การระบายถ่ายพิษสำคัญไฉน Detox Teaches People How To Cleanse Their Body Naturally & Safely.

url

หลายปีมานี้กระแสการดูแลร่างกายด้วยวิธีการขจัดสารพิษหรือการล้างพิษจะได้รับความสนใจมากขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งเรื่องของการล้างพิษตับที่มีการออกค่ายไปยังสถานที่ต่างๆ ด้วยความคาดหวังของผู้ที่เข้าร่วมหวังว่าจะมีสุขภาพกายที่ดีขึ้น ส่วนการพบปะเพื่อนฝูงที่มาเข้าร่วมล้างพิษอาจเป็นผลพลอยได้เป็นอาหารใจให้ได้สุขภาพจิตดีขึ้น แต่อย่าเพิ่งคล้อยตามกระแสดล้างพิษตับมิฉะนั้นแล้วคุณอาจเป็นหนึ่งในเหยื่อที่ทำร้ายร่างกายสุขภาพของคุณเอง

กระบวนการล้างพิษสามารถทำได้ 5 วิธี

  • กินเพื่อล้างพิษ กินอาหารล้างพิษ กินอาหารปรับสมดุลรักษาโรค
  • อดเพื่อล้างพิษ การอดอาหาร เพื่อให้ร่างกายได้พัก เพื่อเป็นการเก็บกวาดของเสีย และสารพิษออกไป
  • ฝึกลมปราณเพื่อล้างพิษ ฝึกลมปราณสร้างกำลังภายใน เพื่อขับของเสีย ขับสารพิษ
  • ฝึกสมาธิเพื่อล้างพิษทางจิตใจ ฝึกสมาธิเพื่อรักษาโรค
  • สวนลำไส้เพื่อล้างพิษ เพื่อขจัดของเสีย ขับสารพิษออกจากลำไส้และตับ

 

ในทางการแพทย์แผนไทยจะให้ความสำคัญกับการระบายถ่ายพิษ ร่างกายของคนเราเปรียบเสมือนมหานครแห่งหนึ่ง เราเป็นผู้ครองนคร มีเสนาบดีอยู่ 4 กระทรวง ที่ต้องดูแล ก็คือ กระทรวงดิน กระทรวงน้ำ กระทรวงลม กระทรวงไฟ นั่นหมายถึงธาตุทั้ง 4 กระทรวงไหนถ้ายังไม่ดูแลก็ล้มหมอนนอนเสื่อ เพราะฉะนั้นหน้าที่ของเราคือการดูแลกายกับจิตของเราให้ดี ซึ่งการระบายถ่ายพิษตามทฤษฎีแพทย์แผนไทยกล่าวไว้ว่า ตัวการที่จะคุ้มครองธาตุดินของเราให้แก่ สง่า ตายสงบ มีอยู่ 3 ส่วนที่ต้องคุ้มครองดูแล ส่วนแรกคือหทัยวัตถุหรือหัวใจ ส่วนที่สองคืออุทะริยะ (อาหารใหม่)หรืออาหารที่รับประทานเข้าไปหล่อเลี้ยงร่างกาย (กินถูกเป็นโอสถทิพย์ กินผิดเป็นยาพิษทำร้ายตัวเอง) ส่วนสุดท้ายคือกรีสะ (อาหารเก่า) หรืออาหารที่ผ่านการย่อยแล้วออกมาเป็นอุจจาระ ส่วนตับเป็นอีกหนึ่งปัจจัยที่ต้องให้ความสำคัญรองลงมาเพราะตับเป็นเสมือนวังหน้าเพราะถ้าถูกยึดนั่นหมายถึงเสียกรุง

ดังนั้นในการรักษาของแพทย์แผนไทยโบราณการระบายถ่ายพิษหรือการขับถ่ายจึงเป็นสิ่งสำคัญ เมื่อรับประทานอาหารเข้าไปก็ต้องขับถ่ายออกมาหรือเรียกว่าเราต้องเทขยะออกมานั่นเอง แต่ถึงแม้จะมีการขับถ่ายออกมาในทุกวัน แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าคราบตะกรัน เมือก มัน เปลวไต สารพิษที่ตกค้างในร่างกายนั้นจะหมดไป ฉะนั้นจึงต้องมีตัวยาสมุนไพรต่างๆที่เข้าไปช่วยล้างพิษเหล่านั้นและทำให้สุขภาพร่างกายของเราดีขึ้น

