Born to die ของนักร้องสาว Lana Del Rey

url

เปิดโทรทัศน์ขึ้นมาเห็นฉากในมิวสิควิดิโอที่หรูหราทรงเกียรติราวพระราชวังบักกิ้งแฮมและน้ำเสียงของนักร้องที่ดูแล้วไม่น่าจะอายุเกินวัยผู้เขียนไปสักเท่าไร จึงตัดสินใจดูจนจบถึงทราบว่าเป็นเพลง Born to die ของนักร้องสาว Lana Del Rey (ลาน่า เดล เรย์) น้ำเสียงของเธอเหมือนมีมนต์สะกดและถ่ายทอดเรื่องราวความรู้สึกให้ลงไปในเนื้อเพลงอย่างออกรสในทุกอารมณ์ความรักที่มีสองด้านคือความสวยงามและอีกด้านที่เลวร้ายคือความสูญเสีย

ดูท่วงท่าและทำนองของการร้องเพลงของล่าน่า แล้วเชื่อว่าเธอได้รับพรสวรรค์มากสมควรเมื่อเทียบกับนักร้องในวัยเดียวกันกับเธอ อย่าถึงกระนั้นเลยตามเฟสบุคก็มีคนแชร์เพลง Born to die จนยอดชมในยูทูปสูงถึงร้อยล้าน มีคำชื่นชมถึงเธอว่าเธอถ่ายทอดเพลงนี้ได้อย่างเยี่ยมยอด ในประเทศไทย ”Born To Die” ก็อยู่ในชาร์ตเพลง Top Hit ล่าสุดเธอได้รับรางวัลศิลปินต่างชาติหน้าใหม่ยอดเยี่ยมจากเวที Golden Bridge Award 2012 เอาชนะผู้เข้าชิงอย่าง นิคกี้ มินาจ, บอน ไอเวอร์ หรือ Foster The People ซึ่งรางวัลนี้ถือว่าเป็นรางวัลบนเวทีใหญ่รางวัลแรกของเธอ นับเป็นใบเบิกทางให้เธอเขาสู่วงการเพลงอย่างสวยงาม

ลาน่า เดล เรย์ คือสาวนิวยอร์กกับความฝันที่ต้องการจะมีอัลบั้มเป็นของตัวเองสักครั้งในชีวิต เนื้อเพลงแต่ละเพลงนั้น ลาน่า จรดปากกาด้วยตัวเองซึ่งถ่ายทอดจากทัศนคติของผู้หญิงที่มีต่อความรักบนโลกนี้ ทั้งในแง่ดีและแง่ร้าย เธอกำลังเป็นจุดสนใจของสื่อมวลชนทั่วโลกด้วยบุคลิกที่ดูเฉี่ยวและเย้ายวน ทำให้เธอได้ปรากฏบนปกนิตยสารชื่อดังของโลกมากมายทั้ง Vouge, Billboard, NME, etc. และที่เห็นว่าสื่อแฟชั่นอย่าง Harpers Bazaar ก็ไม่สามารถขาดเธอไปได้ นอกจากงานนางแบบแล้ว ในวันนี้เป็นวันที่ความฝันของเธอเป็นจริงเมื่อเธอได้ออกอัลบั้มแรกของเธอ ”Born To Die” กับแนวเพลงสไตล์ในแบบของตัวเองที่เธอเรียกว่า ”ฮอลลีวู้ดป็อป” โดยมี Nirvana, Frank Sinatra, Elvis, Bob Dylan และ Eminem เป็นแรงบันดาลใจ

