ชาคริต จตุพรวัฒนพนธ์ “ตัวจริงแห่งดารา”
ด้วยคารแร็คเตอร์ที่ถือเป็นซิกเนเจอร์ของเขาทำให้คนจดจำเขาได้แบบไม่มีวันลืมนั่นคือ “แววตาออดอ้อนแฝงด้วยความเจ้าชู้” ของ ชาคริต จตุพรวัฒนพนธ์ พระเอกของคนไทยทั้งประเทศ คริสต์ศตวรรษที่ 21 นี้ ไม่มีใครร้อนแรงและมีเสน่ห์ดึงดูดมากไปกว่าหนุ่มคนนี้อีกแล้ว นอกจากนี้เขายังได้รับรางวัลรางวัลศิลปินส่งเสริมพระพุทธศาสนา ในวันนี้เป็นโอกาสดีที่ Hi-Class Society.com จะนำเสนอแต่ละย่างก้าวของหนุ่มชาคริต เชื่อว่าเมื่อคุณรู้จักเขามากขึ้น คุณจะรักเขา ไม่ใช่เพียงหลงเสน่ห์ในแววตาจากจอแก้ว
ชาคริต จตุพรวัฒนพนธ์ หรือ ปาร์ค คุง ซู ทายาทนักธุรกิจส่งออกและนำเข้าเคมีภัณฑ์รายใหญ่ของประเทศ, ผลิตและส่งออกผลิตภัณฑ์บรรจุอาหารให้กับบริษัทนายทุนยักษ์ใหญ่ ฯลฯ ปาร์ค คุง สำเร็จการศึกษาระดับมหาบัณฑิต คณะวิศวกรรมศาสตร์ สาขาเคมี จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เพื่อเข้ามาช่วยธุรกิจของครอบครัว เรียกได้ว่าหล่อและคุณภาพคับแก้ว แต่ด้วยความที่มีรูปเป็นทรัพย์และประกอบธุรกิจของที่บ้านไม่มีอะไรต้องเป็นห่วงมาก เขาจึงไม่คิดที่จะปล่อยให้เวลาล่วงเลยไปโดยเปล่าประโยชน์ เวลาเช้าเป็นเวลาที่เขาจัดแจงธุรกิจและหลังจากนั้นบ่ายสองโมงเขาจะวางทุกอย่างทันทีและอาบน้ำเพื่อความสดชื่นจากนั้นจึงเข้าสู่โลกแห่งสีสันและความบันเทิง
“…เข้าสู้วงการบันเทิงจากการไปแคสพิธีกรสีสันบันเทิงทางช่อง 3 ซึ่งตอนแรกไม่ได้คาดหวังอะไรเพราะเราเองไม่ได้เรียนมาในสาขานี้ แต่พอได้รับคัดเลือกเข้าไปเป็นพิธีกรก็รู้สึกชอบที่ได้เปิดโลกทัศน์ใหม่ๆและประสบการณ์แบบใหม่ จีงทำให้มีความสุขในงานเรื่อยมาครับ…”
“…ทำงานเป็นพิธีกรอยู่ ประมาณ 1 ปี แล้วต้องกลับมาเรียนต่อ ป.โท เนื่องจากทางบ้านต้องการให้เรียนครับ จึงอาจห่างหายวงการบันเทิงไปบ้างครับ แต่เมื่อเรียนจบแล้วก็กลับมาทำในวงการเหมือนเดิม ซึ่งอาจจะเห็นตามงานโฆษณาต่างๆ เช่น มาม่าแกงเขียนหวานไก่, Car shine แชมพูล้างรถ, วาสลีน, เคเอฟซี รวมไปถึงละครซิดคอมต่างๆ
ฝีไม้ลายมือของปาร์ค คุง ซู เรียกได้ว่าโลดแล่นทั่วทุกแห่งหนจนได้เตะตาต้องใจคุณสมจริง ศรีสุภาพ จึงได้รับการทาบทามให้ไปร่วมเล่นละคร “นางร้ายสายลับ” ทางไทยทีวีสีช่อง 3 ซึ่งขณะนี้กำลังออกอากาศซึ่งตัวเขาเองได้รับแรงเชียร์จากเหล่าสาวกของเขาผ่านทาง Instragram : parkgooong อย่างท่วมท้นถล่มทลาย ซึ่งทางเจ้าตัวก็ขอขอบคุณทุกท่านมา ณ โอกาสนี้ด้วย
เส้นทางชีวิตที่ไม่ใข่สิ่งที่เราเรียนมา มันต้องมีติดขัดบ้าง อะไรที่ทำให้เรามั่นใจที่จะก้าวต่อไป
“แรงผลักดันในแต่ละวันของผม คือ เห็นพ่อและแม่ยิ้มในสิ่งที่เราทำครับ เพราะแรกๆพ่อแม่ก็ไม่ยอมให้ทำทางด้านวงการบันเทิงสักเท่าไรเนื่องจากมีธุรกิจส่วนตัวอยู่แล้ว เราก็พยายามทำในสิ่งเรารักให้ท่านเห็น ให้ท่านพอใจ มาถึงทุกวันนี้ก็รู้สึกดีใจมากแล้วครับ ”
ฝันเป็นจริงหรือว่าอินกับวงการบันเทิงไปจนถอนตัวไม่ขึ้น ??