นอกเหนือจากเรื่องของการระบายถ่ายพิษแล้วอีกประการหนึ่งที่มองข้ามไปไม่ได้เลย คือการบำรุงโลหิตซึ่งของเหลวในร่างกายของเราส่วนใหญ่ คือโลหิตตังหรือเลือดทำหน้าที่นำพาสารอาหาร ออกซิเจนไปเลี้ยงตามเซลล์ต่างๆทั่วร่างกาย เพราะฉะนั้นเมื่อโลหิตเราดี เลือดลมไหลเวียนดี ร่างกายก็สะอาดสมบูรณ์แข็งแรง ปัจจุบันคนส่วนใหญ่จะมีพฤติกรรมต่างๆ ที่เป็นตัวกระตุ้นและก่อให้เกิดโรค ได้แก่ การรับประทานอาหารไม่ถูกสุขลักษณะ มลภาวะในอากาศ อารมณ์โกรธ อารมณ์เครียด เศร้า เสียใจ กลั้นอุจจาระ กลั้นปัสสาวะ อดน้ำ อดนอน อดข้าว ทำงานเกินกำลัง อีกทั้งอิริยาบถที่ขาดสมดุลในการนั่ง เดิน ยืนหรือนอน สิ่งเหล่านี้ล้วนเป็นภัยต่อร่างกายของเราทั้งสิ้น เพราะฉะนั้นทางที่ดีที่จะทำให้เรามีสุขภาพดี คือจำเป็นต้องดูแลรักษาร่างกายให้สมดุล ต้องล้างพิษทั้งร่างกายและจิตใจ

0245

แม้จะมีแนวคิดหรือกระบวนการรักษาที่ต่างกัน อย่างไรก็ตามศาสตร์แห่งการแพทย์ทั้งแผนปัจจุบันและแพทย์แผนไทยก็ยังคงให้ความสำคัญกับกลไกของร่างกาย พฤติกรรมการบริโภคและรูปแบบการใช้ชีวิต การล้างพิษหรือการระบายถ่ายพิษซึ่งเป็นสาเหตุหลักของสภาวะการเจ็บไข้ได้ป่วยเป็นหนทางหนึ่งของการดูแลสุขภาพร่างกายให้มีความสมดุล การเริ่มต้นดูแลสุขภาพตั้งแต่วันนี้จะทำให้คุณทั้งหลายมีชีวิตที่สดใส ดังเช่นคำพูดที่ว่าการไม่มีโรคเป็นลาภอันประเสริฐ

นอนไม่หลับ ปวดศีรษะบ่อย ปวดเมื่อยหลัง ไหล่และคอ หน้าตาหมองคล้ำ ฯลฯ อาการเหล่านี้เป็นเพียงส่วนหนึ่งของสัญญาณทางร่างกายที่บ่งบอกว่าสารพิษที่ตกค้างและสะสมอยู่นั้นมีปริมาณมากขึ้นและพร้อมที่จะเป็นบ่อเกิดแห่งสารพันโรคร้ายที่คร่าชีวิตคนส่วนใหญ่ไปได้โดย ไม่รู้ตัว

ทุกวันนี้ความเปลี่ยนแปลงทางธรรมชาติ ภูมิอากาศและสิ่งแวดล้อม รวมไปถึงพฤติกรรมการใช้ชีวิตในแต่ละวันที่ต้องเผชิญกับปัญหามลพิษ สารเคมีและกินอาหารที่มีสารปนเปื้อนอยู่เกือบตลอดเวลา นับเป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้สุขภาพร่างกายเสื่อมโทรม ผิวพรรณไม่เปล่งปลั่งสดใส

จึงมีผู้คิดค้นวิธีการล้างพิษตับที่แนะนำว่าควรทำเดือนละ 1 ครั้ง ดูแล้วไม่เหลือบากกว่าแรงที่ใครๆก็สามารถทำได้ อีกทั้งวัสดุหรือสารต่างๆราคาก็ไม่ได้แพงอะไรมากเลยจึงกลายเป็นการนิยามกันว่าดีชนิดปากต่อปากว่าเป็นวิธีการล้างตับ ขจัดนิ่วในถุงน้ำดี โดยที่เขาปฎิบัติกันก็ตือ

