22-20 / 18-21 / 21-14 กลายเป็นความสำเร็จในประวัติศาสตร์ชาติไทยในวงการแบดมินตัน แชมป์ที่อายุน้อยที่สุดตั้งแต่มีการแข่งขันมา สร้างความปิติโสมมนัสแก่ปวงชนชาวไทยอีกครั้ง ชื่อของ “น้องเมย์ รัชนก อินทนนท์” เป็นที่รู้จักในระดับสากลไปเสียแล้วด้วยตำแหน่งนักแบดมินตันหญิงไทยคนแรกที่คว้าแชมป์โลกศึกเวิลด์ แชมเปียนชิพส์ ด้วยการเอาชนะ “หลี ซีว รุย” มือวางอันดับ 1 ของโลกจากจีน
รัชนก อินทนนท์ บุตรสาวของ คำผัน สุวรรณศาลา อาชีพเป็นลูกจ้างทำขนมบ้านทองหยอด ในขณะที่รัชนกยังเด็ก เธอกลัวลูกสาวซนจนได้รับบาดเจ็บจากเครื่องทำขนม จึงเอาไปฝากไว้ที่โรงยิมของโรงเรียนกีฬาแบดมินตันบ้านทองหยอด รัชนกได้เติบโตมากับไม้แบตและลูกขนไก่ เล่นไปเล่นมาจนมีแววเป็นนักแบดมินตัน รัชนก เริ่มต้นแข่งแบดมินตัน เมื่ออายุ 7 ขวบ มีแพ้มีชะสลับกันไป จนมาคว้าแชมป์ได้เป็นครั้งแรกในการแข่งขันอุดรธานีโอเพ่น
เมื่อวันที่ 11 สิงหาคม พ.ศ.2556 ที่เทียนเหออินดอร์สเตเดี้ยม เมืองกวางโจว สาธารณรัฐประชาชนจีน เป็นการแข่งขันแบดมินตันชิงแชมป์โลก เวิลด์ แชมเปี้ยนชิพส์ 2013 รอบชิงชนะเลิศ ประเภทหญิงเดี่ยวซึ่งแฟนกีฬาคนไทยทั้งประเทศต่างติดตามดูการแข่งขันอย่างใกล้ชิด เพราะรัชนก อินทนนท์ นักแบดสาวน้อยวัย 18 ปี มือหนึ่งของไทย มือสองของโลกอย่างไม่เป็นทางการและเป็นมือวางอันดับ 4 ของรายการ เข้าชิงเป็นครั้งแรกพบกับ ‘ลี เสี่ยว รุ่ย’ มือ 1 ของโลกและมือหนึ่งของรายการ ทั้งคู่พบกันมาแล้ว 5 ครั้ง ซึ่งรัชนกชนะได้เพียงครั้งเดียวในการแข่งขันแบดมินตันรายการโยเน็กซ์ ยูเอส โอเพ่น 2011 รอบก่อนรองชนะเลิศ(นครลอสแองเจลิส ประเทศสหรัฐอเมริกา) โดยเฉพาะในการแข่งขัน 3 ครั้งล่าสุดที่พบกันรัชนกเธอแพ้รวด
เริ่มเกมแรกรัชนกมีสีหน้าที่เบิกบานสดใสมาด้วยกำลังใจที่ฮึกเหิม เนื่องจากพักการแข่งขันไป 2 รายการ เพราะต้องการรักษาอาการบาดเจ็บเพื่อการแข่งขันชิงแชมป์โลก ออกสตาร์ตนำไปก่อน 2-0 คะแนน แต่คู่แข่งกวาดแต้มรวด ขึ้นนำ 5-2 จากนั้นผลัดกันทำคะแนนมาสูสี ที่ 11-10 ก่อนที่ ‘ลี’ จะโชว์ฟอร์มกวาดคะแนนทิ้งห่างเป็น 19-12 แต่น้องเมย์ไม่ท้อรวบรวมสติและไล่ตีตื้นขึ้นมา 5 คะแนน รวดเป็น 17-19
คู่แข่งทำคะแนนขึ้นแท่นเป็น 20-17 ขอเพียงคะแนนเดียวจะได้เกมแรกไปครอง แต่สาวน้อยมหัศจรรย์ของไทยอาศัยความอึดและทำเกมตบที่แม่นยำไล่ตีเสมอ 20-20 ทำให้ ‘ลี’ เริ่มแกว่ง รัชนกไม่รอท่าใช้เกมรุกต่อเนื่องตบได้ 2 คะแนนติด ชนะไป 22-20
