พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าโสมสวลี พระวรราชาทินัดดามาตุ

โสมสกาวกลางหทัยไทยทั้งมวล

นับเป็นพระกรุณาธิคุณอันหาที่สุดมิได้ ที่พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าโสมสวลี พระวรราชาทินัดดามาตุ ประทานพระวโรกาสให้กองบรรณาธิการนิตยสารไฮ-คลาสเข้าเฝ้า ณ ท้องพระโรงพระตำหนักวังสวนกุหลาบ พระราชวังดุสิต เมื่อวันจันทร์ที่ 17 ตุลาคม พ.ศ. 2548 ที่ผ่านมา เพื่อกราบทูลสัมภาษณ์ถึงพระกรณียกิจ และพระจริยวัตรอันงดงามของพระองค์

และเพื่อเป็นการเฉลิมฉลองเนื่องในวาระที่นิตยสารไฮ-คลาสก้าวเข้าสู่ปีที่ 23 ของการดำเนินงาน คณะกองบรรณาธิการและพนักงานบริษัทไฮ-คลาส แม็กกาซีน จำกัด ได้ขอประทานพระอนุญาตอัญเชิญบางช่วงบางตอนของบทประทานสัมภาษณ์อันทรงคุณค่านั้นมาเผยแพร่แก่เหล่าพสกนิกร เพื่อร่วมชื่นชมในพระบารมีและน้ำพระทัยอันบริสุทธิ์ ที่ประทานแก่ราษฎรทุกหมู่เหล่าโดยไม่ทรงเห็นแก่ความเหน็ดเหนื่อยและ พระพลานามัยของพระองค์เอง ทั้งยังทรงเป็นแบบอย่างแก่สตรีไทยในการทำงานเพื่อผู้ยากไร้ในพื้นที่ต่างๆ ทั่วประเทศ แม้มีอุปสรรคในการเดินทาง แต่ก็ทรงอุตสาหะแบ่งเบาพระราชภารกิจของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และพระบรมวงศานุวงศ์อย่างไม่ขาดตกบกพร่อง

นอกจากนี้ยังเป็นโอกาสอันดีที่จะได้รับรู้ถึงพระราชภาระในการทรงอบรมอภิบาลพระธิดาเพียงพระองค์เดียว คือ พระเจ้าหลานเธอพระองค์เจ้าพัชรกิติยาภา ซึ่งขณะนี้ประทับอยู่ในต่างประเทศ อันแสดงถึงสายใยอันลึกซึ้งระหว่าง ‘แม่’ กับ ‘ลูก’ ที่หมู่มวลพสกนิกรชาวไทยรัก เทิดทูน และชื่นชมเสมอมา

ขอประทานพระอนุญาตฝ่าพระบาททรงเล่าถึงพระกรณียกิจที่ทรงปฏิบัติอยู่ในปัจจุบันกระหม่อม

ตอนนี้ก็ทำในหลายๆ ด้าน ที่จะทำประจำเลยก็จะมีของมูลนิธิเพื่อนพึ่ง(ภาฯ) ยามยากของสภากาชาดไทย มีเอดส์จากแม่สู่ลูก และก็โครงการเอดส์ด้วย แล้วก็มีเอคิพาน่า มีโครงการของโฮมแคร์ของสภากาชาดเหมือนกัน ดูแลผู้ป่วยตามบ้าน และก็จะมีของมูลนิธิกัลยาณกิติ์ ของคุณลุง ทางด้านหัวใจและทรวงอก ปอด และก็มีที่เป็นทำช่วยเหลือเป็นบางครั้งของบ้านพักฉุกเฉิน ที่ทำอยู่เกี่ยวกับเด็กเกี่ยวกับสตรี

ขอประทานพระอนุญาตทรงเล่าถึงกิจการของแต่ละโครงการกระหม่อม

โห…มันยาว(สรวล) อย่างของมูลนิธิเพื่อนพึ่ง(ภาฯ) นี่ตอนนี้ทำอย่างเต็มตัวร่วมกับพระองค์ภาฯ ซึ่งตอนนี้พระองค์ภาฯ ไม่ได้ประทับอยู่ก็จะทำแทนลูกทุกอย่าง เรื่องของการทำงานดำเนินงาน คุมงานทั้งหมด ในเรื่องของการช่วยเหลือผู้ประสบภัยต่างๆ ในเรื่องของวาตภัย และก็ในเรื่องที่ครั้งสุดท้ายที่ทำก็เรื่องสึนามิ ซึ่งก็ยังไม่แล้วเสร็จนะ เพราะว่ายังต้อง follow up คือติดตามผลงานของประชาชน และก็ในเรื่องของไปตั้งหอเรียกว่า “เตือนภัย” เป็นต้นแบบให้หมู่บ้านที่พังงา เพื่อจะได้ประสานกับรัฐบาลอีกครั้งหนึ่ง ในเรื่องของว่ารัฐบาลจะทำหอเตือนภัยให้ประชาชนทางใต้ที่ประสบภัยในจุดที่ล่อแหลม