lana+del+rey+born+to+die

ย้อนวันวานของลาน่าเมื่อครั้งเป็นเด็กสาว เธอมีชื่อว่า เอลิซาเบ็ธ วูลริดจ์ แกรนท์ ในปีค.ศ.1986 ลาน่า เดล เรย์ ใฝ่ฝันอยากทำงานเพลงตั้งแต่วัยรุ่น เธอออกงานเพลงชิ้นแรกเป็นอัลบั้ม 3 เพลง Kill Kill ปี 2008 ในชื่อ ลิซซี่ แกรนท์ ซึ่งมีเพลง Kill Kill, Yayo และ Gramma(Blue Ribbon Sparkler Trailer Heaven) กว่าจะได้ออกอัลบั้มเพลงเต็มๆ ชุดแรกก็เดือนมกราคม 2010 ในชื่อ “Lana Del Ray A.K.A. Lizzy Grant” ซึ่งก็ยังออกในชื่อ ลิซซี่ แกรนท์ แต่ไม่ได้รับการตอบรับอย่างสิ้นเชิง เธอเองไม่ลดละความเพียรพยามที่จะถึงฝั่งฝันด้วยการโพสต์คลิปวิดีโอเพลงทำเอง ”Video Games” ลงยูทูบ เป็นเพลงที่ร้องในเสียงโทนต่ำ ฟังแล้วหวิวๆเล่าเรื่องราวความรักในท้วงทำนองเศร้า มีภาพประกอบเป็นฟุตเทจเก่าๆของฮอลลีวู้ด แลดูแล้วเป็นคลิปที่ให้อารมณ์แปลกๆแต่ทรงพลัง ถึงกระนั้นมันคงไม่มีค่าอะไรเลยถ้าหากช่วงสิ้นปีไม่มีใครดูมันมากถึง 20 ล้านวิว และโชคเข้าข้างเธอ เพลง Video game ของเธอได้อยู่ในซิงเกิลฮิตท็อปเทนของค่ายเพลงอินดี้ของอังกฤษ Stranger Music นำเธอไปสู่สัญญาครั้งใหญ่กับ Universal Music ทำให้เธอได้ลงปกนิตยสารต่างๆ เป็นหนึ่งในศิลปินที่น่าจับตามองแห่งปีและได้รับการพูดถึงที่สุดคนหนึ่ง ซึ่งรวมถึงการพูดถึงแง่ลบ เป็นต้นว่าเป็นของปลอมในโลกออนไลน์ หรือเธอเป็นศิลปินปรุงแต่ง ถูกขายเพื่อเป็นพิน-อัพเกิร์ลของวงการเพลงอินดี้ ฯลฯ ราวกับเธอดีเกินกว่าจะเป็นจริง

เธอย้ายมา นิวยอร์ก ตอนอายุ 18 และเข้าเรียนคอลเลจด้านอภิปรัชญา และหัดเล่นกีตาร์ด้วยตัวเอง ”ฉันชอบขีดๆ เขียนๆ มันเป็นสิ่งเดียวที่ฉันทำได้ดี มันไม่ยากแบบเรียนเลข แต่มันไม่จำเป็นต้องเป็นดนตรี ฉันชอบร้องเพลง และฉันยังชอบตัดต่อฟิล์มต่างๆ เข้าด้วยกันด้วย ฉันชอบทำเรื่องพวกนี้ แต่ความปรารถนาเดียวของฉันคืออยากเป็นนักแต่งเพลงที่ยิ่งใหญ่” เนื้อหาหลักๆ ของเธอก็หนีไม่พ้นชีวิตตัวเอง โดยเฉพาะรักขม ที่เธอพ่นออกมาในเพลง Off To The Races, Blue Jeans และ National Anthem

ชีวิตในนิวยอร์กของเธอนั้นมีงานแปลกๆทำไปจนถึงการช่วยชุมชนในโปรแกรมการเลิกเหล้า-ยาเสพติดและประกวดร้องเพลง-แต่งเพลงไปเรื่อย ลิซซี่ แกรนท์ เกิดใหม่ในชื่อ “ลาน่า เดล เรย์” ซึ่งเธอบอกว่า “มันก็ไม่ใช่ว่าฉันมี 2 บุคลิกหรอกนะ ไม่ใกล้เคียงเลยสักนิด ฉันก็แค่อยากมีชื่อที่ฟังดูสวยงามแบบดนตรี ก็แบบเหตุผลเดียวที่ฉันใช้ภาพฟุตเทจเก่าๆ ของฮอลลีวู้ดเพราะฉันชอบเนื้อ และสีของมัน ไม่มีความหมาย ความนัยแผงอะไรทั้งนั้น ฉันเป็นของฉันแบบนี้มานาน ไม่มีความจำเป็นต้องหลุดเข้าไปอีกโลก หรืออีกตัวตนหนึ่ง ฉันมีความสุข ทุกคนจะบอกคุณแบบนี้”

