ เมื่อศาลตัดสินแล้วเขายอมรับได้ คุณจะไม่เคยเห็นผมขึ้นไปใช้การข่มขู่หรือใช้สิ่งหยาบคายกับคู่กรณี แม้แต่คู่กรณีโดนลงโทษจากคำพิพากษาไปแล้วผมก็จะไม่บอกว่าผมดีใจหรือเสียใจ ผมจะไม่ไปยินดียินร้ายหรือตามซ้ำเติมคนด้วยความอาฆาตแค้น นี่อาจเป็นเหตุผลหนึ่งที่คนเขาเข้าใจเรา เราสู้ในสิ่งที่มีอยู่ แต่ถ้าผมไปขัดผลประโยชน์เขาอย่างรุนแรงโดยวิธีการที่มิชอบ ผมว่าอันนั้นน่ากลัวว่าเยอะ ฆ่ากันตายเพราะแย่งชิงผลประโยชน์โดยใช้กระบวนการนอกกฎหมาย แต่ทุกอย่างที่ผมทำมันก็ไม่ได้สำเร็จทุกเรื่อง แต่เราก็เดินตามวิธีการที่กฎหมายมีอยู่ และไม่ได้ถึงกับใช้วาจาขุดโคตรเขามาเล่น ฯลฯ เราต้องให้ความเป็นธรรมแก่เขา ถ้าสิ่งที่เขาทำ ณ ช่วงเวลาหนึ่งไม่ถูกต้อง ก็ต้องให้คนอื่นที่เป็นคนกลางไปตัดสิน ไม่ใช่เรา เราเพียงแต่บอกว่ามันมีมูลที่จะร้องให้กระบวนการไปตรวจสอบ นี่คือวิธีการที่ทำมาตลอด เจอหลายคนเขาก็พูดมาด้วยความไม่พอใจ ขณะเดียวกันเจออีกหลายคนที่เป็นคู่กรณีตรงๆ เขาบอกว่าเขาเข้าใจวิธีที่เราทำ ก็แล้วแต่มุมมอง
เราพยายามบอกเขาด้วยเหตุผล โดยเฉพาะบอกว่าเราทุกคนรักประเทศชาติจริงๆ หรือไม่ เราคิดจะวางสิ่งที่เป็นประโยชน์สำหรับลูกหลานในอนาคตเราจริงๆ รึเปล่า คำพูดที่ออกมาจากปากเรา จากการปฏิญาณของเรา หรือว่าตัวหนังสือเขียนให้เราพูดกัน เราคิดที่จะประพฤติปฏิบัติหรือมีความคิดในใจอย่างนั้นเสมอรึเปล่า ถ้าเราไม่มีเราแก้ไขให้มันมีได้ไหม ประเทศชาติ สถาบันหลัก และความสุขสงบของพี่น้องประชาชนจะดีไหม และความเจริญของบ้านเมืองจะดีไหม หรือท่านเพียงแต่ต้องการว่าขอให้ฉัน ครอบครัวฉัน พรรคพวกฉันอยู่สุขสบายดี
ผมเคยถามหลายคนว่าลูกหลานท่านที่ส่งไปเรียนเคยกลับมาถามไหมว่าท่านทำอาชีพอะไร มีเงินมาจากไหนถึงได้ส่งไปเรียนเมืองนอก ท่านอยู่ในสังคมได้อย่างไร ตรงนี้เราต้องสร้าง แต่ไม่รู้ว่ามันจะเห็นเร็วหรือเห็นช้าเพราะอาจจะไม่ได้อยู่เห็นก็ได้ ถามว่ากลัวรึเปล่าชักเริ่มกลัว (หัวเราะ) คิดแล้วว่าต้องไหว้พระหลายจบ (หัวเราะ)
ไฮคลาส : หรือเพราะคุณมีขาใหญ่ดูแล