ตอนแรกเป็นโครงการ ไม่ได้เป็นมูลนิธิเต็มรูปแบบ เพราะว่าพระองค์หญิงกับลูกตั้งใจว่าจะทำในช่วงสั้นๆ คือไม่ได้ยืดยาวขนาดนี้ เพราะไม่ได้คิดว่าการที่น้ำท่วมจะเกิดทุกปี และก็ตอนนี้มันเกิดเป็นบริเวณกว้างขึ้นเรื่อยๆ ก็เลยกะว่าเราจะทำสั้นๆ ซึ่งเผอิญอันนี้มันมีเหตุเกิดที่จังหวัดนนทบุรี จรัลสนิทวงศ์ ที่มีประชาชนออกมาจะทำลายที่กั้นกระสอบทราย ที่กั้นน้ำเพราะว่าเค้าเกิดความเครียดเนื่องจากน้ำท่วมหนักมาก และก็สวนพัง ทีนี้ทางกทม. ก็กั้นน้ำ กระสอบทรายเพื่อไม่ให้เข้ากรุงเทพฯ เพราะน้ำบริเวณรอบนอกมันท่วมหมดแล้ว

เค้าก็เดือดร้อนกันมา 2 เดือน ก็เกิดภาวะเครียด ก็เลยทะเลาะกัน ถึงขั้นจะทำร้ายร่างกายเจ้าหน้าที่ เลยทราบกัน ก็ได้ไปเฝ้าฯ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ท่านก็ทรงรับสั่งพระองค์หญิงกับพระองค์ภาฯ อยากให้ออกไปช่วยในจุดนี้ และก็อยากให้ออกไปช่วยในจุดนี้ และก็อยากให้ไปทำความเข้าใจกับราษฎรว่า ถ้าหากคุณทำลายผังกระสอบทรายที่กั้น มันไม่ได้เกิดความเดือนร้อนเฉพาะคุณ มันจะเกิดความเดือนร้อนทั้งหมด แล้วใครจะช่วยคุณได้ ถ้าหากว่าในตัวเมืองหลวงเอง ในจุดใหญ่ที่เค้าจะเอาเครื่องมือเครื่องไม้หรือว่าสิ่งของต่างๆ ไปช่วยนี่ จะออกไปยังไง ถ้าหากท่วมหมด เค้าก็ต้องช่วยเหลือตัวของเค้าก่อน

ก็เลยไปคุยกับชาวบ้าน ปรากฏว่าชาวบ้านก็ดีใจที่เราไปดูเค้าจริงๆ วันนั้นเป็นวันที่ประทับใจ ที่ว่าเค้าดีใจ เค้าลืมความเครียดทุกอย่าง แม้กระทั่งชี้จุดให้ว่า บ้านนู้นนะน้ำลึก 6 เมตร ขอให้ท่านเข้าไปช่วย นี่ไม่มีอาหาร ไม่มีน้ำไปไม่ถึง ก็ต้องเข้าไปกัน ใช้เรือเล็กๆ ตอนแรกนั่งเรือหางยาวไป ปรากฏเข้าไม่ได้ เพราะว่ามันเป็นซอยเล็กๆ บ้านใกล้ๆ กัน พระองค์หญิงก็กระโดดเรือของทหารเรือไป และก็พระองค์ภาฯ ท่านก็มีเรือพายบ้างอะไรบ้าง ก็คือแยกกันไปในจุดต่างๆ และก็จะมีแพทย์ดูแลคนไข้ ทางสภาพจิตด้วย ทางแผลเท้าเปื่อยเน่าบ้าง หรือว่าเป็นไข้ และก็มีพวกที่เป็นโรคเรื้อรังไปหาแพทย์ไม่ได้ เพราะว่าติดน้ำออกไปไม่ได้ ก็พาออกมา พาไปโรงพยาบาล พาไปรักษา และก็ที่ประทับใจเพราะว่ามีชาวบ้านให้เงินมา กับพระองค์หญิงกับพระองค์ภาฯ บอกว่าขอถวายเงินท่าน อันนี้คือจุดเริ่มแรกของโครงการมูลนิธิเพื่อนพึ่ง(ภาฯ) ก็ประทับใจที่ว่าเค้าเดือนร้อนแต่ว่าเค้ายังให้เงิน ก็ยังบอกเค้าว่าเก็บเงินไว้เถอะ ไว้ซื้อข้าวซื้อของที่จำเป็นช่วงที่เค้าเดือดร้อนเค้าก็บอกว่าอยากถวายท่าน ให้ท่านไปช่วยคนอื่นต่อ อันนี้เป็นจุดเริ่มเลย ของมูลนิธิเพื่อนพึ่ง(ภาฯ)

ส่วนในกรณีของมูลนิธิกัลยาณกิติ์ ศาสตราจารย์ หม่อมราชวงศ์ นายแพทย์กัลยาณกิติ์ กิติยากร ก็เป็น คุณลุง อันนี้จะทำในเรื่องของหัวใจ และก็ปอด เพราะว่าคุณลุงเป็นแพทย์ทางศัลยกรรมหัวใจของโรงพยาบาลรามาธิบดี และเป็นผู้ที่บุกเบิกในการผ่าตัดเปลี่ยนวาล์ว(ลิ้นหัวใจ)…อวัยวะของหัวใจ ท่านก็จะทำในอาชีพนี้มานานเป็นผู้บุกเบิกในการนำหมอ ทีมแพทย์ เคลื่อนที่ไปผ่าตัดให้ชาวบ้านตามต่างจังหวัดไกลๆ โดยจะประสานกับโรงพยาบาลในพื้นที่นั้นๆ ท่านก็จะช่วยเหลือชาวบ้านที่ยากจน เพราะว่าการผ่าตัดหัวใจแต่ละครั้งจะใช้เงินเป็นจำนวนมาก เป็นแสนขึ้นไป หลายแสน ต้องใช้คำอย่างนี้ ท่านก็จะช่วย

