ไท จิราธิวัฒน์

สิงห์หนุ่มแห่งเครือเซ็นทรัล

อันเนื่องจากรับหน้าที่กุนชือการคลังดูแลเม็ดเงินในการลงทุนรวมถึงระดมทุนจากนักลงทุนเพื่อใช้ในการขับเคลื่อน บมจ.เซ็นทรัลพัฒนาให้ก้าวสู่การเป็นผู้นำธุรกิจศูนย์การค้าไทยและกำลังรุกคืบวางแผนก้าวไปลงทุนในต่างแดน ไท จิราธิวัฒน์ ผู้จัดการอาวุโสฝ่ายการเงิน บริษัท เซ็นทรัลพัฒนา จำกัด (มหาชน) จึงเป็นอีกหนึ่งคนหนุ่มไฟแรงที่น่าจับตามอง

ไท ในชื่อเล่นน่าเกรงขามว่า “สิงห์” แต่กลับมีรอยยิ้มเป็นเอกลักษณ์ เพิ่งฉลองอายุครบ 28 ปีไปหมาดๆ ไม่เพียงนามสกุลอันบ่งบอกการสมาชิกเป็นสายตรงของอาณาจักรจิราธิวัฒน์ ครอบครัวซึ่งใหญ่ทั้งในด้านจำนวนลูกหลานและธุรกิจที่ลงทุนในแขนงต่างๆ ภายใต้ชื่อ ‘เซ็นทรัล’ หากยังรวมถึงพื้นฐานการศึกษาระดับปริญญาตรีด้านเศรษฐศาสตร์และการบัญชี จากวิทยาลัยแครมอนท์ มลรัฐแคลิฟอร์เนีย สหรัฐอเมริกา พ่วงท้ายด้วยประสบการณ์ในองค์กรที่ปรึกษาชั้นนำในเมืองไทย คือ บริษัทแอนเดอร์เซ่น คอนซัลแทนซ์ และ บริษัทหลักทรัพย์ภัทร ก่อนจะเข้าร่วมเป็นส่วนหนึ่งของเซ็นทรัลอย่างเต็มตัว โดยเขาเป็นผู้เลือกและถูกเลือกจากคณะกรรมการบริหารระดับสูงของเซ็นทรัลพัฒนา (CPN) ทำให้ได้รับการมอบหมายภารกิจสำคัญในองค์กรน้องใหม่ที่มีขุมอำนาจทางเศรษฐกิจไม่แพ้บริษัทในเครือ

“เราเติบโตกันมาก็ได้เรียนรู้ได้เห็นการทำงานจากคุณพ่อ คุณแม่ คุณลุง คุณอา ที่ทำงานอยู่แล้ว และก็มี taste กับ feeling ของการค้าปลีกมาตั้งแต่เล็กๆ ผมมาชิดลมตั้งแต่เด็ก ตอนนั้นยังมีแค่ 2-3 ชั้นจนกลายเป็น 6-7 ชั้น ได้เห็นการค้าปลีก พอเรียนจบกลับมาได้ไปทำงานหาประสบการณ์ในองค์กรชั้นนำ ตอนหลังอยากเข้ามามีส่วนร่วมกับครอบครัว ก็ยื่นใบสมัคร สอบสัมภาษณ์ตามกฎของพนักงานบริษัท และพอเข้ามาทำงานจริงๆ ก็ไม่ยากเลยอาจจะมีเรื่อง politic บ้าง เช่นบางทีประชุม เราเป็นพี่น้องกันก็ต้องมีเคารพในอาวุโสของผู้ใหญ่ โดยเฉพาะวัฒนธรรมของคนไทยและคนจีน จะออกเสียงไม่ค่อยเต็มที่ ต้องหาวิธีกว่าที่เราจะเสนอไอเดียออกไปได้ ในส่วนของเรื่องงานไม่มีอะไรยากเกินความสามารถ”

“งานที่รับผิดชอบใน CPN ก็มีด้าน IR : Investor Relation ด้านโปรเจคต์ มีโปรเจคต์ที่ออกใหม่คือ Property fund โดย CPN เป็นบริษัทแรกที่ออกกองทุนอสังหาริมทรัพย์ซึ่ง CPN กับนักลงทุนตั้งขึ้นมา เอาเงินไปซื้อศูนย์ฯ ของ CPN หน้าที่หลักตอนนี้เกี่ยวกับการเงินและการคุยกับนักลงทุนนักวิเคราะห์ ซึ่งผมก็รู้ว่าคนที่อยู่ในสายงานด้านการลงทุนเขาคิดอะไร และผมก็ได้รับมอบหมายให้ช่วยคุมโปรเจ็คต์ที่มีขึ้นมาใหม่ตลอดเวลา ตอนนี้มีประมาณ 5-8 โครงการ และใน CRC (เซ็นทรัล รีเทล คอปอเรชั่น) ผมก็เป็นหนึ่งในผู้ดูแลทางด้านการเงิน”

ด้วยบุคลิก รูปร่างหน้าตา ทักษะการเจรจา บวกความถนัดในทางการเงิน จึงทำให้เขามีหน้าที่ทั้งการวิเคราะห์และดูแลการเงินไปพร้อมกับทำหน้าที่ประชาสัมพันธ์ความน่าเชื่อถือและน่าลงทุนขององค์กร