ไม่มี ผู้หลักผู้ใหญ่หลายคนก็เป็นห่วงผมก็ยังยืนหยัดอยู่ เราเชื่อว่าเราทำสิ่งที่เป็นประโยชน์ทั้งตัวผู้ที่เป็นคู่กรณีของเรา เราสามารถอธิบายเหตุผลให้เขาฟังได้ ถ้ารักส่วนรวม รักสังคมกันจริง ผมอยากบอกให้ท่านทั้งหลายหยุดเถอะ แล้วหันหน้ากลับมาคุยกัน ไอ้ที่ผ่านมาแล้วหาทางเยียวยาพอสมควรแก่เหตุ จับไม้จับมือเดินกันต่อไป
ไฮคลาส : ได้และเสียอะไรบ้างจากสิ่งที่ทำอยู่
ได้ความเป็นคนที่คนอื่นอาจรู้จักเรามากขึ้น เดินในห้างมีคนมองหน้าเรา เดินมาแล้วจับเอวหรือว่ายิ้มให้ ถามว่าความเป็นอิสระเสียไปไหม ก็มีบ้าง การจะไปเดินเตร็ดเตร่อย่างที่เราชอบก็ลำบากขึ้น
ผมบอกได้อย่างหนึ่งคือ ผมไม่เคยเห็นอะไรแล้วมีความอยากมาก คิดอยู่เสมอว่าความอยากละได้ยากในโลก ความอยากไม่มีที่สิ้นสุดในโลก เราพยายามประคองตัวเราให้มันผ่านพ้นไปได้ อย่างน้อยที่สุดก็คิดว่ามันน่าจะเป็นความสุขเล็กๆ น้อยๆ ในครอบครัว เราไม่มีความหวังความอยากเกินขนาด เมื่อเราไม่ได้มาเราก็ไม่เสียดาย หรือเราได้มาแล้วเราเสียไปก็คิดว่าช่างมันเถอะ กินดีก็มีบ้าง กับเพื่อนฝูงบางทีก็ช่วยแต่ไม่ได้ถึงกับฟุ้งเฟ้อ เป็นคนที่ไม่มีเครื่องประดับ ผมจึงบอกว่าวันหนึ่งถ้านายเรืองไกรแจงฯ แล้วมีเครื่องประดับขึ้นมาไปเรียกตรวจเลย เพราะพูดอยู่เสมอว่าเป็นคนใส่ไม่เป็นและไม่ชอบด้วย สิ่งที่มีอยู่ในตัวหาของที่มีค่าได้น้อยมาก สร้อยก็ไม่มี พระที่เขาบอกว่าดีผมก็ไม่ได้มองเช่นนั้น ชอบอ่านพระธรรม แต่ผมไม่ได้มองว่าพระพุทธรูปกี่ชั้น เบญจภาคีใครพูดให้ฟังก็ไม่เคยสนใจ เพชร นาฬิกาเครื่องหนัง เสื้อผ้าที่เป็นยี่ห้อไม่เคยอยู่ในหัวว่าจะต้องไปหามา แต่กับภรรยาและลูกสาวเขามีความชอบพวกคิปลิ้ง ชอบนาฬิกา ผมก็บอกว่าเอาพอสมควร แต่ถึงขนาดที่ต้องล้อมเพชรก็ไม่ไหว
ผมใส่รองเท้าแตะ เสื้อยืดกางเกงขาสั้นเดินในซอย คนบอกว่าคุณเป็นสว.แล้วมาแต่งตัวแบบนี้ได้ยังไง ผมก็หัวเราะ มันไม่ผิดกฎหมาย เป็นความสบายของตัวผม อยากซื้อของตามทางเท้าเราก็ซื้อ แต่ที่คิดอยู่ตลอดคือเราอย่าไปเอาเปรียบเขา อย่าไปต่อรองเขามากจนเกินไป เพราะรายได้ของเขาก็มาจากหาเช้ากินค่ำ ถ้ามีเพื่อนฝูงที่ทำการค้าขาย เราอยากจะไปซื้อเขาด้วยราคาที่ไม่มีส่วนลด ผมคิดต่างจากคนอื่นนะ ไม่เคยใฝ่ฝันว่าจะมีบ้านหลังใหญ่ ไปเที่ยวแบบผู้ชาย มีของสวยๆ งามๆ ได้กินอร่อยๆ ฯลฯ ไม่ถึงขนาดนั้น แต่ถ้าถามว่าชอบความสบายไหมผมชอบ ความสบายของผมคือวันเสาร์-อาทิตย์ผมอยากนอนอยู่บ้านนั่งดูสารคดี