เกม ที่สอง ‘ลี’ ออกสตาร์ตได้ดีกว่าทำ 3 แต้มรวด แต่รัชนกไม่เสียสมาธิไล่ตีตื้นขึ้นมาเป็น 4-4 จากนั้นทั้งคู่แข่งกันทำคะแนนสลับกันนำ สลับกันตามชนิดบีบหัวใจกองเชียร์สุดๆ จนถึงช่วงท้ายเกมเสมอกัน 15-15 ‘ลี’ อาศัยการตบที่แม่นยำและรุนแรงแซงนำห่างเป็น 20-17 และปิดเกมชนะ 21-18
เข้าสู่เกมตัดสิน แม้รัชนกจะพลาดท่าในเกมที่แล้วแต่ไม่มีท่าทีตึงเครียด ขณะที่คู่แข่งแสดงอาการฮึกเหิมขึ้นมาทำให้กองเชียร์เริ่มหวั่นๆ แต่เปิดเกมได้ไม่นาน สิ่งที่ไม่น่าเชื่อก็เกิดขึ้นเพราะรัชนกไล่ตบคู่แข่งนำห่างไปถึง 7-1 ถือเป็นการนำห่างที่สุดในการแข่ง ‘ลี’ ฮึดกลับมาอีกครั้งไล่ตามจี้มา 9-10 บีบหัวใจกองเชียร์ทั้งสองฝ่าย แต่ยิ่งเล่นดูเหมือนมือ 1 ของโลกมีอาการเหนื่อยล้า การวางลูกผิดพลาดไปหมด ทั้งตีออกเองและติดเน็ต ส่วนสาวไทยยิ่งเล่นยิ่งมั่นใจตบลูกสวยๆ ซ้ายสลับขวาทำคะแนนทิ้งห่างอีกครั้ง 19-13
ท้ายเกม ‘ลี’ แสดงอาการเหนื่อยอ่อนมากขึ้น ความเร็วของลูกลดลงอย่างเห็นได้ชัด จึงทำให้รัชนกเล่นง่ายขึ้น ใช้ลูกโยนไปด้านหลังสลับกับลูกหยอดขึ้นแท่น 20-14 แล้วอวสานของเกมก็มาถึง รัชนกเสิร์ฟยาวไปด้านหลัง ‘ลี’ กึ่งตบกึ่งหยอดมาทางด้านขวา แต่ลูกขนไก่ลอยออกนอกเส้นไปนิดเดียว รัชนกหันมามองกรรมการกำกับเส้นที่ทำสัญญาณมือว่าเป็นลูกออก สาวน้อยมหัศจรรย์ของไทยถึงกับคุกเข่าร่ำไห้ด้วยความดีใจที่คว้าแชมป์โลกมาครองได้สำเร็จ ชนะ 2-1 เกม (22-20, 18-12, 21-14)
12 สิงหาคม พ.ศ.2556 สภาสังคมสงเคราะห์แห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ เลือกให้รัชนก อินทนนท์ ได้รับรางวัลลูกที่มีความกตัญญูอย่างสูงต่อแม่ รัชนกกล่าวว่า “ก่อนการแข่งขันก็รู้สึกกดดัน เครียด เพราะกองเชียร์ของเจ้าถิ่นเข้ามาเยอะมาก แต่พอเล่นไปเรื่อยๆก็เริ่มคุมเกมได้ แก้ทางการตีกระชากลูกเร็วของคู่แข่ง ตอนนี้รู้สึกดีใจมากที่คว้าแชมป์มาครองได้สำเร็จ เมื่อกลับมาถึงเมืองไทยแล้วตั้งใจจะเป็นลูกที่ดีของพ่อและแม่ รวมถึงจะซื้อตู้เย็นกับเครื่องซักผ้าให้แม่ตามที่เคยบอกไว้ด้วย เพราะอยากให้แม่สบาย”
*************************************************************************************************
Column : Badminton
คริสต์ศตวรรษที่ 13 ชาวอินเดียแดงในอเมริกาตอนใต้ ใช้ขนนกหรือขนไก่พูกติดกับลูกกลมโดยลูกบอลกลมนั้นใช้หญ้าฟางพันขมวดเข้าด้วยกัน และให้ขนไก่ชี้ไปทางเดียวกันและเวลาเล่นใช้มือจับลูกขนไก่นั้นปาใส่ผู้เล่นคนอื่นๆให้ช่วยกันจับ ตลอดช่วงเวลาที่กล่าวมานี้ ยังไม่มีการใช้แร็กเกตหรืออุปกรณ์อื่นๆตีปะทะลูกขนไก่ แต่ใช้มือหรืออวัยวะอื่นๆแทน