แล้วท่านก็จะช่วยเหลือนักศึกษาแพทย์ พยาบาลด้วย ที่มีรายได้น้อยไม่มีเงินทุนในการศึกษาต่อ ในสมัยที่ท่านยังมีชีวิตอยู่ท่านก็จะไปทำ research งานค้นคว้าในเรื่องเกี่ยวกับหัวใจต่างๆ อยู่ตลอดเวลาจนเป็นที่รู้จักของบรรดาแพทย์ต่างประเทศ ที่อังกฤษก็ดี ที่อเมริกา แม้กระทั่งญี่ปุ่นก็รู้จักท่าน ก็เลยเป็นที่มาของมูลนิธินี้ เมื่อท่านเสียด้วยโรคมะเร็ง พระองค์หญิงก็เลยสานต่อในจุดนี้เพื่อช่วยเหลือประชาชน ชาวบ้าน

สำหรับแต่ละโครงการฝ่าพระบาททรงคาดหวังผลไว้ในระดับใดกระหม่อม

ก็สำหรับHIV นี่ก็อยากให้มันหมดไปด้วยซ้ำไป ซึ่งมีอยู่ช่วงหนึ่งก็จะลดลงเป็นที่น่าพอใจ ในระดับต่างประเทศก็ทราบว่าเมืองไทยสามารถลดการติดเชื้อ HIV ลง แต่มาช่วงหลังนี้ คนไทยลืมง่าย โดยเฉพาะท่านสุภาพบุรุษชอบรักสนุกก็จะขาดความระมัดระวังก็จะไปแพร่เชื้อให้ท่านสุภาพสตรี รวมทั้งแม่บ้าน มากๆ เลยตอนนี้ ก็ติดเชื้อมาอีก แล้วก็ปัญหาของวัยรุ่นด้วยที่ไม่ได้รับการเอาใจใส่จากครอบครัวเท่าที่ควรก็เลยรู้เท่าไม่ถึงการณ์ก็พลาด ก็มีส่วนในเรื่องนี้ เรื่องยาเสพติดด้วย ของวัยรุ่นซึ่งมันก็เลยกลับขึ้นมาอีก ตอนนี้ก็พยายามอยู่ตลอดเวลา(สรวล)

จากการที่ฝ่าพระบาททรงงานหนักเพียงนี้มีผลต่อพระพลานามัยหรือไม่กระหม่อม

ถ้าพูดถึงร่างกายก็อยู่ในมาตรฐานที่เรียกว่า แข็งแรง ไม่ค่อยเจ็บบ่อย แต่ถ้าเจ็บทีก็หนัก เข้าโรงพยาบาลอะไรอย่างนี้ นานๆ ทีไม่บ่อย ประมาณช่วงหลังนี้มันจะมีปัญหาในเรื่องของเบาหวาน ลำไส้ โรคลำไส้เป็นหลุมแล้วก็ลำไส้แปรปรวน ก็เลยทำให้มีอาการปวดท้องในลักษณะเหมือนไส้ติ่งคือปวดมากกว่าไส้ติ่ง มันเป็นที่ลำไส้ใหญ่ มันจะปวดท้องมากยารับประทานเอาไม่อยู่ ต้องไปนอนโรงพยาบาลฉีดยาแก้ปวด เลยก็ไปป่วยมา เพิ่งออกมาจากโรงพยาบาล

ซึ่งตอนนี้มันก็เหมือนกับมันมาๆ หายๆ เพราะว่าถ้ามันปวดขึ้นมามันก็ไม่สบายก็ต้องนั่น… ตอนนี้ก็ยังต้องทานยา ดูแลตลอด แล้วก็ที่เป็นมาคือหอบหืด เป็นระบบทางเดินหายใจ ภูมิแพ้ แพ้อากาศ แพ้ฝุ่น เกสรดอกไม้ อย่างดอกลิลลี่นี่แพ้มาก จะหายใจไม่ออกเลย ควันบุหรี่ ควันธูป แต่ควันบุหรี่ตอนนี้เริ่มทนได้บ้างแล้ว คือคล้ายๆ ร่างกายเราเริ่มปรับได้ แต่ควันธูปมากๆ นี่ยัง หมอก็บอกว่าไม่ให้เสด็จไปเจอ ซึ่งมันเป็นไปไม่ได้ เพราะว่าเราต้องไปงานวัดหรืองานพิธีหลวงเจอสิ่งพวกนี้ก็ต้องพยายามให้ร่างกายแข็งแรงก็ออกกำลังบ้าง

อาหาร… ไม่ได้แพ้อาหาร คือไม่ได้แพ้อาหารแบบอย่างที่เรียกว่าคนที่ทานแล้วขึ้นผื่นขึ้นอะไรนี่ไม่เป็น เพียงแต่ว่าช่วงหลังนี่ที่มีลำไส้นี่อาหารประเภทอาหารทะเลมากๆนี่ก็ไม่ค่อยดี ท้องจะเสีย มันจะเป็นครั้งหนึ่งปวด บางที บางอย่างจากที่เคยทานได้มันก็เริ่มไม่ได้เราก็จะเลี่ยงๆ