ไฮคลาส : นอนหลับสนิทไหม
หลับสนิทดี แต่ผมนอนน้อยมากนะ เฉลี่ย 4 ชั่วโมง หรือ 4 ชั่วโมงครึ่ง จะมีวันเสาร์-อาทิตย์บางทีกลางวันภรรยาพาลูก 9 และ10 ขวบ ไปช้อปปิ้ง เราก็จะอ่านหนังสือแล้วก็นอนพักงีบหลับ แต่ถ้าไม่ได้นอนก็จะลุกมาหาอะไรทำ สิ่งที่ชอบมากคืออ่านข้อคิดในพระไตรปิฎก ผมเรียกว่าข้อคิดเพราะว่าผมอ่านภาษาบาลีไม่เป็น ผมสวดมนต์ไม่เป็น ให้ผมกราบพระผมไม่รู้หรอกว่าต้องไหว้อย่างไร สวดมนต์อย่างไร ฉะนั้นหนังสือที่มีบทสวดอรหังสัมมา…อิติปิโส…ผมไม่เข้าใจ จำไม่ได้ ผมรู้เพียงว่าที่พระพุทธเจ้าสอนมีหลักธรรม 37 ประการ ผมท่องตรงนั้น ผมรู้ว่าปฏิจสมุปบาทคืออะไร นิวรณ์ 5 มรรค 8 คืออะไร มันคือสิ่งที่มีเหตุมีผล ผมรู้แค่นั้น
ไฮคลาส : มุมมองจากบทบาทของคุณ คิดว่าคุณทักษิณจะได้กลับมาไหม
อยู่ที่ตัวท่าน ถ้าท่านอยากกลับท่านก็ได้กลับ เพราะไม่ได้มีใครบังคับให้ท่านไป ท่านอาจจะมีความคิดว่าท่านถูกกระทำ ความจริงแล้วผมก็ชอบวิธีการคิดบางส่วนของท่าน แต่เมื่อหลายๆ เรื่องที่เป็นคดีของท่านออกมาก็ต้องยอมรับ สิ่งที่ผมชื่นชอบก็คือท่านเป็นคนรักครอบครัว ส่วนชีวิตแบบผู้ชายที่เป็นข่าวนั่นก็อีกเรื่องหนึ่ง แต่ว่าหลายๆ ครั้งที่ท่านอยู่กันพ่อแม่ลูกเราก็ชื่นชม ผมเคยได้คุยกับท่าน แต่ท่านอาจจะจำไม่ได้ว่าคนนั้นคือเรืองไกร เพราะตอนนั้นยังไม่มีอะไร
ให้วันนี้ผมเจอ (อดีต) นายกฯ สมัคร ผมก็มีความคิดอยากจะสวัสดีท่าน ที่ทำมามันเป็นคนละเรื่อง แต่ถ้าจะไปนั่งบอกว่าท่านต้องเป็นอย่างนั้นอย่างนี้เราไม่เคยคิด เราอาจจะมีมุทิตาจิต ไม่รู้ว่าเรียกอย่างนี้รึเปล่า (อดีต) นายกฯ สมัครไม่สบายนั่นก็ส่วนหนึ่ง แต่คดีก็ว่าไปตามผลของคำพิพากษา หรืออย่างคุณหญิงพจมาน เราก็บอกตอนที่ท่านโดนคดีว่าท่านมีสิทธิ์สู้เพราะเพิ่งศาลชั้นต้น จะไม่เคยเห็นผมดีใจ เพราะเราคนไทยเหมือนกัน ถ้าเห็นท่านพัฒนาประเทศและนำประเทศไปได้รุ่งเรืองเราดีใจมากกว่า ส่วนที่ท่านถูกลงโทษนั่นก็เป็นเรื่องของกระบวนการยุติธรรม
