รสนา โตสิตระกูล

เราทุกคนเป็นพลเมือง ไม่ใช่ฝุ่นเมือง

118,332 คะแนน จากมติของประชาชนชาวกรุงเทพฯ ที่มอบหมายภารกิจให้กับ รสนา โตสิตระกูล แกนนำองค์กรผู้บริโภค นักต่อสู้ผู้ยืนหยัดต้านความไม่ถูกไม่ควรที่เกิดขึ้นในสังคม ได้ยืนนันถึงความคาดหวังที่คนส่วนใหญ่มอบให้กับเธอ จากการทำงานหนักเพื่อเรียกความถูกต้องให้กลับคืนสู่ส่วนรวมของชาติซึ่งปรากฏให้โลกได้ประจักษ์ไปแล้ว อาทิ ศาลตัดสินระงับขายหุ้นของการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย ( กฟผ .) ซึ่งเป็นชัยชนะเบื้องต้นก่อนที่จะมีคำพิพากษาจากศาลปกครองสูงสุดเพิกถอนพระราชกฤษฎีกาแปรรูปกฟผ . เมื่อวันที่ 23 มีนาคม ทั้งนี้รวมถึงกรณีการทุจริตยาในกระทรวงสาธารณสุข อันเป็นผลให้อดีตรัฐมนตรีเจ้ากระทรวงต้องระเห็จเข้ารับโทษทัณฑ์ในที่สุด

“ ดิฉันอยากให้คนทั่วไปมองดิฉันเป็นแรงบันดาลใจคนหนึ่ง มากกว่ามองว่าเป็นฮีโร่ที่จะฝากความคาดหวัง สังคมเราสร้างอัศวินขี่ม้าขาวมานาน ซึ่งทำให้คนส่วนใหญ่ไม่เชื่อในศักยภาพของตัวเอง และพร้อมจะมอบทุกอย่างให้เอาไปทำแทน ซึ่งดิฉันคิดว่าสังคมจะไม่พัฒนา ”

“ เราเป็นประชนชนที่มีพละกำลัง ในฐานะของพลเมืองคุณต้องตระหนักในศักยภาพของคุณว่าเป็นส่วนหนึ่งของการเข้ามาร่วมรับผิดชอบในการกำหนดสังคมให้เป็นไปในทางที่ดีขึ้นคือต้องตระหนักว่าเราทุกคนเป็นพลเมือง ไม่ใช่ฝุ่นเมือง และถ้าเราสามารถเป็นกัลยาณมิตรของกันและกันได้ ในฐานะของคนเล็กๆ สามัญชนคนหนึ่งที่ไม่ได้มีอำนาจอะไรเลย แต่เราสามารถใช้สติปัญญาของเราในการต่อสู้กับความไม่ถูกต้อง และทำให้เกิดความถูกต้องขึ้นมาในจุดใดจุดหนึ่ง ในการที่เราขับเคลื่อนเรื่องแต่ละเรื่อง เราหวังว่าสังคมจะมองเห็นและตอบสนองเรา

“ ประเด็นคัดค้านการแปรรูปรัฐวิสาหกิจ กฟผ . เป็นประจักษ์พยานว่าสังคมให้การสนับสนุน แม้ตอนแรกสังคมอาจจะเมินเฉย และไม่ได้เข้ามามีส่วนร่วม แต่เมื่อมาถึงจุดที่มีการยื่นคัดค้านต่อศาลปกครองและศาลปกครองตัดสินเบื้องต้นให้ยับยั้งชะลอการเอาหุ้นเข้าไปขายในตลาดหลักทรัพย์ มีคนโทรมาบอกว่าเมืองไทยวันนี้น่าอยู่ขึ้น

“ จากคำพิพากษาศาลปกครองสูงสุดในคดีการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทยนั้น หลายๆ คนพูดในแง่ที่ว่าพระราชกฤษฎีกาซึ่งพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงลงพระปรมาภิไธยแล้วจะถูกเพิกถอนมิได้ เป็นการหมิ่นเบื้องสูงหรือเปล่า แต่นี่อาจจะเป็นครั้งแรกในการเพิกถอนพระราชกฤษฎีกา เพราะที่ผ่านมาศาลปกครองอาจจะเพิกถอนส่วนที่เพียงเป็นมติของคณะรัฐมนตรีเท่านั้น

“ ในอดีตเราไม่มีศาลปกครอง ประชาชนจึงไม่มีสิทธิที่จะต่อสู้กับอำนาจของรัฐที่อาจจะไม่ถูกต้องชอบธรรม ออกกฎหมายโดยอาจละเมิดสิทธิของประชาชน แต่หลังจากที่เรามีรัฐธรรมนูญปี 2540 มีศาลปกครองขึ้นมา ประชาชนมีสิทธิในการต่อสู้กับการออกกฎหมายของฝ่ายบริหารได้ และกรณีของกฟผ . ที่ผ่านมาเป็นกรณีที่พิสูจน์ให้เห็นว่าเราเดินมาถูกช่องทางแล้ว และจะกลายเป็นบรรทัดฐานต่อไปในอนาคต ”

