เลี้ยงลูกอย่างไรให้เป็นเลิศในทุกด้าน

Chinese

ถ้าหากมีเด็กผู้ชายอายุ 14 ปี 2 คน ยืนคู่กันรู้ได้อย่างไรว่าใครเป็นคนไทยและใครเป็นคนจีน? นอกจากผิวพรรณแล้วมีอะไรหรือไม่ที่บ่งบอกได้ว่าเขาสองคนแตกต่างกัน เป็นที่ทราบกันดีอยู่แล้วว่าคนจีนที่มาตั้งรกรากถิ่นฐานในประเทศไทยจนเป็นเจ้าของกิจการใหญ่โตประกอบรายได้เป็นล่ำเป็นสัน บ้างเป็นนักธุรกิจอันดับต้นๆของประเทศไทย มีตึกราบ้านช่องตามถนนสายเศรษฐกิจตารางวาละเฉียดแสนบ้างเฉียดล้านนั้นล้วนแล้วแต่มาจากเสื่อผืนหมอนใบ

วันนี้ในวันวานเมื่อชาวจีนในอดีตได้เผชิญกับการเปลี่ยนแปลงการปกครองจากระบอบเก่ามาเป็นระบอบปัจจุบัน ชาวจีนส่วนใหญ่หนีความแร้นแค้นและเสี่ยงตายอพยพหนีตายไปยังประเทศข้างเคียง บ้างถูกทหารยิงตายระหว่างการหลบหนี แต่พวกเขามาตัวเปล่า คุณผู้อ่านเคยได้ยินไหมว่า “ที่ไหนมีคนจีนที่นั่นทำมาค้าขึ้น” เพราะอะไร…เพราะว่าชาวจีนมีอาชีพหลักในการค้าขาย มีหัวก้าวหน้าอยู่ตลอดเวลาถึงแม้จะเรียนมาน้อยแต่พวกเขาก็พยายามให้อนาคตดีกว่าวันนี้ เพราะพวกเขาเคยผ่านวิกฤติที่เลวร้ายของการเปลี่ยนแปลงการปกครองที่สาหัสมาแล้ว เขาจึงเรียนรู้และมีความสุขกับอิสรภาพที่เขาได้รับสามารถลืมตาอ้าปากกันได้อีกครั้งหนึ่ง

คนจีนอาจมีกริยาการพูดจาปราศรัยที่กระโชกโฮกฮากแต่ทว่าตรงไปตรงมาไม่มีจริตมารยาแตกต่างจากคนไทยที่กระมิดกระเมี๊ยนด้วยกริยาอาการความเป็น “ผู้ดี” จึงมีสำนวนว่า “เจ๊กปราศรัยเหมือนไทยตีกัน” และคนไทยก็ตั้งสำนวนไทยขึ้นมาจากอุปนิสัยคนไทยด้วยกันเองว่า “ปากปราศรัยน้ำใจเชือดคอ” นั่นสิที่น่าขัน คนไทยในอดีตดูหมิ่นดูแคลนชาวจีนว่าเป็นพวก “เจ๊ก” รังเกียจการค้าขายว่าเป็นอาชีพที่ต่ำต้อย ห้ามลูกหลานประกอบอาชีพค้าขาย หากเป็นหญิงต้องนั่งพับเพียบเรียบร้อย หวีผม มีคนรับใช้คอยประคบประหงม หากเป็นผู้ชายต้องสุขุมมีความเป็นเจ้านายและโตมาจึงรับราชการ สำนวนที่ว่า “เช้าชามเย็นชาม” ก็ไม่ใช่เรื่องแปลกอะไรหากเขาจะว่าให้ข้าราชไทยในอดีต ในขณะที่ลูกหลานชาวจีนต้องถูกใช้งานตั้งแต่เล็กไม่มีที่จะได้พบกับคำว่าสบาย ลูกหลานชาวจีนถูกฝึกให้ต้องมี่ความขยันหนักเอาเบาสู้และมีความรับผิดชอบตั้งแต่เล็กๆและชาวจีนนิยมมีลูกหลานมากเพื่อที่จะได้เป็นเรี่ยวแรงในการทำมาค้าขาย นำมาซึ่งรายได้เป็นกอบเป็นกำเพื่ออนาคตที่ดีกว่า

สงสัยว่าทำไมพ่อแม่จีนสามารถเลี้ยงลูกให้ประสบความสำเร็จได้ คนมีคำถามว่าพ่อแม่จีนทำอย่างไรจึงสามารถเลี้ยงลูกให้เป็นอัจฉริยะทางการเรียนอย่าง คณิตศาสตร์และดนตรี ครอบครัวจีนมีลักษณะอย่างไรและจากคำถามเมื่อข้างต้นว่าจะทราบอย่างไรเด็กผู้ชายคนนั้นเป็นคนไทยหรือจีน ง่ายนิดเดียว คุณลองมอบหมายงานให้เขาสักอย่างหนึ่งเป็นต้นว่าให้เขาจัดการงานสักอย่างหนึ่งแล้วดูว่าระหว่างปฏิบัติงานใครเป็นอย่างไร แน่นอนว่าเขาทั้งสองจะต้องมีความแตกต่างกันอย่างใดอย่างหนึ่ง แต่คนจีนเป็นคนทำอะไรแคล่วคล่องว่องไวเพราะอุปนิสัยเขาเป็นแบบนั้น ที่สำคัญชาวจีนจะสอนลูกเหมือนกันหมดทุกบ้านว่า ห้ามไปนอนบ้านเพื่อน, ห้ามนัดเพื่อนมาเล่นด้วยกัน, ห้ามดูโทรทัศน์หรือเล่นเกมคอมพิวเตอร์มากไป รวมทั้งห้ามเข้าร่วมการแสดงละครของโรงเรียน และห้ามได้เกรดต่ำจะต้องได้ที่ 1 ทุกวิชา ยกเว้นวิชาพละและวิชาการแสดง ทั้งหมดที่กล่าวมานั่นคือกฎเหล็กของลูกหลานชาวจีน โดยไม่มีการต่อรอง ห้ามบ่น ห้ามแย้ง ขืนแย้งก็จะโดนลงโทษด้วยไม้เรียวและประกอบกับที่ชาวจีนพูดจากระโชกกระชากด้วยแล้ว เสียงเอะอะจะดังชนิดห้าบ้านแปดบ้าน เด็กๆก็อายเมื่อโดนทำโทษจึงได้แต่ก้มหน้าก้มตาทำตามที่พ่อแม่(จริงๆต้องเรียก ป๊า ม้า)สอนสั่ง สุดท้ายแล้วพวกเขาก็ประสบความสำเร็จในการเรียนอย่างถึงที่สุด มีความคิดความอ่านที่ก้าวไกล มีวิสัยทัศน์กว้างขวาง เป็นที่ยอมรับในสังคมอีกทั้งเป็นเจ้านายของคนไทยที่เป็นลูกหลานพระยาในอดีตที่เคยดูหมิ่น “พวกเจ๊ก”