ไฮคลาส : ในฐานะนักตรวจสอบ ประชาชนฝั่งที่ไม่ชอบพันธมิตรก็มี เขาคงอยากรู้ว่าเม็ดเงินที่หล่อเลี้ยงขบวนการสีเหลืองมาจากไหน เคยอยากขุดค้นตรงนี้ไหม
ตอนนี้มีข่าวว่าจะมีการตรวจสอบ ผมว่าเป็นเรื่องที่ดี ปัญหาก็คือว่าเขาจะแสดงบัญชีทรัพย์สินตรงไหนล่ะ ตามกฎหมายเจ้าหน้าที่หน่วยงานของรัฐสามารถตรวจสอบได้ ผมยกกรณีของบริษัทเพื่อนพ้องน้องพี่ก็เพราะว่าเขามีส่วนเป็นนักการเมือง เขาแสดงบัญชีทรัพย์สินเราเห็นถึงไปขอมาได้ แต่กรณีนี้เราไม่รู้จะขออะไรได้นอกจากงบการเงินที่แสดงต่อกระทรวงพาณิชย์ แต่หน่วยงานที่จะตรวจสอบ เช่น สรรพากร ดีเอสไอ หรือ ปปง. เขาน่าจะเข้าไปดูได้ ทุกฝ่ายสีไหนก็แล้วแต่ เงินที่นำมาจัดที่อิมแพคหรือที่อื่นๆ ผมรู้วิธีการออกใบเสร็จ ใบกำกับภาษี แต่เรามีอำนาจที่จะดึงตรงนั้นขึ้นมาดูไหม
นี่คือสิ่งที่ผมพยายามวางโมเดล โมเดลของผมถูกวางกับนักการเมืองได้ กับข้าราชการระดับสูงได้ มันอยู่ในกระบวนการของกฎหมาย กรมสรรพากรสามารถดูได้ ม็อบพันธมิตร ม็อบนปก.ดูได้หมดถ้าจะใช้ คนที่ใช้เรื่องนี้มาแล้วก็คือตัว (อดีต) นายกฯ ทักษิณ ให้ไปเช็คบัญชี้นั้นบัญชีนี้ แต่อันนี้ไม่ใช่อำนาจของสว.หรือสส.นะครับ มันเป็นอำนาจที่สั่งการจากฝ่ายบริหารเอง ผมจึงบอกว่าอยากเห็นทุกคนเดินในกรอบของกฎหมาย เถียงกันทะเลาะกันก็อยู่บนหลักการ ผมว่าการที่ไปทะเลาะกันโดยที่ไม่มีหลักการ น่าจะมีความกลัวมากกว่า
เราใช้กรอบที่เราใช้สิทธิ์ได้ ทุกครั้งที่ร้องเราจะบอกว่าเราทำในฐานะอะไร ในหนังสือผมทุกฉบับผมจะอ้างไว้หมด และทุกครั้งที่ไปให้ถ้อยคำผู้สอบสวนเราก็จะบอกว่าถ้าเราให้การเท็จเรามีโทษ เพราะฉะนั้นมันไม่ใช่เรื่องสนุกหรือเพราะอยากดัง ถึงบอกว่าสักวันหนึ่งถ้าเลือกได้อยากเดินได้สบายๆ มากกว่า สมบัติมีมากไปก็ต้องดูแลรักษา คนอาจจะมาฉกชิงไปหรือหาทางกลั่นแกล้ง หรือมีมากเกินไปลูกหลานทะเลาะกันฆ่ากันเองก็ได้ แต่สิ่งที่คนในชาติควรมีมากที่สุดคือทรัพย์ที่อยู่ในความคิด ปัญญาเป็นอริยทรัพย์ใช้อย่างไรก็ไม่หมด ปัญญาคือการใช้ความรู้ที่มีศีลธรรม แต่การใช้ความรู้ที่ไม่ถูกต้องตามกฎหมายหรือทางศีลธรรมเขาเรียกว่ามายา อันนี้ผมก็ได้จากหนังสือธรรม
