ทุกคนย่อมมีความฝันกันทั้งนั้น ไม่ว่าจะยามหลับหรือยามตื่น ความฝันเสมือนเป็นโลกของจินตนาการแต่ก็มีการพิสูจน์แล้วว่าบางครั้งก็ถือเป็นจริง แต่สำหรับคนยุคใหม่อย่างเราๆท่านๆที่ใช้อินเทอร์เน็ตกันได้ก็ยังมีเว็บไซต์ที่เขียนคำทำนายฝันให้เราได้เข้าไปทำนายกันอย่างดาษดื่น แต่ครั้นเองหากฝันถึงสิ่งที่เป็นไปไม่ได้นั่นคือฝันกลางวัน ฉะนั้นแล้วรู้ไว้ใช่ว่าในเรื่องฝัน
ในวรรณคดีก็จะมีการประพันธ์ให้พระราชาเกิดสุบินนิมิตผิดประหลาด จึงต้องมีท่านหามาทำนายฝันอยู่ร่ำไป เป็นต้นว่า “…ฉันฝันเห็นช้างเผือกผ่องงามีรัศมี 6 ประการ ฉันต้องการงาช้างคู่นั้น เมื่อไม่ได้ชีวิตก็หาไม่….” จากฉัททันตชาดกที่ 4 ซึ่งพระพุทธเจ้าเสวยชาติเป็นช้างเผือกเชือกนั้น ซึ่งพระพุทธเจ้าก็ทราบดีว่าจะมีเหตุเภทภัยมาสู่พระองค์ในขณะนั้นเช่นกัน
ลางบอกเหตุ ในทางพุทธศาสนาเรียกว่า “บุพนิมิต” หรือ “บุรพนิมิตต์” (portend) คือ ลักษณะ สภาวะ อาการ เหตุปัจจัย หรือเครื่องหมายที่แสดงให้รู้ล่วงหน้าก่อนที่ปรากฏการณ์หรือเหตุการณ์ใดๆจะ เกิดขึ้น เช่น ก่อนที่ดวงอาทิตย์จะขึ้นในตอนเช้าเราจะมองเห็นแสงสว่างที่ขอบฟ้าก่อน หรือก่อนที่ฝนจะตกเราจะเห็นเมฆฝนก่อน อย่างนี้เรียกว่าเป็นบุพนิมิต ซึ่งจะมีสิ่งที่เป็น สัญลักษณ์ หรือ เครื่องหมายที่แสดงให้เห็นล่วงหน้า(Presages) ว่าสิ่งนั้นๆ เหตุการณ์นั้นๆ หรือปรากฏการณ์นั้นๆกำลังจะเกิดมีเกิดเป็นขึ้นมา สัญลักษณ์หรือเครื่องหมายที่แสดงให้เห็นล่วงหน้านี้มีอยู่หลายประเภท เช่น ลักษณะของคน สัตว์ สิ่งของ พืช ปรากฏการณ์ธรรมชาติ ความฝัน เป็นต้น ความฝัน เป็นสัญลักษณ์หรือเครื่องหมายอย่างหนึ่งที่สามารถแสดงถึงลางบอกเหตุล่วงหน้าได้
ในทางพุทธศาสนา มีหลายคัมภีร์ที่กล่าวถึงมูลเหตุแห่งความฝันไว้ เช่น คัมภีร์ทุติยสมันตปาสาทิกาและคัมภีร์สารัตถสังคหะ เป็นต้น ในคัมภีร์สารัตถสังคหะมีการกล่าวถึงลักษณะการเกิดขึ้นของความฝันว่ามี 4 ลักษณะ คือ
- ธาตุโขก เกิดจากธาตุวิปริต คือ ความฝันที่เกิดจากความเคลื่อนความเปลี่ยนแปลงของสสารและพลังงานในร่างกาย ร่างกายมีความผิดปกติ หรือป่วยเป็นโรคต่างๆ เช่น บางคนนอนทับแขนตัวเองทำให้เลือดเดินไม่ได้ ทำให้เกิดอาการชาหรือเจ็บที่แขน จึงฝันว่ามีคนมาตีแขนบ้างประสบอุบัติเหตุและบาดเจ็บที่แขนบ้าง หรือบางคนเป็นหวัดคัดจมูกจึงฝันว่ามีคนมาปิดปากปิดจมูกทำให้หายใจไม่ออกบ้าง อยู่ในที่แคบที่ไม่มีอากาศหายใจบ้าง หรือขณะนอนหลับได้ยินเสียง ได้กลิ่น มีบางสิ่งมาสัมผัส หรือมีบางสิ่งมาทำให้เกิดความรู้สึกร้อนเย็น ก็นำสิ่งที่มากระทบขณะนั้นๆมาฝันเป็นเรื่องเป็นราวได้ เป็นต้น อย่างนี้เรียกว่าความฝันที่เกิดจากธาตุวิปริต