ฝ่าพระบาททรงงานหนักเช่นนี้ ทรงมีวันหยุดบ้างไหมกระหม่อม

ไม่มี

หมายถึงใน 7 วันไม่ทรงมีวันหยุดเหมือนคนธรรมดาเลยหรือกระหม่อม

ไม่มี อย่างสมมุติว่าคุณเห็นพระองค์หญิงไม่ได้ออกทางทีวี แต่ก็อาจจะมีแขกเฝ้า แบบที่ไม่ได้ออกทีวีก็มี หรือว่า มีแต่งงาน อะไรอย่างนี้ก็จะมี หรือว่าถ้าหากนั่นก็จะมีงานส่วนตัวที่จะต้องทำ แต่ส่วนมากจะมีงานทุกวัน แทบทุกวัน จะไม่มีว่าวันไหนหยุดเสาร์ อาทิตย์ ยิ่งนักขัตฤกษ์ที่พวกคุณหยุดพักกัน ไม่เคยได้หยุดหรอกค่ะ เพราะว่าก็จะมีงานพระราชพิธีหลวงที่จะต้องไป

ฝ่าพระบาทมีผู้ดูแลช่วยในการตัดสินพระทัยในการเลือกเสด็จไปในงานต่างๆ หรือไม่กระหม่อม

อ๋อ (สรวล) ถ้ารับงานแล้วต้องไป นอกจากว่าเกิดป่วยกะทันหัน มีอยู่ครั้งหนึ่งตกบันไดลงมาแล้วขา…กระดูกร้าว เอ็นฉีก แล้วกระดูกร้าวไปงานไม่ได้ วันนั้นรู้สึกจะ…(ทรงหยุดคิด) ถ้าจำไม่ผิดจะเป็นงานอะไรซักงานเดี๋ยว…ต้องให้ท่านมุ้ยไปแทน โทรทูลท่านเลยบอกว่า ขอท่านน้าทรงเสด็จแทนหน่อยเถอะเพราะว่าตกบันไดไปไม่ได้ ก็เข้าโรงพยาบาล ปวดข้อเท้ามาก แบบเพิ่งกลิ้งลงมาเมื่อกี้นี้เอง บอกไปไม่ได้แล้วต้องไปเข้าเฝือก ก็เคยในลักษณะนี้

ส่วนใหญ่แล้วก็จะไป เคยไปแทนพระองค์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เป็นไข้ ปรอท 104 แต่คือไม่มีใครแทน ก็ไปให้เขา ตอนนั้นไปดูคอนเสิร์ต 3–4 ชั่วโมง ดูพอ 2 ชั่วโมงไปแล้วนี่เริ่มไม่ไหว ทานยาไข้ก็แล้ว ฉีดยากันตรงนั้นเลย พอตอนหลังต้องบอกเจ้าของงานบอกขอนะไม่ไหวแล้ว ไข้มันขึ้น ไข้ไม่ลงเลย อันนั้นคือก็ไป ไปทั้งป่วย

ที่ประชาชนเห็นอยู่ในทีวี ฝ่าพระบาทประทับอยู่ตามงานต่างๆ เช่นบางครั้งก็เป็นคอนเสิร์ต ละคร ไม่ทราบว่าทรงสนุกหรือต้องทนทอดพระเนตรบ้างไหมกระหม่อม

คือเราก็…..คือพระองค์หญิงจะมีความสนุกใน….จะพูดอย่างไร…คือเรา……ถ้าพูดถึงคำว่า ทนดู ไม่ใช่อย่างนั้น คือถ้าเราไปงานไหนเราก็ต้องสนุกในงานนั้นๆ เราต้องปรับใจให้สนุกในงานนั้นแล้ว ถ้าพูดถึงการทนก็ไม่ทนแบบในลักษณะนั้น คือ ถ้าเรารับงานนี้แล้วเราไป เราต้อง enjoy ในจุดนั้นแล้ว enjoy ในที่นี้หมายความว่าเราไปทำอะไรให้เป็นประโยชน์กับประชาชน เพราะส่วนใหญ่ที่เขาเชิญมาบางที่ช่วยเหลือเด็กบ้าง ข้าราชการบ้าง หรือว่าในหน่วยงานต่างๆที่เขาต้องการเงินมา support คืออันนี้เป็นสิ่งที่รับ คือเต็มใจที่จะไป

ไม่ควรจะกราบทูล แต่ถามแทนใจประชาชนกระหม่อม (หัวเราะ)

(สรวล)

อาการประชวรที่ข้อพระบาทหายสมบูรณ์ 100% แล้วใช่ไหมกระหม่อม

ถ้าถามว่า 100% ไหม ไม่ 100% เพราะว่าก็เป็นจุดอ่อนของข้อเท้าแล้ว ที่จริงเป็นทั้งสองข้าง มันสลับกันไปมาอยู่ตลอดเวลา ต้องระวัง หมอก็พูดอยู่บ่อยๆ ว่า ต้องให้ระวังถ้าหากล้มอีกแรงๆ อาจจะผ่าตัดข้อเท้า

ฝ่าพระบาทโปรดลีลาศมิใช่หรือกระหม่อม

ก็ชอบค่ะ ก็ถึงได้พยายามให้ข้อเท้ามันแข็งแรง

โปรดจังหวะใดเป็นพิเศษกระหม่อม

ก็ชอบทั้งหมด ที่จริงถ้าพูดถึงศิลปะ ในเรื่องนี้เนี่ยชอบมาตั้งแต่เด็ก เพราะว่าตั่งแต่อนุบาล ประถมเนี่ยเคยเรียนบัลเลต์ แล้วก็เรียนนาฏศิลป์ไทย เรียนเปียโน กีตาร์นี่เล่นเอง ชอบ แล้วก็เรียนระนาดเอก ฆ้องวง วงเล็กวงใหญ่ นี่เล่นทั้งสองอย่าง เพราะว่าสมัยอยู่โรงเรียนราชินีนี่ก็จะมีสอนในเรื่องของศิลปะการแสดงละคร