ไฮคลาส : หลังครบวาระ 3 ปีแล้วจะไปอยู่ส่วนไหนต่อ กลับไปสตง.ไหม
สตง.ผมออกมา 18-19 ปีแล้ว ที่กลับไปเพราะไปช่วยงานคุณหญิง (คุณหญิงจารุวรรณ เมณฑกา ผู้ว่าการสำนักงานตรวจเงินแผ่นดิน) ในฐานะที่ปรึกษา ได้เรียนรู้งานของผู้หลักผู้ใหญ่ได้ประโยชน์เยอะ ค่าตอบแทนไม่มีอะไร ปีหนึ่งได้ 8 หมื่นกว่าบาท ก็ยื่นเสียภาษีถูกต้อง ออกใบรับรองยื่นไว้ให้เป็นหลักฐาน แต่ถ้า 3 ปีต่อจากนี้ไป พ้นวาระแล้วอยากเป็นอะไรก็ต้องดูสถานการณ์ ถ้าบ้านเมืองเรียบร้อยดี ผมก็อยากอยู่กับครอบครัว ผมอายุ 47 แล้วปีนี้ ถ้ามีคนที่ดีกว่าเก่งกว่าก็ให้ท่านบริหารไป ยินดีด้วยซ้ำ การมาเป็นสว.ก็ไม่ได้ตั้งใจ ผมห่วงที่สุดคือเรื่องลูก ผมอยากเห็นเขาเดินไปตามวิถีทางที่เราอยากให้เป็นในทางที่ดี ผมดูเขามาตั้งแต่เกิด ดูมาสิบปีเราก็ยังห่วงเขาอยู่
ผมคิดว่าถ้าสังคมมีคนที่ดีมีคนที่เก่งท่านก็ทำหน้าที่ไป เราก็อยากจะอยู่ตามจังหวะชีวิตของเราไป ผมคลุกคลีกับนักการเมืองแต่เราไม่ชอบที่จะเข้าไปในนั้น ผมขออยู่อย่างมีสุขภาพดี ไม่มีหนี้ ไม่ใช่เรื่องรวยหรือไม่รวยแต่ขอไม่มีหนี้ และขอความเป็นอิสระเป็นไท นี่ก็มาจากหนังสือพระไตรปิฎก มีแค่นี้เราก็ทำของเราไป แต่ถ้าเราเห็นว่าเราช่วยได้ตามจังหวะและโอกาส เวลาจะช่วยใครหรือทำอะไรให้กับใครต้องทำให้มันเกิดประโยชน์และทำให้จริงจัง แต่อย่าไปผูกพัน ความผูกพันและความข้องเกี่ยวมันจะนำมาซึ่งความรักความอาลัย นี่เป็นคำที่พระพุทธเจ้าตรัสตอนที่พระราหุลเกิด
เพราะมองอย่างนี้ ถ้าเลี้ยงลูกแล้วผิดหวังเราก็จะไม่เกิดทุกข์โศกมากมาย เมื่อทุกข์เกิดทำอย่างไรที่จะหาทางผ่อนคลายให้ผ่อนลง ดับลง ไม่ใช่ว่าทุกข์ไม่มี หลายครั้งสอนเขาแล้วต้องตี เพราะเล็กๆ กว่าจะพูดด้วยเหตุผลนาน แต่ต้องเลือกวิธีการตีลูก อย่าตีด้วยความขาดสติ ตีให้รู้ว่าสิ่งที่เขาทำไม่ถูก แล้วค่อยๆ บอกว่าสิ่งที่เราสอนนั้นคืออะไร อาจหัวโบราณเรื่องลูก ซึ่งแฟนจะค้านมากทุกครั้งที่ตีลูก เดี๋ยวนี้ลูกจะเถียงแม่ แต่กับผมลูกบอกกับครูกับคนอื่นว่ากลัวที่สุดคือพ่อ
ไฮคลาส : อัศวินขี่ม้าขาวที่จะมาสร้างปรากฏการณ์ดีๆ ให้การเมืองไทยควรมีลักษณะเช่นไร และที่สำคัญคือจะมีไหม