“จะว่าไปแล้วก็เหมือนเป็น PR ในส่วนหนึ่ง และก็วิเคราะห์ในส่วนของโครงการหลักที่มีอยู่ในเมืองไทยและจากต่างประเทศ แล้วก็ด้าน Property fund ประสบการณ์ที่ผ่านมานั้นช่วยได้เยอะมาก นำวิธีการคำนวณมูลค่าของสินค้าและงบดุลหรือว่าความคิดของพวกนักลงทุน นักวิเคราะห์ว่าเขาดูอะไรเป็นสิ่งที่สำคัญที่สุด”

“ตอนนี้งานที่ทำอยู่ต้องต่อสู้กับเวลา เพราะว่ามีสิ่งที่อยากจะเข้าไปเรียนรู้ แต่เวลามันก็มีข้อจำกัด การบริหารเวลาเป็นสิ่งสำคัญ ตื่นเช้าผมจะดูข่าวจาก CNBC เพราะเกี่ยวข้องกับงาน ดูว่าตอนนี้ทิศทางตลาดที่อเมริกาเป็นอย่างไร และวิเคราะห์ว่าบริษัทนี้ๆ เป็นยังไง ทำงานที่ออฟฟิศ 9 โมงถึงทุ่มสองทุ่ม อยู่กินที่นี่ครบเลยแล้วถึงค่อยกลับ เพราะผมอยู่คนเดียว กลับบ้านก็ไม่มีอะไรทำ แต่เอาเข้าจริงๆ พอกลับก็ไปก็ทำงานต่อนะเข้าอินเตอร์เน็ตทำงานอีก”

“แต่นอกเหนือจากสู้กับเวลาก็คือต้องแก้ปัญหา ปัญหาที่เจอมันก็เจออยู่ปกติ แล้วแต่ว่าปัญหาอะไร ปัญหาที่แก้ได้เลยมันก็มาจากประสบการณ์ บางทีที่ไม่เคยปรากฏมาก่อนมันก็ต้องใช้เวลา คิดว่าจะไปทางด้านไหน ผมจะไม่ปะทะ แต่จะดูว่าถ้าไปด้านนี้จะเป็นยังไงจะเป็นยังไง เอาไอเดียไปปรึกษาผู้ใหญ่ แล้วแต่ว่าขนาดของปัญหาคือตรงไหน ต้องวิเคราะห์ว่าปัญหาจุดนี้จากคนหรือเป็นสถานการณ์ ที่แก้ไขยากที่สุดคือ ปัญหาที่เกี่ยวกับคนแน่นอน เพราะเราไม่รู้ว่านิสัยคนๆ นี้เขาเป็นอย่างไร เรารู้นิสัยคนในที่ทำงานแต่คนอื่นที่เราไม่เคยทำงานด้วย เราไม่รู้เลยว่าเขาคิดอย่างไรข้างใน ภายนอกอาจจะยิ้มแย้มแต่ข้างในอาจจะคนละเรื่องกันเลย”

“วิธีทำงานที่ดีที่สุดคือ ใส่ใจทำ แยกเป็นสองแบบ คือต้องทำงานหนัก มีความรับผิดชอบ และก็คิดทุกอย่างให้รอบคอบ ทำงานโดยใช้ ทีมเวิร์ค เพราะหากมีปัญหา แต่ละคนเขาอาจจะมีความชำนาญเฉพาะตัวที่ไม่เหมือนกัน แต่ละคนก็จะมีทางออกต่างกันไป อีกอย่างคือความซื่อสัตย์ และภักดี ต้องเชื่อมั่นกันระหว่างผมและทีม ต้องแฟร์ อย่าไปโกง อย่าไปฉวยโอกาสเราจะไม่มีทางชนะเลย อาจจะช่วงสั้นๆ ที่ร่วมงานกัน แต่ระยะยาวเขารู้อยู่แล้วว่าโดนโกง และอนาคตอาจจะไม่มีการทำงานด้วยกันอีกเลย โปร่งใสดีที่สุด ทำงานให้หนักที่สุด คิดให้รอบคอบ และโปร่งใสที่สุด”

แม้ว่าความรับผิดชอบจะครอบคลุมไปหลายภารกิจ แต่ที่แน่นอนคือสิงห์หนุ่มรายนี้ยังโปรยยิ้มหวานพร้อมเชิญชวนนักลงทุนต่างชาติให้ตัดสินใจเลือกร่วมทุน และยืนหยัดเฝ้าปากถ้ำสมบัติของเซ็นทรัลพัฒนาอย่างแข็งขัน

“ที่คนอื่นมองว่าผมทำงานกับครอบครัว…ก็ถูกต้องนะ ซึ่งนักลงทุนเขาชอบที่ผมเข้ามาทำให้ครอบครัว เขารู้ว่าทรัพย์สินของผมผูกมัดกับบริษัท ถ้าไม่ทำงานก็ไม่เพิ่ม แต่ถ้าผมยิ่งทำงานผมจะได้รับประโยชน์ เขาก็ชอบเพราะว่าผมเป็นไม่ใช่เป็น PR ทางการเงินการลงทุนของบริษัทเท่านั้น แต่ผมจะลงไปวิเคราะห์ว่าวิธีการส่งเสริมธุรกิจมีที่ไหนบ้าง และทำอย่างไรบ้าง เขาเชื่อมั่นนะ ในทางกลับกันพวกฝรั่งมืออาชีพที่มีความชำนาญค่อนข้างเยอะเพราะทำงานมานานแต่สายสัมพันธ์ของบริษัทจะไม่เท่ากัน ทำงานมา 2-3 ปี ได้เงินเดือนเยอะ แต่เขาจะออกเมื่อไหร่ก็ได้ แต่สำหรับผมนี่ออกไม่ได้”

Related contents:

You may also like...