  • งดของมัน เช่น นม เนย เค้ก ของทอด ฯลฯ
  • รับประทานยารุสรรพโรค ก่อนนอน
  • วันต่อมา ดื่มน้ำเปล่าและผลไม้
  1. 14.00 น. ดื่มน้ำผลไม้ 1 แก้ว และน้ำเปล่า
  2. 18.00 น. ดื่มน้ำ 1 แก้ว ผสมดีเกลือ 1 ช้อนชา
  3. 20.00 น. ดื่มน้ำ 1 แก้ว ผสมดีเกลือ 1 ช้อนชา
  4. 22.00 น. ไม่เกิน 22.15น. ดื่มน้ำมันมะกอก (Extra Virgin) 150 ซีซี ผสมน้ำมะนาว หรือน้ำลูกพรุน หรือน้ำสัปปะรด 150 ซีซี (ควรยืนดื่ม) จากนั้นนอนตะแคงขวา / หนุนศีรษะสูง ถ้ารู้สึกไม่สบายให้ใช้กระเป๋าน้ำร้อนประคบ ประมาณตี 2 จะเริ่มถ่ายท้อง หลังจากถ่ายเสร็จ ดื่มน้ำผลไม้ เช่น น้ำมะพร้าวและเริ่มรับประทานอาหารอ่อนๆ

 

ซึ่งการล้างพิษตับที่เขาว่ากันนี้ในทางการแพทย์แล้วไม่เป็นที่ยอมรับว่าได้ผลจริง รังแต่จะให้เกิด “นิ่ว” เพราะเมื่อดูจากส่วนประกอบต่างๆที่นำมาใช้ในกระบวนการล้างพิษตับ อันได้แก่ น้ำมันมะกอก น้ำ ดีเกลือหรือแมกนีเซียมซัลเฟต(ในทางการแพทย์ถือเป็นยาระบายร่วมกับการทานน้ำผลไม้ ซึ่งวิธีที่กล่าวมาทั้งหมดนี้คือวิธีของการทำสบู่ ฟังดูแล้วคล้ายดีเหมือนทำสบู่ไปล้างสิ่งสกปรกในร่างกาย

เมื่อสูตรที่เขาปฏิบัติกันได้โจษจันกันแบบปากต่อปากว่า “ถ่ายอุจจาระเยอะ มีไขมันออกมาลอยเหนือผิวน้ำปนเปื้อนออกมากับอุจจาระ ทำให้ร่างกายโล่ง แถมบางรายมีการกล่าวบอกว่ามีก้อนเขียวๆซึ่งคิดกันไปเองว่าเป็นก้อน “นิ่ว” ออกมา” หากตรองดูดีๆแล้วการบริโภคน้ำมันมะกอกวัรละ 150 CC. ถือว่าเกินความต้องการของร่างกาย การบริโภคคู่กับดีเกลือซึ่งก็คือยาระบายจะเป็นการกระตุ้นให้ลำไส้บีบตัวเร็วฉะนั้นแล้วทำให้ร่างกายไม่ได้ดูดซึมพวกน้ำมันเหล่านี้ เวลาถ่ายอุจจาระเห็นไขมันลอยล่องนั่นคือสิ่งที่พวกเขาได้บริโภคเข้าไปโดยไม่ผ่านกระบวนการดูดซึม

การบริโภคไขมันในปริมาณมากเกินความต้องการของร่างกายจะเป็นการกระตุ้นให้ตับสร้างน้ำดีออกมา ซึ่งปกติร่างกายของเราจะมีอยู่แล้วแต่ในกระบวนการนี้ถือว่าไปเร่งการสร้างน้ำดีของตับจึงพบว่าอุจจาระเป็นสีเขียวในบางราย การรับประทานสูตรล้างพิษตับที่ว่านี้มีการบริโภคร่วมกับน้ำแอปเปิ้ลที่เป็นใย อุจจาระจึงออกมาเป็นเม็ดๆก็เข้าใจกันไปว่าสิ่งนั้นคือนิ่ว หากสังเกตดูกันสักนิดในโถอุจจาระสิ่งที่เขาเรียกกันว่านิ่วนั้น “ลอยน้ำ” ซึ่งปกติแล้วนิ่วจะหนักกว่าน้ำจะจมน้ำอย่างแน่นอน