“ทุกคนมีความฝัน ผมแค่คนหนึ่งที่รักในการเป็นนักแสดงครับ ผมถึงทำตามความฝันและผมเชื่อว่าดาราหน้าใหม่ๆที่เข้ามาถ้ามีความรักในวิญญาณของการแสดงจริงๆก็จะประสบความสำเร็จอย่างแน่นอนครับ”
เหตุการณ์ที่ทำให้ท้อหรือหวั่นไหว
“สถานการณ์ที่อึดอัดคือบางครั้งร่วมงานกับนักแสดงมืออาชีพที่เก่งระดับเทพ แล้วพอเราต้องแสดงด้วย เราจะรู้สึกเกร็งกับตัวเอง แล้วอาจเล่นไม่ออก ทำให้พี่ๆอาจเสียเวลา เลยมากดดันอึดอัดกับตัวเองครับ”
Proud to be me
“…จะบอกว่ามากมายครับ เกือบ 100 ครั้งครับ เพราะเมื่อก่อนผมแคสงานเกือบ 300-400 ตัว ไม่เคยได้ จนเอเจนซี่บอกว่าไม่ต้องมาแคสแล้ว มันทำให้เราท้อมากครับ แต่เพราะด้วยความรักในการแสดงอาชีพนี้จึงพยายามต่อ จนทุกวันนี้มีงานเข้ามาเรื่อยๆก็รู้สึกภูมิใจครับ…”
มีเสี้ยววินาทีวิกฤติชีวิตไหม
“… มีแบบมืดแปดด้าน ทั้งเรื่องงานทางบ้าน ทางอาชีพการแสดง ครอบครัว ที่เกิดขึ้นพร้อมๆกันจนปวดหัวไปหมดครับ แต่เราก็คิดว่าทุกอย่างย่อมมีทางออกเสมอครับ ทำพ่อแม่เสียใจในการทำงานที่ท่านไม่ยอมรับมันก็รู้สึกแย่นะครับ แต่เราก็ต้องพิสูจน์ให้ท่านเห็นว่าเราทำได้…”
วันนี้อะไรที่เป็นสิ่งที่ทำให้เราผ่อนคลาย
“ ว่างๆก็จะไปฟิตเนสเบาๆ ฟังเพลง และชอบดูหนังต่างๆ เพราะคิดว่ามันเป็นทักษะการแสดงที่ต้องฝึกฝนโดยการมองมืออาชีพมาเป็นแบบอย่างครับ”
จบการสนทนาแบบประทับใจในความมีทิฐิมานะของนักแสดงหนุ่มมากความสามารถ และใครที่ประทับใจเขาคนนี้ไปพร้อมๆกับบทสัมภาษณ์นี้ ในช่วงนี้เองที่เขากำลังมีผลงานล่าสุดโดนใจมหาชนกับมิวสิควิดิโอ “ถึงเวลาต้องเรียนรู้” รับบทเป็นผู้ชาย(อบอุ่น) ที่หวีผมจนกระทั่งปาดน้ำตานางเอกสาว ดูทีท่าแล้วเหมือนมีความคล่องมือไม่น้อย เนื้อหาเพลงมีความหมายโดนใจคนค่อนประเทศ และอดใจรออีกไม่นานกับละครเรื่อง “นางร้ายสายลับ ทางช่อง 3” คาดว่าน่าจะออนแอร์เร็วๆนี้ เป็นละครยาวเรื่องแรกของหนุ่มปาร์คคุง …
หนุ่มปาร์คคุง ทิ้งท้ายด้วยวลี “ให้กำลังใจผม กันด้วยนะครับ” พร้อมสายตาที่เว้าวอนเจ้าชู้แกมขอกำลังใจ …
Story : Kittisak Kandisakunanont