เมื่อสมัยเด็กก็หัดเรียนแจ๊สด้วย แท็ปก็เคยเต้นได้นิดหน่อย คือใจชอบ แล้วก็เคยเล่นละครทีวีมาตั้งแต่สมัยเด็ก ตอนสมัยช่อง 4 บางขุนพรหม เล่นเรื่องขุนช้าง–ขุนแผนก็เป็นนางพิม ตอนเด็กๆ แล้วมีเล่นภาพยนตร์ก็ของพระองค์ภาณุฯ เสด็จตา(พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าภาณุพันธ์ยุคล) น้ำผึ้งขม ตอนนั้นมีคุณภัทราวดี มีคุณสะอาด เปี่ยมพงศ์ศานต์ เหมือนตัวประกอบเล็กๆ แล้วก็มีเล่นละครทีวีเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระนางเจ้าฯ จะมาเรื่อยๆ

ส่วนลีลาศนี่มาในช่วงที่โตๆ แล้ว เป็นผู้ใหญ่แล้ว ก็มาดูว่า เอ๊ะ!…ทำไมคนไทยเต้นอย่างนี้ แต่เมืองนอกเขาเต้นอีกอย่างหนึ่ง ก็เลยอยากจะรู้ว่าอันไหนมันถูก อันไหนมันผิด คือคนไทยชอบไปแผลงจนกระทั่งมันเพี้ยน พระองค์หญิงก็เลยไปเรียน เพื่อเรียนรู้ของสากล อย่างที่เรียกว่าถูกต้องแล้วก็ไปสอบที่ต่างประเทศตอนนี้ก็ได้ silver ก็กำลังจะหาเวลาซ้อมหนักอีกครั้งหนึ่ง เพื่อไปสอบ gold

ถ้าฝ่าพระบาททรงได้ silver นี่หมายถึงทรงเป็นอาจารย์ได้แล้วมิใช่หรือกระหม่อม

อืม….ยังหรอกค่ะ silver นี่มันเป็น..ยังไม่ถึง ถ้า gold นี่คือสามารถลงแข่งได้ แต่ของคนไทยนี่ ไม่มีสอบเลย ลงไปเล่นแข่งกันเฉยเลย(สรวล) ซึ่งอันนี้ที่จริงไม่ถูกระเบียบนะคะ เรียนตรงๆ ไม่ถูกระเบียบของสากลเขา สากลนี่จะต้องสอบ gold ให้ได้ก่อนถึงจะแข่งขันได้ในนานาชาติ ถ้าหากจะสอนคนได้จริงๆนี้จะต้อง gold star ไปแล้ว แล้วยังต้องแยกออกไปเรียนในระดับของครู มันก็จะมีแยกออกไปในระดับต่างๆ ออกไปอีก คือ ไม่ใช่ว่า silver ไม่ใช่ มันเป็นพื้นฐาน พื้นฐานที่สูงขึ้นมาจาก bronze หน่อย แต่ว่าสูงนี่ต้อง gold…. gold star พอ gold star นี่ก็หมายถึง professional

ฝ่าพระบาทได้ตรากตรำพระวรกายปฎิบัติพระกรณียกิจหลายประการเช่นนี้ทรงมีวิธีดูแล พระพลานามัยอย่างไรกระหม่อม

ก็นี่ไง…ลีลาศ..ตอนนี่เนี่ยนะคะ ก็ลีลาศไปก่อนแล้วก็ว่ายน้ำ ช่วงนี้ว่ายน้ำไม่ได้ว่ายเพราะว่าสระว่ายน้ำไม่มี ก็สมัยก่อนจะว่ายน้ำเป็นหลัก แต่วิ่งนี่ไม่ได้วิ่งแล้ว คุณหมอบอกว่าอย่าวิ่ง เพราะข้อเท้าไม่แข็งแรง มีสิทธิ์ที่จะพลิกแรงๆ ได้เลยเขาก็บอก ไม่ให้วิ่ง

รวมถึงพระกระยาหารที่จะต้องทรงควบคุมเป็นพิเศษในเรื่องของแคลเซียมด้วยหรือเปล่ากระหม่อม
อ๋อ…เรื่องกระดูกพระองค์หญิงไม่มีปัญหา กระดูกนี่แข็งแรง เพราะว่าไปวัดความหนาแน่นกระดูกนี่ กระดูกหนากว่าคนอายุ 40 กว่า นี่ไปวัดมา เพราะว่าตอนนี่ก็เริ่มเข้า….แหมไม่น่าพูด…วัยทอง(สรวล) ก็ไปตรวจ ไปตรวจสุขภาพ บอกว่ากระดูกหนามาก แข็งแรงกระดูกไม่มีปัญหา

เป็นเพราะฝ่าพระบาททรงงานหนักแต่ทรงกีฬาต่างๆ ที่ฝ่าพระบาทโปรดมาตั้งแต่วัยเยาว์ด้วยหรือเปล่ากระหม่อม

สมัยก่อนนี้ จะเล่นกีฬาเยอะเล่นแบตมินตัน ว่ายน้ำ แล้วก็มีโยคะ มีพวกแอโรบิค พวกอะไรพวกนี้

จากการทรงงานที่ผ่านมาฝ่าพระบาทได้พบกับผู้คนมากมาย หลากหลาย บางคนก็ร่ำรวย บางคน ก็ยากจน การที่ทอดพระเนตรคนเจ็บป่วยอยู่ในสังคมเดียวกับคนร่ำรวย ทรงพบสาระของชีวิต..จากคนพวกนี้ บ้างหรือไม่ ทรงได้ข้อคิดอะไรบ้างกระหม่อม

