Dhamma for Life
บางครั้งสิ่งที่ทำให้ใครคนใดคนหนึ่งรู้สึกผ่อนคลาย สบายกายสบายใจ อาจไม่ใช่วัตถุสิ่งของ อาจไม่ใช่กิจกรรมสันทนาการ แต่อาจเป็นกิจกรรมที่เกี่ยวข้องกับการเรียนการศึกษา ขึ้นชื่อว่าการเรียนการศึกษา แค่ฟังก็ไม่ชวนให้รู้สึกผ่อนคลายแล้ว แต่สำหรับ ชูชัย ชัยฤทธิเลิศ เขามีการเรียนเป็นกิจกรรมผ่อนคลายจิตใจ สิ่งที่เขาเรียนคือธรรมะ
“ตั้งแต่ตอนเด็ก สิ่งเดียวที่เรารู้คือต้องหาเงินให้ได้มากที่สุดเพื่อมาช่วยเหลือครอบครัว คำว่าไปเที่ยวแทบไม่เคยมีในชีวิตของเราเลย พูดง่ายๆ ชีวิตเราไม่เคยมีวัยรุ่น เรียนแล้วก็ทำงานเลย แล้วคำว่าเจ็บป่วยใช้กับชูชัยไม่ได้นะ (หัวเราะ) จะป่วยจะเหนื่อยแค่ไหนเราก็ต้องคลานไปทำงานให้ได้ ไม่เคยมีเวลาพักผ่อนหรือ Hobby อะไรทั้งสิ้น” คุณชูชัยเท้าความกลับไปยังสมัยก่อนที่ต้องเริ่มทำงานหาเงินตั้งแต่ยังเป็นวัยรุ่น ทำแบบชนิดที่ว่า โลกใบนี้ไม่มีอะไรอื่นนอกจากการทำงานหาเงิน ซึ่งคุณชูชัยบอกว่า เขาเกือบจะเดินเข้าไปสู่ภาวะของคนที่อยากได้ต่อไปไม่รู้จบไปแล้ว ถ้าไม่ได้มาศึกษาธรรมะ
“จนกระทั่งเรามาศึกษาธรรมะ ทำให้เราได้คิดว่า คนเรานั้นเกิดมาเพื่อตาย มีเพื่อรอพราก นี่คือสิ่งที่จริงแท้แน่นอน อย่างเมื่อวานหมาเราตาย ตอนแรกรู้สึกเหมือนจุกคอ อยากร้องไห้ แต่ธรรมะทำให้เราคิดได้ มีมาเพื่อพราก เราเลี้ยงเขา มีเขา วันหนึ่งเราไม่พรากจากเขาไป เขาก็พรากจากเราไป ไม่มีอะไรในโลกยืนยงคงกระพันไม่เสื่อมสลาย ถ้าคนเราเข้าใจจุดนี้ก็จะทำใจอะไรได้หลายๆ อย่าง
“ดังนั้น เมื่อตอนที่ ‘รายการวู้ดดี้เกิดมาคุย’ มาถ่ายทำที่บ้าน แล้วถามว่า ‘พี่ชูชัย ถ้าวันหนึ่งทุกสิ่งทุกอย่างที่สร้างมันหายไป พี่จะอยู่ได้ไหม’ เราบอกเราอยู่ได้ ถ้าเรามีธรรมะอยู่ในใจเราจะเข้าใจ เพราะเราคือใจ เราไม่ใช่กาย
“ตอนนี้บอกกับตัวเองแล้วว่า ชีวิตที่เหลือขอทำอะไรให้ตัวเองมีคุณค่า คำว่ามีคุณค่าก็คือ ทำเพื่อเป็นผู้ให้ ตัวเราคือพอแล้ว เริ่มจากมองคนรอบข้างก่อน ครอบครัว องค์กร บริษัท ทำยังไงให้ทุกคนกินอิ่ม นอนหลับสบาย แล้วสุดท้ายก็เพื่อสังคม นี่เป็นจุดมุ่งหมายของเราที่อยากทำ แต่บางคนก็บอก ‘สร้างภาพหรือเปล่า’ เราบอกตรงๆ ว่าเราไม่จำเป็นต้องสร้างภาพ เราทำแล้วมีความสุขก็แค่นั้น ไม่ได้คาดหวังอะไรกลับมา ก็ลองดูต่อไปเรื่อยๆ แล้วกัน (ยิ้ม)
“ทุกวันนี้ การศึกษาธรรมะของเราเหมือนกับเป็นสิ่งที่ช่วยผ่อนคลายจิตใจได้อย่างดีมาก ไม่แพ้งานอดิเรกอื่นๆ ของใครต่อใครเลย การที่เราได้มาศึกษาธรรมะ เรียกได้ว่าเป็นอริยสัจที่มีค่ากว่าเงินทองใดๆ ในโลก”