แม้เธอบอกว่าเธอเป็นของเธอแบบนี้ แต่ในโลกไซเบอร์ไม่ใช่ มันเหมือนเธอถูกประดิษฐ์ขึ้น เธอเป็นเด็กในยุคนี้ ยุคของเทคโนโลยี เธอเลือกใช้ช่องทางที่เหมาะสมกับตัวเอง และค้นพบหนทางที่จะแสดงงานเพลง และภาพลักษณ์ของเธอ โดยมีภาพเก่าๆ เป็นองค์ประกอบ เธอเคยคลอดอัลบั้มอินดี้ออกมาเองในปี 2008 แต่มันล้มเหลวขนาดค่ายเพลงยังส่ายหัว “ไม่มีการสนับสนุนทางการเงิน เหมือนกับว่าพวกเขาขอประหยัดเงินเอาไว้รอบหน้า”

เธอยังเล่าเรื่องตัวเองในลักษณะของตัวเอง ตามแบบฉบับของตัวเองสู่ผู้ฟัง แล้วโลกก็รับรู้ ยกย่องเธอ และสื่อถาโถมใส่เธอ และผลกระทบมันแสดงออกมาโดยไม่ทันตั้งตัว “ฉันรู้ว่าคนคิดยังไงกับฉัน” แต่มันก็ดูเหมือนไม่มีผลกับเธอ เธอสร้างอัลบั้มเพลงอย่างที่คู่ควรกับเธอ แถมบอกว่าเธอไม่อยากทัวร์ และไม่อยากออกจาก นิวยอร์ก สิ่งที่เธอต้องการคือ “ไม่อยากได้อะไรที่ใหญ่โต ฉันอยากทำสิ่งที่สวยงาม และฉันคิดว่าฉันทำได้แล้ว”

466074-lana-del-rey

เร็วๆนี้ลาน่า เดล เรย์ ออกมาเปิดเผย แรงบันดาลใจเบื้องหลังงานเพลงฮิต ‘Video Games’ ว่า เพลงนี้มีเบื้องหลัง ที่ต้องการจะพูดถึงความสัมพันธ์กับอดีตแฟนหนุ่มของเธอ

“เพลงนี้ฉันเขียนถึงแฟนเก่าในช่วงที่ฉันใช้ชีวิตร่วมกับเขา มันเป็นช่วงเวลาหนึ่งของที่ดีแต่แล้วความสัมพันธ์นั้นจบลง เพราะว่า ความทะเยอทะยานส่วนตัวของฉันที่ต้องการจะเป็นนักร้องมืออาชีพ แต่ฉันก็มีความสุขที่ได้อยู่บ้านกับเขา เวลาเขากลับบ้านหลังเลิกงาน เขามักจะเล่นวีดีโอเกม ฉันเขียนเพลงนี้ระหว่างที่ฉันมองเขาเล่นเกม เมื่อฉันลงมือเขียนเพลงมันก็สะท้อนถึงความหวานและความโหยหาที่ซ่อนอยู่ในเวลาเดียวกัน”

Text : Porsche Kittisak K

HBFnews_LanaDeyRey
http://media3.onsugar.com/files/2012/08/33/4/192/1922153/5bb4dab9d52266f0_bows.xxxlarge_1/i/Lana-Del-Rey-Beauty-Looks-From-HM-Autumn-Campaign.jpg
http://www.timeslive.co.za/incoming/2012/01/06/lana-del-rey-born-to-die.jpg/ALTERNATES/crop_630x400/lana+del+rey+born+to+die.jpg
http://www.timeslive.co.za/incoming/2012/01/06/lana-del-rey-born-to-die.jpg/ALTERNATES/crop_630x400/lana+del+rey+born+to+die.jpg
http://www.harpersbazaar.com.au/assets/HBFnews_LanaDeyRey.jpg

Related contents:

You may also like...