น่าจะมีเยอะถ้าประชาชนคิดได้ ผมว่าถ้าเขาคิดถึง right job ได้ right man ก็จะมีเยอะ แต่ตอนนี้เราไปคิดถึง right man ก่อน เราหาตัวบุคคลมาก่อน ในสถานการณ์อย่างนี้เราหาว่าใครที่จะเข้ามา แต่เราลืมไปว่า ฉันจะต้องหาระบบที่ถูกต้องมาก่อน
สิ่งที่ผมพูดไปทุกท่านเข้าใจ แต่อยากจะทำกันรึเปล่า เลิกมองความเป็นตัวตนของตัวเองแล้วมองประเทศชาติ บ้านเมือง ชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ และประชาชนอันเป็นที่รักของท่านทั้งหลาย ที่พูดกันมาตลอดว่าท่านมาจากประชาชน พี่น้องประชาชนเรียกร้อง แต่ผมเห็นว่าท่านรวยกว่าประชาชนของท่านทุกทีเลย
โค้ด
เราดูที่ยอดปิรามิดเพื่อบังคับจากยอดปิรามิดลงไป มันก็จะไล่ลำดับชั้น ยอดดีฐานลงไปก็ควรจะกำกับลงไปได้ดี
ถ้าทุกคนคิดว่าตัวเองดีก็อย่ากลัวการถูกตรวจสอบ ไม่ใช่ความยุ่งยากเลย
รัฐมนตรีมี 35 + 1 เป็น 36 รัฐมนตรีคุมปลัดกระทรวง คุมอธิบดี มันก็จะไล่ลงไป เมื่ออธิบดีไปคุมผู้อำนวยการกองก็ไล่ลงไปเรื่อยๆ การบริหารราชการแผ่นดินส่วนกลางดี ส่วนภูมิภาคดี ส่วนท้องถิ่นดีมันก็จะดีกันไปหมด
กระบวนการทางศาลเขามีบทบาทมาตรฐานการสอบเป็นผู้พิพากษาอย่างชัดเจน แต่ความเป็นสส. เป็นรัฐมนตรี เป็นสว.มันไม่มี ใครเลือกตั้งมา หรือใครสรรหามา หรือที่เราได้ยินกันว่ามีบุญคุณต่อพรรคก็อาจจะได้เก้าอี้ไป
ถ้าจะมีคนที่ควรจะคิดได้เอง คนนั้นก็คือตัวของผู้กระทำเรื่อง จะเป็นตัวสส.ก็ดี หรือผู้ว่าฯ ก็ดี ถ้าเขาทำอะไรที่ไม่ถูกไม่ต้อง ถ้าเขาคิดได้เอง ก็ควรจะขอโทษประชาชนแล้วรีไทร์ออกไป นี่คือสิ่งที่เราอยากเห็นเหมือนกับต่างประเทศ
ความกลัวก็มีบ้างแต่ไม่ได้ทำให้เราเลิกในสิ่งที่เราตั้งใจ ยิ่งกลัวมากยิ่งต้องระมัดระวังมาก ก็อย่าประมาท
คุณจะไม่เคยเห็นผมขึ้นไปใช้การข่มขู่หรือใช้สิ่งหยาบคายกับคู่กรณี แม้แต่คู่กรณีโดนลงโทษจากคำพิพากษาไปแล้วผมก็จะไม่บอกว่าผมดีใจหรือเสียใจ
ผมเคยถามหลายคนว่าลูกหลานท่านที่ส่งไปเรียนเคยกลับมาถามไหมว่าท่านทำอาชีพอะไร มีเงินมาจากไหนถึงได้ส่งไปเรียนเมืองนอก
Text : วสิน ทับวงษ์
Photo : สรวิชญ์ หอมสุวรรณ