“ ถ้าหากเรามีความอดทน ไม่หมดหวัง อยู่กับรายละเอียด และเรามองเห็นว่าเส้นทางตรงนี้มันไปได้ไกลแค่ไหน มันก็สามารถจะพาเราไปตรงนั้นได้ ความสำเร็จอาจจะเป็นขั้นๆ การที่เราฟ้องร้องคดีทุจริตยาฯ ในกระทรวงสาธารณสุข หลายๆ คนบอกว่าอยู่กับเรื่องนี้นานเกินไปแล้ว น่าจะหยุดสักที แต่เมื่อมาถึงจุดที่รัฐมนตรีถูกตัดสินพิพากษาให้ได้รับโทษ หลายคนบอกว่าเป็นความสำเร็จหรือเป็นชัยชนะของประชาชนบนพื้นฐานของรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ หลายๆ เรื่องมีเส้นทางแตกต่างกัน ระยะทางของคดีทุจริตยาฯ ยาวกว่ากรณีกฟผ . มาก ใช้ระยะเวลาตั้ง 5-6 ปีถึงจะเห็นผล ซึ่งถ้าหากเราเลิกพยายามไปตั้งแต่ปีแรกๆ อาจจะไม่ได้เกิดผลเอาคนผิดมารับโทษก็เป็นได้ ”

“ ตอนที่ดิฉันทำเรื่องทุจริตยาสมัยนั้นคุณทักษิณเพิ่งเข้ามาเป็นรัฐบาลสมัยแรก ท่านก็อุตส่าห์ขอพระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์ให้ และกล่าวชมว่าเป็นคนที่ทำเรื่องทุจริตต่อสู้จนประสบความสำเร็จ ตอนที่สื่อมวลชนลงข่าวเขาจะบอกว่า … ดิฉันได้เครื่องราชฯ เหตุผลที่ว่าทำความดีโดยไม่มีหน้าที่ … หลายคนก็หัวเราะกัน กลายเป็นว่า การทำความดี หรือทำเกี่ยวกับเรื่องส่วนรวมไม่ใช่หน้าที่ของประชาชน อันนี้อาจจะเป็นทรรศนะของระบบราชการ ซึ่งมาถึงจุดนี้ก็มีความรู้สึกว่าอยากจะทำความดีอย่างมีหน้าที่เหมือนกัน การที่เข้ามาเป็นสว . เพราะว่าเราเต็มใจที่จะบอกว่าเราต้องมาทำความดีอย่างมีหน้าที่ ไม่ใช่ว่าเป็นคนที่เสมอนอก และทำความดีโดยไม่มีหน้าที่ ”

“ ถ้าเราเชื่อว่าสิ่งที่ทำมันถูกต้องเราก็จะทำ ไม่ใช่ว่าเราอยากทำสิ่งนั้นเราก็จะไม่ทำสิ่งนี้ สมมุติบอกว่าขึ้นเวทีพันธมิตรฯ แล้วทำให้คุณไม่สามารถสอบผ่านการเป็นวุฒิสมาชิกดิฉันก็ไม่สนใจ เพราะดิฉันถือว่าเป็นสิ่งที่ถูกต้อง ส่วนผลที่จะได้ออกมาอย่างไรก็เป็นอีกเรื่องหนึ่งไม่เกี่ยวกัน ”

“ ดิฉันไม่ได้ถูกโจมตีในทางสังคมมากนัก การกล่าวหาและฟ้องร้องดิฉันในคดีต่างๆ เป็นข้อพิสูจน์ว่าเราสามารถต่อสู้กับสิ่งที่เป็นความไม่ถูกต้องได้ บนกลไกของกฎหมาย ถึงแม้จะมีการโจมตีโดยทั่วไป แต่ว่าจะเจอข้อหาที่ทางภาครัฐเองที่แจ้งตั้งข้อหาให้ดิฉันเป็นกบฏในราชอาณาจักร ซึ่งกรณีเหล่านี้ก็ถือว่าเราต้องต่อสู้กันในทางความเป็นจริง และเชื่อว่าถ้ามีการต่อสู้กันในชั้นศาลก็จะเป็นข้อพิสูจน์ และดิฉันเชื่อว่าสังคมจะฟังสิ่งเหล่านี้เช่นกัน ”

“ ถ้าคุณยอมประนีประนอมกับความถูกต้องไม่ทำระดับหนึ่ง และหยุดเอาไว้ก่อนค่อยไปทำทีหลังเมื่อได้ตำแหน่ง คนส่วนใหญ่มักจะพูดอย่างนี้มาตลอดว่ารักษาเนื้อรักษาตัวไว้ก่อนเพื่อเราจะไปสู่ตำแหน่งที่หวัง เมื่อไปสู่ตำแหน่งนั้นแล้วเราก็จะทำอะไรได้มากขึ้น ดิฉันเห็นนักการเมืองทั้งหลายที่รักษาเนื้อรักษาตัวและขึ้นไปถึงจุดสูงสุด แต่พอไปถึงแล้วกลับทำอะไรไม่ได้เลย เพราะเขาก็ต้องรักษาตำแหน่งของเขาอีกเหมือนกัน

“ ฉะนั้นถ้าคุณคิดว่าสิ่งนั้นเป็นสิ่งที่ถูกต้องคุณต้องทำตอนนี้เลย ในฐานะของชาวพุทธ สิ่งที่มีความหมายที่สุดในสายตาของชาวพุทธคือปัจจุบันขณะ ถ้าคุณคิดว่าสิ่งนี้เป็นสิ่งที่ถูกต้องคุณต้องทำในปัจจุบันขณะ ไม่สามารถคาดหวังมันในอนาคตหรือในวันพรุ่งนี้ เพราะวันพรุ่งนี้อาจจะไม่มีสำหรับคุณอีกต่อไป ”

Related contents:

You may also like...