มีงานศึกษาวิจัยที่แสดงให้เห็นความแตกต่างของวิธีการเลี้ยงลูกของพ่อแม่จีนและพ่อแม่ชาวไทย ในรายงานชิ้นหนึ่งที่ได้ศึกษาแม่ชาวจีนอพยพจำนวน 48 คน และแม่ชาวไทย 50 คน 70% ของชาวไทยที่คิดว่าการเข้มงวดในเรื่องความสำเร็จในการเรียนของลูกมากจนเกินไปจะไม่เป็นผลดีต่อลูกหรือพ่อแม่ควรจะพยายามปลูกฝังความคิดที่ว่าการเรียนนั้นเป็นเรื่องที่สนุกสนาน ในทางตรงกันข้ามไม่มีแม่ชาวจีนคนใดเลยที่เห็นด้วย แม่ชาวจีนส่วนใหญ่กล่าวว่าพวกเขาเชื่อว่าลูกสามารถเป็นนักเรียนดีเด่นได้และความสำเร็จทางด้านการศึกษาของลูกแสดงให้เห็นความสำเร็จในการเลี้ยงลูก หากลูกเรียนหนังสือไม่เก่งแสดงว่ามีปัญหาและพ่อแม่ไม่ได้ทำหน้าที่ของตนเองอย่างถูกต้อง

สิ่งที่พ่อแม่ชาวจีนเข้าใจคือเราจะทำอะไรก็ไม่สนุกหากเราทำไม่ได้ ทำไม่คล่อง ทำได้ไม่ดีและทำไม่เก่ง เราต้องเก่งเราถึงจะสนุกกับกิจกรรมที่ทำ การที่เราจะเก่งได้ เราต้องฝึกฝนทำงานหนักเพื่อให้ได้สิ่งนั้นมา ตามธรรมชาติของเด็กแล้วเด็กไม่อยากทำงาน ดังนั้นจึงจำเป็นมากที่พ่อแม่ต้องกำหนดและจำกัดความชอบของลูก ดังนั้นพ่อแม่จีนต้องมีความทรหดอดทนมากเพราะลูกจะต่อต้าน ช่วงแรกๆเป็นช่วงเวลาที่ลำบากที่สุด และพ่อแม่ชาวไทยส่วนใหญ่จะเลิกทำและยอมแพ้ ถ้าพ่อแม่มีวิธีจัดการกับลูกอย่างถูกต้อง วิธีเลี้ยงลูกแบบชาวจีนจะส่งผลดี จะเห็นว่าการทำซ้ำๆหรือการท่องจำนั้นไม่ค่อยได้รับความสำคัญในชาวตะวันตกเท่าไหร่นัก แต่สำหรับพ่อแม่จีนเชื่อว่าการฝึกฝนเป็นประจำและความเข้มงวดเป็นกุญแจสู่ความเป็นเลิศ เมื่อเด็กทำได้ดีเยี่ยม ไม่ว่าจะเป็นด้านการเรียนคณิตศาสตร์ เล่นเปียโน เด็กถึงจะได้รับคำชมเชยและชื่นชม เด็กเกิดความพึงพอใจซึ่งเป็นสิ่งที่ช่วยสร้างความมั่นใจและทำให้กิจกรรมที่ครั้งหนึ่งเคยเป็นกิจกรรมที่น่าเหนื่อยหน่ายกลายมาเป็นกิจกรรมที่แสนสนุกได้ ผลพลอยได้คือ พ่อแม่สามารถผลักดันให้ลูกมีความตั้งใจและฝึกและทำงานหนักได้มากขึ้นกว่าเดิม

ท้ายที่สุดนี้คนจีนเชื่อว่าวิธีที่ดีที่สุดที่เราจะปกป้องลูกได้คือเตรียมลูกให้พร้อมรับกับอนาคต ให้ลูกได้เห็นว่าลูกสามารถทำอะไรได้บ้าง และเตรียมทักษะให้ลูกพร้อมเผชิญกับปัญหา มีวินัยในการทำงาน มีความมั่นใจที่ไม่มีใครจะทำให้สั่นคลอนได้และผู้เขียนเองก็เชื่อมั่นเช่นนั้น เพราะก็มีความเป็นเชื้อสายจีนอยู่

Story : Kittisak Kandisakunanont
Reference : Why Chinese Mother Are Superior

Related contents:

You may also like...