- อนุภูติบุพพะ เกิดจากอารมณ์ในกาลก่อน คือ ความฝันที่เกิดจากอารมณ์หรือความรู้สึกที่เกิดขึ้น ที่เก็บไว้ หรือยังค้างคาใจอยู่เมื่อก่อนที่จะนอนหลับ เช่น บางคนก่อนนอนได้คุยกับเพื่อนเรื่องการเรียน จึงเก็บมาฝันว่าทำข้อสอบได้คะแนนสูงหรือฝันว่าถูกครูต่อว่าหรือฝันว่าทำ การบ้านถูกหมดทุกข้อ บางคนทำจานใบที่แม่ชอบแตกในตอนกลางวัน จึงเก็บมาฝันในตอนกลางคืนว่าได้ซื้อจานใบใหม่ที่เหมือนกันทุกประการกับใบที่ แม่ชอบมาไว้แทนที่เรียบร้อยแล้ว บางคนมีความตั้งใจว่าจะบวชทดแทนคุณพ่อแม่นานมาแล้ว แต่ยังไม่มีโอกาสและเวลาที่จะบวชเนื่องจากติดภารกิจการงาน และตอนกลางวันเขาได้เห็นพระสงฆ์ คืนนั้นเขาจึงเก็บเอาอารมณ์ความตั้งใจในกาลก่อนมาฝันว่าได้บวชให้พ่อแม่ เป็นต้น อย่างนี้เรียกว่าความฝันที่เกิดจากอารมณ์ในกาลก่อน
- เทวโตปสังหรณ์ เกิดจากเทวดาหรือพวกโอปปาติกะ(เทวดา,พรหม,สัตว์นรก,เปรต,ภูตผีปีศาจวิญญาณ(แล้วแต่จะเรียกกัน) มาดลสังหรณ์หรือมาเข้าฝัน เช่น วิญญาณคนตายมาเข้าฝันขอให้อุทิศส่วนบุญไปให้ มาเข้าฝันบอกหวย เทวดามาเข้าฝันบอกสิ่งที่เป็นมงคล เป็นต้น อย่างนี้เรียกว่าความฝันที่เกิดจากโอปปาติกะดลสังหรณ์
- บุพพนิมิต เกิดจากบุพนิมิตหรือความฝันบอกเหตุ คือ ความฝันที่บอกล่วงหน้าว่าจะเกิดบางสิ่งบางอย่างขึ้นในภายหน้า ซึ่งอาจเกิดจากญาณรู้ของเราเองหรือพวกโอปปาติกะมาดลสังหรณ์ เช่น ฝันว่าผู้ที่เสียชีวิตไปแล้วมาขอเกิดด้วยและต่อมาบุตรที่เกิดมาจำอดีตชาติได้ว่าเป็นคนที่เคยมาเข้าฝันมาเกิด, ฝันว่าไฟจะไหมบ้านและต่อมาได้เกิดไฟไหม้บ้านจริงๆ เป็นต้น อย่างนี้เรียกว่าความฝันบอกเหตุ
ในพุทธประวัติมีการกล่าวถึงความฝันบอกเหตุไว้ว่าคืนหนึ่งก่อนที่จะตั้งพระครรภ์เจ้าชายสิทธัตถะ พระนางเจ้ามายาราชเทวี พระมารดาของเจ้าชายสิทธัตถะได้ทรงพระสุบินว่ามีช้างเผือกชูดอกบัวบุณฑริกมาเข้าเฝ้าพระนางทำประทักษิณเวียนพระแท่นที่บรรทม 3 รอบ แล้วปรากฏเสมือนเข้าไปสู่พระอุทรเบื้องขวาของพระราชเทวี จากนั้นพระนางเจ้าก็เสด็จตื่นจากบรรทม พวกพราหมณ์ทำนายความฝันของพระนางว่าพระสุบินของพระราชเทวีเป็นมงคลนิมิตปรากฏ พระนางจะได้พระโอรสผู้มีบุญญาธิการยิ่งใหญ่ในโลกซึ่งต่อมาพระนางก็ตั้งพระครรภ์และให้กำเนิดพระโอรส คือเจ้าชายสิทธัตถะหรือพระพุทธเจ้าในกาลต่อมานั่นเอง
ในทางวิชาการมีนักทฤษฎีจิตวิเคราะห์ที่มีชื่อเสียงหลายท่านได้ใช้ความพยายามอย่างมากที่จะค้นหาปริศนาแห่งความฝัน เช่น Sigmund Freud, Carl Gustav Jung เป็นต้น ซึ่งพวกเขาก็ยังไม่สามารถเข้าถึงคำตอบที่แน่นอนแท้จริงได้แต่พวกเขาก็มีสมมุติฐานเกี่ยวกับความฝันหลายประการ เช่น ความฝันคือขบวนการของความพยายามที่จะแก้ปัญหาของจิต ความฝันคือความกังวลในใจถ้าไม่มีความกังวลก็จะไม่ฝัน ความฝันสำหรับเด็กคือความกลัว ความดีใจ ความเสียใจ ความอยากได้หรือความต้องการ ความฝันคือการแสดงออกถึงอุปนิสัยของผู้ฝัน ความฝันเกิดจากแรงจูงใจหรือสิ่งเร้าทั้งจากภายในและภายนอกร่างกายและจิตใจ ความฝันคือขบวนการแจกแจงปัญหาหรือการขจัดสิ่งที่กังวลในใจ ความฝันคือการตอบสนองอารมณ์ในด้านต่าง เป็นต้น