คนเจ็บป่วยกับคนร่ำรวย…ที่จริงคนที่มีฐานะที่มีเมตตาก็เยอะนะคะ เพราะที่พระองค์หญิงได้รับเงินช่วยเหลือก็จากผู้มีฐานะมาช่วยคนป่วย ทั้ง HIV หรืออะไรต่างๆ ก็มีบริจาคกันมาเรื่อย หรือว่าโครงการมูลนิธิเพื่อนพึ่ง(ภาฯ ) หรืออะไรก็มาบริจาค อย่างวันนี้เมื่อกี้ก็ไป ..งานของ…ที่เดอะมอลล์งามวงศ์วานเกี่ยวกับเรื่องปลา วันอะไรนะ ฟ้าสวย…อะไรนะที่เราไปเมื่อกี๊เนี้ย(ทรงหันไปถามผู้ตามเสด็จ ) เออ ..ปลาสวยงาม ประกวดปลาสวยงาม เขาก็บริจาคเงินเข้ามูลนิธิ เพื่อนพึ่ง(ภาฯ) ยามยาก ก็จะเอา นำเงินมาช่วยผู้เดือดร้อนต่างๆ คือจะไปบอกว่าผู้มีอันจะกินไม่ช่วยเหลือ ไม่ใช่ เขาช่วยเหลือ เพียงว่าเขาช่วยเหลือในลักษณะไหนเท่านั้นเอง

จากการที่ฝ่าพระบาทได้ทรงปฏิบัติพระกรณียกิจต่างๆ ได้ทรงนำมาสอนพระเจ้าหลานเธอ พระองค์เจ้าพัชรกิติยาภา อย่างไรบ้างกระหม่อม

ลูกนี่ เออ…จะเห็นพ่อแม่ทำงานมาตั้งแต่เล็กๆ แล้ว พระองค์หญิงกับสมเด็จพระบรมฯ (สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร) นี่จะนำลูกออกมาพบกับประชาชนตั้งแต่อายุขวบหนึ่ง ออกงานเริ่มแรกนี่เป็นงานพระราชพิธีหลวงในวังหลวง ก็จะเริ่มแรกให้เห็นในเรื่องของพิธีต่างๆ ของในงานหลวง แล้วก็ค่อยๆ นำออกมาพบประชาชนเรื่อยๆ ก็ให้ได้รู้จักว่า พ่อแม่ทำงานอย่างไร ทูลกระหม่อมปู่ สมเด็จย่า ทรงทำงานเพื่อประชาชนอย่างไรบ้าง คือมันจะค่อยๆซึมซับเองตั้งแต่เด็ก เรียนรู้ในเรื่องของงาน เวลาไปเยี่ยมราษฎร ไปเจอผู้ป่วย แล้วก็ไปเจออะไร พระองค์ภาท่านก็ทรงเห็นตั้งแต่เด็ก มันก็เลย absorb

ฝ่าพระบาททรงงานหนักเช่นนี้ ทรงเครียดเองบ้างไหมกระหม่อม

ก็..ส่วนมากจะมีการ Relax บ้าง ก็แล้วแต่ว่า..อาจจะ ถ้าเหนื่อย เหนื่อยมาอาจจะไปซ้อมลีลาศอะไรอย่างนี้ หรือว่าไปทำบุญ ไปอ่านหนังสือ หรือว่าทำกับข้าว

ฝ่าพระบาทโปรดทำกับข้าวเมนูใดเป็นพิเศษกระหม่อม

ทำทุกอย่าง แล้วแต่อารมณ์ว่าอยากทำอะไรทาน บางทีก็ทำเลี้ยงเพื่อน เลี้ยงแขก เลี้ยงอะไร

ทรง Shopping ด้วยพระองค์เองหรือไม่กระหม่อม

ก็ไปบ้าง แต่ Shopping นี่จะไม่บ่อย จะไปเวลาที่ต้องการอะไรมากกว่า ที่จะไปเดินเพื่อไปเลือกซื้อนี่..ไม่ค่อย นอกจากว่าต้องการไปดูของจริงๆอะไรอย่างนี้ ก็จะไป

โปรดทรงประกอบอาหารชนิดใดบ้างกระหม่อม ไทย จีน หรือฝรั่ง

Enjoy ทุกอย่าง เพราะว่าก็ชอบทำ

เมนูที่ทรงทำด้วยพระองค์เองและพระเจ้าหลานเธอ พระองค์เจ้าพัชรกิติยาภา โปรดเป็นพิเศษกระหม่อม

ลูกก็..ชอบหลายอย่าง ชอบหอยทอดแม่ทำ ชอบปลาหมึกวงทอด ท่านชอบหลายอย่าง มีส้มตำ มี.. ท่านโปรดหลายอย่าง ส่วนใหญ่แล้วจะเป็นรสจัดๆ

รวมถึงคราวพระธิดาเสด็จไปทรงศึกษาต่อต่างประเทศแล้วฝ่าพระบาทได้เสด็จเยี่ยม ทรงปรุงอาหารประทานบ้างไหมกระหม่อม

