The Finest and Highest Beyond Expectation
THE EDITOR’S CHOICE
HiclassSociety.com Award : Bangkok’s Best Creative Fine Dining 2013
หนึ่งในเหตุผลที่ทำให้ชื่อเสียงของ Le Bua State Tower โด่งดังไปทั่วโลก ไม่ใช่แค่เพราะได้เป็นสถานที่ในการถ่ายทำภาพยนตร์เรื่องดัง The Hangover แต่เป็นเพราะมี MEZZALUNA ร้านอาหาร Fine Dining บนชั้น 65 ที่เป็นหนึ่งในจุดชมทัศนียภาพมุมสูงของกรุงเทพมหานครได้สวยที่สุด บริการเป็นเลิศ ในบรรยากาศหรูที่ขับกล่อมด้วยเสียงดนตรีบรรเลงไพเราะสุดโรแมนติก และสิ่งสำคัญที่สุดซึ่งเป็นแรงดึงดูดสำคัญให้นักชิมผู้มีรสนิยมจากทั่วโลกประทับใจ คือสุดยอดเมนูอาหารที่รังสรรค์ขึ้นด้วยจินตนาการและความคิดสร้างสรรค์ของเชฟคู่แฝดผู้มีชื่อเสียงโด่งดังอย่าง Thomas และ Mathias Sühring ซึ่งจัดเซ็ทเมนูให้เลือกทั้งแบบ 4 คอร์ส และ 7 คอร์ส โดยเสิร์ฟคู่กับไวน์ชั้นดีที่คัดสรรมาให้เหมาะกับอาหาร โดยทุกเมนูที่นำเสนอไว้ในแต่ละเซ็ทจะถูกนำเสนอด้วยวัตถุดิบชั้นดี ให้ออกมาอย่างสมบูรณ์แบบ ทว่าเหนือความคาดหมาย ทั้งด้วยรสชาติ ผิวสัมผัส การออกแบบหน้าตาอาหาร หรือแม้แต่ภาชนะทุกชิ้นที่มีผ่านการออกแบบอย่างประณีตให้มีความงดงามเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว ทำให้นักชิมได้สัมผัสประสบการณ์แห่งสุนทรียรสที่เปรียบประดุจการได้เสพงานศิลปะระดับมาสเตอร์พีซของโลกซึ่งสร้างความประทับใจ ความตื่นเต้น และแรงบันดาลใจอย่างไร้ขีดจำกัด ชนิดที่ไม่อาจคาดเดา ภายใต้บรรยากาศอันรื่นรมย์ โอบล้อมด้วยทัศนียภาพยามราตรีของมหานครที่ไม่เคยหลับใหล
ให้คะแนนร้านอาหาร
|
สูงสุด = 5 ดาว
|
หมายเหตุ
|
รสชาติ | ทุกเมนูมาจากความคิดสร้างสรรค์ที่น่าชื่นชม | |
บรรยากาศ | ||
การบริการ | ||
ราคา-ความคุ้มค่า | ||
ความประทับใจ | เป็็นหนึ่งร้านที่พลาดไม่ได้ สำหรับผู้มาเยือนกรุงเทพฯ |
…………………………………………………………………………………………………………………
เริ่มต้นอย่างสดชื่นด้วย Perrier Jouet champagne.