ลักษณะของความฝันที่หลายๆคนเคยประสบมาจะมีทั้ง ฝันที่เป็นไปตามความชอบความปรารถนา ฝันที่ขัดแย้งหรือตรงข้ามกับความชอบความปรารถนา ฝันถึงสิ่งที่เคยได้พบเห็นเคยได้ประสบมาก่อน ฝันถึงสิ่งที่ไม่เคยพบเคยเห็นหรือเคยได้ประสบมาก่อน ฝันวิจิตรพิสดาร ฝันว่าได้ไปในสถานที่ที่ไม่เคยพบเห็นหรือเคยไปมาก่อน ฝันว่าได้ไปสวรรค์ไปนรก หรือฝันเรื่อยเปื่อยจับใจความไม่ได้ไม่มีแก่นสารสาระ จะเห็นได้ว่าความฝันนั้นเป็นสิ่งที่หลากหลายละเอียดอ่อนและซับซ้อนเกินกว่า จะหาเหตุผลมาอธิบายได้เพียงพอ และด้วยความหลากหลายละเอียดอ่อนและซับซ้อนของความฝันนี้เอง ทำให้นักจิตศาสตร์บางคนถึงกับสรุปเอาเองว่า ความฝันของคนเรานั้นเป็นเพียงแค่ความฟุ้งซ่านของจิต เป็นเรื่องเพ้อเจ้อที่ไร้แก่นสารสาระ
อย่างไรก็ตามถึงแม้ว่าความฝันจะเป็นสิ่งที่หลากหลายละเอียดอ่อนซับซ้อนและยากที่จะเข้าถึงได้ เนื่องจากความฝันของคนเรานั้นเกิดขึ้นได้จากหลายสาเหตุดังที่กล่าวมาแล้วและปุถุชนคนธรรมดาอย่างเราๆก็ยังไม่สามารถพิสูจน์ทราบได้อย่างชัดเจนแน่นอน ว่าความฝันในแต่ละครั้งนั้นเกิดจากสาเหตุใด แต่ถึงกระนั้นก็ยังมีผู้คนจำนวนไม่น้อยที่ได้ประสบกับเหตุการณ์เชิงประจักษ์ เกี่ยวกับความฝันบอกเหตุและความพิเศษของความฝันอยู่เนืองๆ มีทั้งฝันเห็นเหตุการณ์ล่วงหน้าและฝันที่เป็นจริง จึงทำให้ยังไม่สามารถสรุปลงไปได้ว่าความฝันของคนเรานั้นเป็นแค่เพียงเรื่องเพ้อเจ้อไร้แก่นสารสาระ อย่างที่นักจิตศาสตร์บางคนสรุปไว้ได้
ความฝันที่แสดงถึงลางบอกเหตุล่วงหน้านี้ ศาสตราจารย์นายแพทย์ เอียน สตีเวนสัน อดีตหัวหน้าคณะศึกษาวิจัยเกี่ยวกับผู้จำอดีตชาติได้ จากมหาวิทยาลัยเวอร์จิเนีย ประเทศสหรัฐอเมริกา ซึ่งเป็นผู้หนึ่งที่ได้ศึกษาเกี่ยวกับความฝันบอกเหตุ และความพิเศษของความฝันจากการติดตามศึกษาวิจัยผู้จำอดีตชาติได้ทั่วโลก ท่านเรียกความฝันลักษณะนี้ว่า “Announcing Dreams” ซึ่งมีความหมายในภาษาไทยว่า “ความฝันบอกเหตุ” เป็นความฝันลักษณะหนึ่งที่พบว่ามีความสัมพันธ์กันกับการสืบชาติมาเกิดใหม่ของผู้ ที่จำอดีตชาติได้ คือ ก่อนที่เด็กที่จำอดีตชาติได้จะเกิดมานั้น พบว่ามีกรณีศึกษาจำนวนมากที่แม่ของเด็กฝันว่าผู้ที่เสียชีวิตมาบอกว่าจะขอมา เกิดด้วยหรือมาบอกว่ามาเกิดด้วยแล้ว และต่อมาปรากฏว่าเด็กที่เกิดมาจำอดีตชาติได้ว่าเป็นผู้เสียชีวิตที่มาเข้า ฝันก่อนหน้านี้สืบชาติมาเกิด ซึ่งจากข้อมูลจำนวนมากที่ได้ทำให้คณะที่ทำการศึกษาวิจัยทราบว่าความฝันนั้น เป็นสัญลักษณ์หรือเครื่องหมายอย่างหนึ่งที่สามารถแสดงถึงลางบอกเหตุล่วงหน้า ได้ และมีความสัมพันธ์ใกล้ชิดกับการสืบชาติมาเกิดใหม่และการจำอดีตชาติได้
Story : Porsche Kittisak K
Thanks to image from : http://www.bloggang.com/data/patisonii/picture/1303897608.jpg