อ๋อ…อยู่ที่เมืองนอกไม่ได้ปรุง อย่างที่พระองค์ภาฯ อยู่นี่ อยู่อพาร์ทเมนต์ก็ไม่ได้ปรุงอะไรส่วนมากจะไปทานกันที่ร้านอาหารมากกว่า แต่ตอนสมัยอยู่อังกฤษตอนทรงเรียนก็มี เขาเรียก exit act คือช่วงสุดสัปดาห์เขาจะให้ผู้ปกครองออกมา เขาจะมาอยู่ที่บ้าน พระองค์หญิงก็จะไปพักอยู่กับฝรั่ง ซึ่งเป็นเพื่อนกับท่านแม่ เป็นเพื่อนรักกันนานมากแล้ว 40 กว่าปี เป็นชาวอังกฤษ ก็เป็นครอบครัว ตัวเพื่อนท่านแม่เป็นคนอังกฤษ แต่สามีเป็นยูโกสลาเวีย แล้วก็…ก็ไปอยู่กับเขา เขาเป็นผู้ดูแลพระองค์ภาฯ ระหว่างที่ประทับที่ฮีธฟิลด์ ก็ตอนนั้นนั่นล่ะคะ จะทำอาหารก็ทำเลี้ยงทั้งบ้าน ทั้งฝรั่ง ทั้งคนไทย..หลายชีวิต ก็จะทำ

แนวทางที่ฝ่าพระบาททรงสอนพระองค์ภาฯ มีหลักสำคัญอย่างไรบ้างกระหม่อม

ที่สอนลูกก็ให้รู้จักช่วยเหลือผู้อื่น นอกจากช่วยเหลือตัวเองแล้ว ก็ต้องช่วยเหลือผู้อื่นด้วย มีเมตตา แล้วก็ต้องเรียกว่ารู้หน้าที่ในการทำงาน รู้จุดประสงค์ว่าเราจะทำงานอะไร เพื่ออะไร แล้วก็ทำให้เป็นประโยชน์กับประชาชนมากที่สุด นั้นเคยสอนไว้ตลอด

ช่วงที่พระองค์ภาฯเสด็จไปใหม่ๆ นี่ทรงคิดถึงมากเพียงใด และติดต่อกันบ่อยเพียงใดกระหม่อม

โทรศัพท์คุยกัน(สรวล) ก็บ่อย ช่วงแรกๆ แต่ตอนหลังก็เริ่มชินกัน บางทีก็บินไปหา

ทรงส่งอีเมล์ บ้างไหมกระหม่อม

ตอนนั้นอีเมล์ไม่เป็น เราเองยังไม่เป็น แต่ตอนนี้ก็มีบ้าง ตอนนั้นยังไม่มีคอมพิวเตอร์ ตอนนี้ก็มีเขียนไปถึงลูกบ้าง

แสดงว่าฝ่าพระบาททรงเป็นนักท่องอินเตอร์เน็ตกระหม่อม

พอได้บ้าง ก็ก๊อกๆ แก๊กๆ นะ

ทรงมีคอมพิวเตอร์ส่วนพระองค์ใช่ไหมกระหม่อม

อ๋อ มี

ทรงออนไลน์บ้างไหมกระหม่อม

ก็ออนไลน์ วันก่อนนี้ก็เล่นเป็นวัยรุ่นหน่อย แชตกับเด็ก เด็กเพื่อนของใบพลู (คุณสิริพัชรา โสพัชรมณี) พระองค์หญิงเลี้ยงเป็นลูกอีกคน ก็แชตกับเพื่อนเขา ก็สนุกดี เล่นกับเด็ก(สรวล) เด็กก็งง ก็บอกว่าแม่ของใบพลู เขาก็ไม่เชื่อ เขาหาว่าอำ ก็ใช้ศัพท์วัยรุ่นกับเขา เขาวัยรุ่นมาเราก็วัยรุ่นกลับ เขาก็งง เขาก็ถามบอกว่า เป็นได้เหรอ ทำไมถึงพูดวัยรุ่นได้ ก็เลยบอกว่า อ้าวก็คบวัยรุ่นก็เลยต้องพูดวัยรุ่นได้

ในด้านที่ทรงอบรมคุณใบพลู ฝ่าพระบาททรงดูแลอบรมด้านใดบ้างกระหม่อม

ก็ให้เขาเป็นเด็กดีในสังคม ตอนนี้ก็ยังอยู่ในวัยศึกษาก็ให้ตั้งใจเรียนหนังสือ

ทรงเป็นแม่ที่ดุไหมกระหม่อม

ถ้าจะว่าดุ..ก็คงดุเหมือนกันถ้าหากเขาทำผิด คือดุ ดุเพื่อให้เขาทำตัวดีๆ ถ้าใจดี ก็ใจดี ใจดีใน..คือจะบอกว่าเราดุตลอดก็คงไม่ใช่ คือต้องมีเหตุมีผลในการดูแลเด็กว่าอะไรที่เราควรให้เขาได้ อะไรไม่ควรทำ ต้องให้เขารู้ รู้สิ่งดีและสิ่งไม่ดี

ความภาคภูมิใจในพระธิดา อันดับหนึ่งเลยคืออะไรกระหม่อม

ตอนนี้ภูมิใจลูกในเรื่องการศึกษา ที่เรียนสำเร็จแล้ว แล้วก็ตอนนี้ก็ได้ทำงานที่ UN ของอเมริกา ตอนนี้ ก็ได้ฝึกงานหลายที่ ฝึกงาน เบเคอร์แอนด์แมกแคนซี่ (Baker & Mckenzie บริษัทกฎหมายที่มีชื่อเสียงมากที่สุดแห่งหนึ่งของโลก) ระหว่างที่ทรงเรียนปริญญาตรี ปริญญาโทก็ฝีกงานที่กรมอัยการสูงสุดของสหรัฐฯ ตอนนี้มาทำงานใน UN ของกระทรวงการต่างประเทศ ก็ยังไม่ทราบว่ายังไง ว่าพระองค์ภาฯ จะตัดสินใจอย่างไรต่อเพราะว่า กลับมาคราวนี้ก็ทรงรับสั่งว่า ยังไม่แน่ใจว่าจะทำในเรื่องของศาลหรืออะไร ก็ยังไม่ตัดสินใจแน่นอน