กระบวนการที่เรียกกันว่าล้างพิษตับนั้นไม่ได้เกี่ยวข้องกับการกำจัดนิ่วแต่อย่างใดเลย เป็นการกระตุ้นให้น้ำย่อยที่ร่างกายผลิตออกมานี้ดูดซึมกลับไม่ทัน โดยถ้าทานอะไรเข้าไปก็ยังคงอยู่ นิ่วก็ยังมีเหมือนเดิม ซึ่งไม่ได้เกี่ยวข้องอะไรกับตับเลย โดยหลักกายวิภาคแล้วนิ่วที่ว่านี้คือ “นิ่วน้ำดี” ซึ่งกว่าจะหลุดเข้าสู่ลำไส้ได้มีวิธีเดียวคือได้รับการรักษาโดยการส่องกล้องแล้วคีบเอานิ่วออกหรือการผ่าตัด

การดื่มอะไรก็ตามแต่เข้าไปในร่างกายจะถูกลำเลียงสู่กระเพาะอาหารและลำไส้ใหญ่ ท่อน้ำดีที่จะเปิดตรงลำไส้เล็กนั้นไม่สามารถที่จะมียาที่ว่ากันว่าล้างพิษตับนี้ย้อนกลับขึ้นไปได้ หากท่านไม่เคยตรวจพบนิ่วเลยในร่างกายแล้วนิ่วที่คุณได้จากการทานสูตรที่ว่านี้มาจากไหน? คำถามนี้ให้คุณได้คิด วิเคราะห์และแยกแยะ สิ่งที่ออกมาในโถอุจจาระนั้นเป็นสิ่งที่หมักหมมในลำไส้ใหญ่

อ.ดร.นพ.ยงยุ่ทธ ศิริวัฒนอักษร ภาควิชาศัลยศาสตร์ รพ.ศิริราช กล่าวว่า “หลายครั้งที่ต้องล้างพิษตับด้วยการฟอกเลือด โดยเครื่องมือที่ใช้นั้นก็ไม่ได้ให้ผลที่ดีมากนัก โดยในทางการแพทย์แล้วการล้างพิษตับด้วยเครื่องมือที่ดีที่สุดก็สามารถประคองชีวิตคนไข้อยู่ได้เป็นเพียงวันเท่านั้น”

ท้ายที่สุดนี้หากคุณจะหันมาล้างพิษตับคุณคงได้สติและเลิกล้มไปโดยปริยายหลังจากอ่านบทความนี้แล้ว คุณควรหันมาทานอาหารให้ครบทั้ง 5 หมู่ พักผ่อนให้เพียงพอ ดื่มน้ำบริสุทธิ์ให้เพียงพอต่อความต้องการของร่างกายและออกกำลังกาย เพียงเท่านี้คุณก็ไม่จำเป็นต้องเสาะแสวงหาอาหารเสริมใดๆหรือวิธีการใดๆที่ไปทำร้ายอวัยวะภายในของคุณแล้ว

ขอขอบคุณความรู้จาก :
รศ.นพ.พูลชัย จรัสเจริญวัฒนา สาขาวิชาโรคระบบทางเดินอาหาร ภาควิชาอายุรศาสตร์ รพ.ศิริราช, พญ.ภิรตา จิรวัชราธิกุล ผู้เชี่ยวชาญด้านการแพทย์แผนไทยและผู้บริหารศุภเวชคลินิกการแพทย์แผนไทย

complete body detox

Thanks to image from :
http://ww1.prweb.com/prfiles/2013/08/12/11017561/how-to-live-well-12-steps-to-a-complete-body-detox-can.jpg
http://saydiet.files.wordpress.com/2013/03/yoga.jpg
http://cdn2.bigcommerce.com/server1300/1ffd5/products/94/images/373/TotalBodyDetox__42927.1328310842.1280.1280.jpg
http://www.lifefoodpro.com/wp-content/uploads/2012/09/complete-body-detox-1024×504.jpg

Related contents:

You may also like...