รสชาติอบอุ่นและผิวสัมผัสละมุนของขนมปังสูตรโฮมเมด รับประทานกับน้ำมันมะกอกและเนยชั้นดี ซึ่งบริกรมาดเนี้ยบให้ข้อมูลกับเราว่า น้ำมันมะกอกนี้เป็นสายพันธุ์เก่าแก่ที่มีมาแต่โบราณ และเนยนั้นก็เป็นสุดยอดเนยฝรั่งเศสเลยทีเดียว (Bordier butter)
ก่อนจะเข้าสู่คอร์สอาหาร 7 อย่างที่เราเลือกชิม เชฟต้อนรับเราด้วยเซอร์ไพรส์เล็กๆ 3 จานแรก ซึ่งไม่มีอยู่ในคอร์ส เริ่มต้นด้วยเมนูพอดีคำ Crispy banana with mixed aromatic herbs and flower ผิวสัมผัสกรุบกรอบ หน้าตาสวยจับใจและหอมสมุนไพร
ตามด้วย Kaffir lime branch skewered with olives and artichokes ซึ่งจัดว่าเป็นอาหารเรียกน้ำย่อย (พิเศษนอกเซ็ท 7 คอร์ส) ที่จัดมาในภาชนะที่มีความคิดสร้างสรรค์เป็นเอกลักษณ์ ออกแบบมาเฉพาะสำหรับอาหารจานนี้ และสำหรับร้านนี้เท่านั้น ทำให้รู้สึกว่า ‘พิเศษ’ จริงๆ
ตามด้วยความสดชื่นก่อนเข้าสู่การชิม คอร์สเมนูจริงๆ กับ Pickled cucumber and aloe vera with horseradish. ที่เสมือนเตรียมล้างปากรับรสเมนูเด็ด ใน 7 คอร์ส ซึ่งเรากำลังรอคอยอย่างตื่นเต้น
จานแรกของคอร์สนี้เริ่มต้นจากสิ่งที่ดูเหมือนจะเป็นสลัด รสชาติสดชื่นด้วยจานผักที่ปรุงรสมากลมกล่ม เสิร์ฟกับ Whispering Angel, Château D’ Esclans, Provence, France, 2011 ที่ให้ความรู้สึกสดฉ่ำของผลไม้และกลิ่นของดอกไม้หอมหวาน เข้ากันดีอย่างลงตัว
ความตื่นเต้นของรสชาติและหน้าตาของอาหารคอร์สแรกยังไม่ทันจางหาย ก็ตามมาด้วยเมนูล็อบสเตอร์ที่มีรสชาติหนักแน่นขึ้นมาอีกนิด Nova Scotia Lobster poached in anis better served with capsicum, fennel, saffron oil and piment d’ Espelette เนื้อของล็อบเสตอร์ที่ปรุงได้กำลังดีเข้ากับรสของพริกหวานและเครื่องเทศที่ได้กลิ่นหญ้าฝรั่นค่อนข้างโดดเด่นได้ลงตัว เสิร์ฟคู่กับไวน์ที่หนักแน่นขึ้นมาอีกนิดให้เข้ากับรสชาติอาหารอย่าง Chardonnay, The Long Paddock, Redbank, Victoria, Australia, 2005
คอร์สต่อไปยังเวียนว่ายอยู่ในทะเล ด้วยวิธีการปรุงปลาอันแสนมหัศจรรย์ที่ทำให้รสชาติเลิศล้ำสุดบรรยาย Pacific Red Tilefish slowly preserved in extra virgin olive oil served with eggplant, fermented soybean and seasonal mushroom. ซึ่งเนื้อปลาสุกนุ่มกำลังดี แต่ผิวซึ่งยังมีเกล็ดนั้นกรอบอย่างเหลือเชื่อ ด้วยเคล็ดลับทีเชฟเผยว่า มาจากการทอดเนื้อปลาด้วยไฟอ่อนให้สุกกำลังดี ก่อนที่จะทำให้หนังและเกล็ดปลาสุกกรอบด้วยการราดน้ำมันเดือดลงไปให้ขึ้นฟูจนกรอบสวย และไวน์ที่จับคู่กันมา Pinot Grigio, Valle Isarco, Abbazia di Novacella, Alto Adige, Italy, 2009 ก็ช่างเข้ากันอย่างเหมาะเหม็งกับอาหารจานปลาที่ให้อารมณ์แบบอาหารตะวันออกจานนี้
เหมือนเชฟจะรู้ว่า เรายังโหยหารสสัมผัสจากทะเลกันอยู่ คอร์สต่อมาจึงยังคงเป็นปลา ที่หอมกรุ่นกลิ่นทรัฟเฟิลและฮาเซลนัท Dover Sole roasted on bone with yellow onion, summer truffle, and hazelnut oil เสิร์ฟคู่กับไวน์ชิลีรสเยี่ยม Savignon Blanc, Errazuriz, Single Vineyard, Aconcagua Valley, Chile, 2011