คริสต์ศตวรรษที่ 14 ชาวญี่ปุ่นได้มีการใช้ขนไก่หรือขนนกเสียบผูกติดกับหัวไม้และใช้ไม้ตีลูกขนไก่นั้นโดยไม้ที่ใช้ตีทำมาจากไม้กระดาน ตีลูกขนไก่ไปมานับว่าเป็นวิวัฒนาการในรูปลักษณ์ของการเล่นแบดมินตันที่ใกล้เคียงกับยุคปัจจุบันมากที่สุด โดยมีการใช้แร็กเกตตีลูกขนไก่แทนการใช้อวัยวะของร่างกาย
ปลายคริสต์ศตวรรษที่ 17 ในแถบยุโรปมีการเขียนภาพสีน้ำมันถึงการเล่นกีฬาแบดมินตันในราชสำนักต่างๆ พระราชินีคริสตินาแห่งสวีเดนทรงจำลองไม้แบดมินตันมาจากแร็กเกตในกีฬาเทนนิสและใช้ขนไก่หรือขนนกเสียบติดกับหัวไม้ก๊อก เจ้าฟ้าชายเฟรดเดอริค มกุฎราชกุมารแห่งเดนมาร์ก ทรงแบดมินตันในลักษณะเดียวกันแต่ในตอนนั้นเรียกแบดมินตันว่า “แบทเทิลดอร์กับลูกขนไก่”
คริสต์ศตวรรษที่ 18 ในเยอรมนีกษัตริย์ของปรัสเซียเฟรดเดอริคมหาราชและพระเจ้าหลานเธอเฟรดเดอริค วิลเลียมที่สอง ทรงแบดมินตันในลักษณะเดียวกัน ในประเทศอังกฤษมีเรื่องเล่าว่าในปีค.ศ. 1870 นายทหารคนหนึ่งที่ไปประจำการอยู่ในเมืองปูนา ประเทศอินเดียได้เห็นกีฬาตีลูกขนไก่จึงนำกลับไปเล่นในอังกฤษ ณ คฤหาสน์ “แบดมินตัน” ของดยุคแห่งบิวฟอร์ด ที่ตำบลกล๊อสเตอร์เชอร์ในปี ค.ศ. 1873 เกมกีฬาตีลูกขนไก่จึงถูกเรียกว่า “แบดมินตัน” ตามชื่อของสถานที่นับตั้งแต่นั้นมา ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงเป็นการใช้ลูกพลาสติก
แบดมินตัน (อังกฤษ: Badminton) เป็นกีฬาชนิดหนึ่งที่ใช้ไม้ตีลูก ลูกสำหรับใช้ตีนั้นเรียกกันมาช้านานว่า “ลูกขนไก่” เพราะสมัยก่อนกีฬานี้ใช้ขนของไก่มาติดกับลูกบอลทรงกลมขนาดเล็ก ปัจจุบันลูกขนไก่ผลิดจากขนเป็ดที่คัดแล้ว ลูกบอลทรงกลมขนาดเล็กที่ทำเป็นหัวลูกขนไก่ทำด้วยไม้คอร์ก
กีฬาแบดมินตันจะแบ่งผู้เล่นออกเป็น 2 ฝ่าย และแบ่งการเล่นออกเป็น 2 ประเภท คือ “ประเภทเดี่ยว” แบ่งผู้เล่นออกเป็นฝ่ายละ 1 คน และ “ประเภทคู่” แบ่งผู้เล่นออกเป็นฝ่ายละ 2 คน การเล่นรอบหนึ่งเรียกว่า 1 แมทช์ แมทช์ละ 3 เกม (บางคนเรียกเซ็ท) ตัดสินแพ้ชนะ 2 ใน 3 เกม มีกำหนดคะแนนสูงสุด 21 คะแนน ฝ่ายใดทำคะแนนได้ถึง 21 คะแนนก่อนจะเป็นผู้ชนะในเกมนั้น
Thanks to image from : www.Facebook.com/Yingluck Shinawatra
Reference : ‘น้องเมย์’ สร้างประวัติศาสตร์ คว้าแชมป์แบดมินตันโลก // “น้องเมย์” แชมป์โลกลูกขนไก่คนล่าสุด มีวันนี้เพราะแม่ให้ // แบดมินตัน