ทรงเป็นแม่ที่หวงลูกสาวไหมกระหม่อม

ก็เป็นเหมือนแม่ทุกคน แม่ทุกคนก็ห่วง เพราะว่าห่วงลูกทั้งชายทั้งหญิง เผอิญมีลูกสาวก็จะห่วงลูกสาวมาก

ในฐานะที่ทรงเป็นเช่นเดียวกับแม่ทั่วไป ทรงคาดหวังกับชีวิตคู่ครองของพระธิดาอย่างไรหรือเปล่ากระหม่อม ต้องอย่างนั้นต้องอย่างนี้หรือเปล่ากระหม่อม

อืม…อันนี้เรา…พระองค์หญิงคิดว่า การ ..เรื่องคู่ครองของลูกนี่ มันต้องขึ้นอยู่กับตัวลูกมากกว่าตัวเรา เพราะว่าให้เขา ต้องใช้ศัพท์ของโบราณที่ว่า ปลูกเรือนตามใจผู้อยู่ ก็ต้องตามใจเขา แต่ขอให้เขาเลือกคนที่เป็นคนดีก็แล้วกัน รักเขาจริง

สำหรับข้าราชการและประชาชนในภาคใต้ของเรานี้ ฝ่าพระบาททรงห่วงใยด้านใดบ้างกระหม่อม

ตอนนี้ก็ห่วงใยในเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นตอนนี้ ไม่อยากให้เป็นอย่างนี้ อันนี้พูดด้วยความจริงใจว่าอยากให้เขารักกัน เพราะว่า ที่จริงแล้วศาสนาพุทธก็ดี อิสลามก็ดี คริสต์ก็ดี หรือจะเป็นศาสนาใดที่อยู่ในเมืองไทยนี้สอนให้เราเป็นคนดี สอนให้เรามีคุณธรรม แล้วสอนให้เรามีความเมตตากัน แต่ตอนนี้ปัญหานี่มันเป็นปัญหาที่สะสมมานานแล้วก็ลึกซึ้งในหลายๆอย่าง คงไม่ขอกล่าวในที่นี้ ความเข้าใจของประชาชนด้วย หรือผู้ที่สื่อกันแล้วไม่ถูกต้องก็เลยบานปลาย ทำให้เกิดกรณีอันนี้ขึ้นมา ก็ฟังข่าวอยู่ตลอดก็เศร้า นี่ก็เมื่อวาน วันนี้ ก็ฟังข่าวว่า พระภิกษุถูกฆ่า ถูกเผาวัด ถูกอะไร ก็ไม่อยากเห็นอย่างนี้ เพราะว่า เราศาสนาพุทธก็ไม่เคยไปย่ำยีศาสนาใครแล้วก็มีแต่เมตตาไม่น่าจะทำกัน
คิดว่าคนส่วนใหญ่ อิสลามส่วนใหญ่ก็คงจะไม่ได้เป็นอย่างนี้ อันนี้ก็เป็นเพียงส่วนน้อยที่เขารุนแรง

ใคร่ขอประทานพระดำรัสเป็นกำลังใจแก่ประชาชนเหล่านั้นกระหม่อม

ขอ…อยากให้ประชาชนมีความสุข อยากให้รักกัน จะเป็น อยู่ นับถือศาสนาใดก็ดี ก็ขอให้รักกัน ขอให้สามัคคีกันให้นึกถึงบรรพบุรุษให้มากๆ กว่าเราจะเป็นผืนแผ่นดินไทยมานี้ ปู่ย่าตาทวดบรรพบุรุษมาเนี่ย เสียเลือดเนื้อมาแก่แผ่นดินไทยนี่เยอะมาก จะภาคไหนก็แล้วแต่ ทุกภาค อยากให้คำนึงถึงจุดนี้มากๆ ถ้าหากเราไม่มีความ…แตกแยก ไม่มีความสามัคคีกันก็ไม่มีบ้านอยู่ได้ ความเจริญก็จะไม่มี ก็อยากฝากเรื่องความสามัคคี อย่างที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวและสมเด็จพระนางเจ้าพระบรมราชินีนาถทรงห่วงใยและทรงรับสั่งอยู่เสมอ เรื่องความสามัคคีในหมู่คณะ ในประเทศ แล้วก็อยากให้เมตตากันเยอะๆ ไม่อยากให้ทำร้ายกันอย่างนี้

ในนามพสกนิกรชาวไทย คณะกองบรรณาธิการนิตยสารไฮ-คลาสรู้สึกสำนึก ในพระกรุณาธิคุณที่พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าโสมสวลี พระวรราชาทินัดดามาตุ ประทาน พระวโรกาสให้เข้าเฝ้าถวายสัมภาษณ์ และฉายพระรูป รวมทั้งได้ประทานพระโอวาทอันทรงคุณค่า ซึ่งจะนำมาเป็นแนวทางในการใช้ชีวิตอย่างมีพลานมัยที่ดีได้ต่อไป ขอจงทรงพระเจริญ

Related contents:

You may also like...