และเมื่อปิดจานสุดท้ายของปลาก็เข้าสู่อาหารจานเนื้อ เชฟก็ให้เราตื่นเต้นกับความอร่อยกรุบกรอบของเบคอนและความนุ่มลิ้นของเนื้อหมูที่ดีที่สุดในโลกย่างถ่านสไตล์ญี่ปุ่นที่มากับกลิ่นหอมยวนใจ Iberico Pork Secreto grilled over white binchō charcoal served with tomatoes, fermented garlic and cos lettuce จานนี้ให้ความรู้สึกของรสชาติความเป็นเอเชียชัดเจน เสิร์ฟพร้อมไวน์แดง Pétalos, Descendientes de J. Palacios, Bierzo, Spain, 2010 ที่มีจริตจะก้านเสมอกัน
สำหรับคอร์สที่หกนั้น เราสามารถเลือกได้ว่า จะรับประทานแกะหรือเนื้อวัว สำหรับแกะ ซึ่งปรุงได้สุกปานกลางกำลังดี มาพร้อมกลิ่นรสหน้าตาที่ให้อารมณ์เหมือนอาหารจากแดนอาทิตย์อุทัย Lamb loin seared in a dry pan served with celeriac root, almond matsutake mushroom, and ponzu
ส่วนเนื้อวัวนั้น เป็นเนื้อวากิว Kagoshima Wagyu beef rib eye marble grade 3, sous-vide and grill over white binchō charcoal served with celeriac root, almond matsutake mushroom, ponzu, and soy salt ผิวสัมผัสนุ่มด้วยริ้วลายไขมันแทรกเหมือนลวดลายหินอ่อน อร่อยชนิดที่นักชิมมักบรรยายกันว่า ‘นุ่มละลายในปาก’ ซึ่งไม่มีสิ่งใดจะเหมาะที่จะดื่มคู่กันยิ่งไปกว่า Château Larrivet-Haut-Brion, Graves, Bordeaux, France, 2008 ที่มีแทนนินค่อนข้างสูง เข้ากับอาหารจานเนื้อได้อย่างแสนวิเศษ
ก่อนจะปิดท้ายหลังเมนคอร์สด้วยของหวานจานเด็ดที่เราทุกคนต่างแอบลุ้นความตื่นเต้นจากเชๆ เพราะเราได้ตื่นเต้นกันมาเต็มที่ทุกจาน และดูเหมือนเชฟจะกลัวเราตื่นเต้นเกินไป จึงออกตัวเบาๆ ให้เราได้ตั้งหลักด้วย pre-dessert เพื่อให้ตั้งตัวก่อนเข้าสู่ของหวานจริงๆ เป็นเสน่ห์ที่น่ารักในการให้ประสบการณ์ เหนือความคาดหมายที่ ‘เชฟมือหนึ่งกับศิลปินมือหนึ่ง’ ทำได้ไม่แตกต่างกัน
และเมื่อของหวานมาเสิร์ฟ มันก็มากับความประหลาดใจอย่างแท้จริง ด้วยเมนูที่ดูเหมือนจะเรียบง่ายอย่าง apricot slow cooked with rosemary, almond milk, mint and muesli แต่รสชาติที่ผสมผสานกันของส่วนผสมแต่ละอย่างนั้นไม่ธรรมดา ซึงแน่นอนว่า เราต้องการไวน์ Gewürztraminer, Special late Harvest, Robertson, SouthAfrica, 2011 ที่ให้รสหวานสดชื่นมาจิบคู่กัน เพื่อปิดฉากความทรงจำดีๆแห่งค่ำคืนอันแสนมหัศจรรย์นี้ด้วยความประทับใจที่จะคงอยู่กับเราไปยาวนาน
และสุดท้ายนี้ก็ต้องขอบคุณ คุณคณุฒม์ พีอาร์หนุ่มหล่อแห่ง เลอบัว ที่ต้อนรับเราอย่างอบอุ่น ภายใต้การนำของบิ๊กบอสคนเก่งที่เราปลื้มมานาน คุณดีภัค โอหริ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่มโรงแรมเลอบัว โฮเต็ล แอนด์ รีสอร์ท ที่ทำให้เราได้รับประสบการณ์อันแสนพิเศษจนได้นำมาเล่าขานกันให้สำราญใจในครั้งนี้
MEZZALUNA, THE DOME @ LE BUA STATE TOWER BANGKOK
Tel: 02-624 9555
Mezzaluna’s twin chefs Thomas and Mathias Sühring offer daily designed 4 or 7 courses tasting menu (4,900 + + Baht and 5,900 Baht + + respectively). There is also an option for wine pairing (2,500 Baht + + for 4 courses pairing and 3,500 Baht + + for 7 courses pairing).
EDITOR’S REVIEW by : Wannasiri Srivarathanabul
Editor@HiclassSociety.com