ผู้อำนวยการร้านไบรท์สไมล์กับเสน่ห์แห่งรอยยิ้ม
สังคมปัจจุบันมันวุ่นวาย คนไทยเราก็ยิ้มน้อยลง ก็อยากให้ยิ้มกันมากขึ้น เวลาเรายิ้มครั้งหนึ่ง เราก็จะได้รับยิ้มตอบกลับมามากมาย นั่นคือคุณค่าของรอยยิ้ม
ไม่ว่ายุคใดสมัยใด ความงามก็เป็นที่หมายปองของมนุษย์ทุกผู้ทุกนาม ไม่เลือกหญิงเลือกชาย ไม่จำกัดเพศและวัย อาภรณ์เลอค่าถูกสรรหามาเติมแต่ง กรรมวิธีประทินและปรับปรุงเปลี่ยนแปลงรูปโฉมถูกค้นคิดขึ้น เพื่อเสริมเสน่ห์ให้ปรากฏ แต่บางครั้งเราลืมไปว่า คนจะน่ามองมากที่สุดก็เมื่อมีใบหน้าที่แต่งแต้มด้วยรอยยิ้ม และรอยยิ้มที่ประดับอยู่บนใบหน้านั้นจะงดงามเจิดจรัสได้ ก็ต้องอาศัยฟันที่ขาวสดใสเป็นปัจจัยหลัก
“ เราไม่จำเป็นต้องเสียเงินเยอะแยะเพื่อซื้อเสื้อผ้าอะไรต่างๆ มาประดับหรอกค่ะ คุณสามารถนำเงินตรงนั้นมาลงทุนกับ Jewelry ที่ธรรมชาติสร้างมาให้เราได้ ซึ่งก็คือฟันนั่นเอง ”
ศรันยา ช่วงสุวนิช ผู้อำนวยการร้านไบรท์สไมล์ ( ประเทศไทย ) กล่าวอย่างอารมณ์ดีพร้อมเผยรอยยิ้มสว่างสดใส
“ ไบรท์สไมล์นี่ อันที่จริงเราไม่ใช่คลินิกทันตกรรมนะคะ แต่เราเรียกตัวเองว่าเป็น สถานปรนนิบัติรอยยิ้ม มากกว่า ถูกพัฒนาขึ้นโดยนักวิทยาศาสตร์และนักเคมีชาวอเมริกัน ในปี 2542 โดยจะใช้แสง Blue Light ฉายเข้าไปทำปฏิกิริยากับเจลฟอกสีฟัน ซึ่งมันเป็นระบบที่พัฒนามาให้มีความปลอดภัยสูงมาก และสามารถฟอกสีฟันได้ถึง 9 เฉดสีทางทันตกรรม ซึ่งนับว่ามากกว่าวิธีทั่วๆ ไป มีทั้งหมด 18 สาขาในอเมริกา และในประเทศไทยนี่เป็นสาขาที่ 19 แล้วก็เป็นแห่งแรกของเอเชียด้วย ”
เพราะนิสัยรักสวยรักงามมาตั้งแต่เด็ก ผนวกกับการที่คลุกคลีอยู่กับคุณแม่ซึ่งประกอบธุรกิจนำเข้าอุปกรณ์ทางทันตกรรมมานานเกือบ 30 ปี ทำให้ศรันยาซึมซับและเข้าใจความต่างและคุณประโยชน์ของผลิตภัณฑ์ไบรท์สไมล์ได้เป็นอย่างดี
“ จริงๆ แล้วตอนที่ปุ๊กเรียนจบปริญญาตรีที่เมืองไทย ปุ๊กเรียนที่คณะวารสารศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์นะคะ แล้วถึงไปต่อที่ Boston University ทางด้านการสื่อสาร กลับมาก็มาทำงานบริษัทโฆษณาอยู่เกือบปี รู้สึกว่าเป็นงานที่ชอบนะคะ แต่ก็ออกมาช่วยงานคุณแม่ซึ่งมันเกี่ยวข้องกับทันตกรรม พยายามเรียนรู้เกี่ยวกับเรื่องนี้ พอมาพบว่าที่นี่เป็นกิจการทางด้านความงาม ก็รู้สึกว่ามันเหมาะกับเราดี อยากเข้ามาทำ ทุกวันนี้ก็รู้สึกสนุกกับมัน จะมีแนวคิดใหม่ๆ เกิดขึ้นตลอด มีแรงบันดาลใจตลอดเวลา
แล้วคนไทยก็เป็นคนที่ให้ความสำคัญกับรอยยิ้มมาก รอยยิ้มของคนไทยนี่อยู่ที่ไหนก็ขายได้นะคะ ( ยิ้ม ) เป็นยิ้มแบบยิ้มสยามน่ะค่ะ ( หัวเราะ ) แต่คนก็มักจะลืมนึกถึงคุณภาพของรอยยิ้มไป ลืมว่าสิ่งที่ทำให้เราประทับใจในรอยยิ้มก็คือฟัน บางครั้งฟันเหลือง ฟันเป็นคราบ ไม่ค่อยสวย เราก็สามารถช่วยได้ ”
องค์กร ไม่ว่าเล็กหรือใหญ่ คน คือกลจักรสำคัญที่ช่วยให้งานดำเนินไปด้วยดี และในฐานะที่เป็นผู้ควบคุมฟันเฟืองเหล่านี้ ศรันยาก็ให้ความสำคัญในเรื่องของจิตใจเป็นหลัก
“ เวลาดูแลเขาก็ใช้ความเป็นกันเองค่ะ เมื่อเขาทำดีเราก็ชมเชย แต่ถ้าเขาทำในสิ่งที่ยังไม่ตรงกับมาตรฐานที่เราวางไว้เราก็ต้องตักเตือนเขา แต่จะเรียกมาเตือนนะคะ จะไม่พูดให้เขาอายต่อหน้าเพื่อนๆ คนเราอยู่ร่วมกันก็ต้องดูแล เอาใจใส่กัน ให้เขารู้สึกว่าเขามาที่นี่แล้วมีเพื่อน มีคนคอยดูแล มีปัญหาก็มาคุยกัน แล้วเวลาตักเตือนก็ต้องไม่ถือเป็นอารมณ์
ธุรกิจนี่มันเป็นธุรกิจบริการ ต้องทำด้วยใจ ความรู้ที่เราเรียนมานี่ มันเป็นแค่องค์ประกอบเท่านั้นเอง แต่หัวใจของมันคือทำให้ลูกค้าพอใจกับตัวเอง ตอนที่เห็นลูกค้ายิ้มแล้วเราก็ดีใจ ภูมิใจ ที่มีส่วนช่วยให้เขามั่นใจมากขึ้น สังคมปัจจุบันมันวุ่นวาย คนไทยเรายิ้มน้อยลง ก็อยากให้ยิ้มกันมากขึ้น เวลาเรายิ้มครั้งหนึ่ง เราก็จะได้รับยิ้มตอบกลับมามากมาย นั่นคือคุณค่าของรอยยิ้มนะคะ ”
