A Dream Comes True …to “…..”.

sex-book-madonna-121M 03

หากคุณสามารถนั่งยานย้อนเวลาของโดราเอม่อนไปใน ค.ศ. 1977 คุณจะพบกับเด็กสาวคนหนึ่งที่ดินรนสู้ชีวิตโดยที่มีความใฝ่ฝันว่าเธอจะต้องดังมีชื่อเสียงให้ได้แม้ว่าขณะเธอจะเป็นเพียงพนักงานในร้านขายโดนัท Dunkin Doughnut ในนิวยอร์ค สหรัฐอเมิรกา เธอตะเกียกตะกายมาเรื่อยๆอาศัยเต้าไต่ด้วยการรับบทดาราหนังประเภทนุ่งลมห่มฟ้ากับดาราหนุ่ม Sean Penn เรื่อง A Certain Sacrifice หลังจากนั้นไม่นานเธอก็เป็นที่รู้จักมากขึ้นโดยเฉพาะในหมู่หนุ่มนักรัก เธอได้รู้จักกับ Dan Gilroy ทั้งสองตัดสินใจคบกันในฐานะคนรัก และได้ก่อตั้งวงดนตรี The Breakfast Club โดยเธอเล่นกลองและในเวลาต่อมาเธอได้เป็นนักร้องนำ ความใฝ่ฝันของเธอเริ่มเป็นจริงขึ้นมาอีกครั้งเมื่อเธอได้รับบทบาทเป็นนักแสดงในคณะละครเสียดสีสังคมในปีค.ศ.1979 แต่ทว่ารักของเธอก็ล่มสลายลง

ถ่านไฟเก่าร้อนระอุขึ้นมาอีกครั้ง เธอกลับไปคืนดีกับ Stephen Bray และให้เขาตั้งวงใหม่ขึ้นมาประชดกับอดีตสามี โดยใช้ชื่อวงว่า Emmy แต่ด้วยความที่อยากออกอัลบั้ม ไม่นานนักเธอและสามีจึงลาออกจากวง เป็นเวลาเดียวกันที่พวกเขาทำเทปเดโมส่งให้ Mark Kaminsโปรดิวเซอร์และดีเจ และในที่สุดเธอได้เซ็นสัญญาเป็นนักร้องเดี่ยวให้กับ Sire Records เธอออกซิงเกิลแรกคือ Everybody ที่ขึ้นไปได้ถึงอันดับ 3 ใน Billboard Dance Chart มาถึงในขณะนี้แล้วกล่าวได้ว่าฝันของเด็กหญิงมอมแมมที่ผันชีวิตอันขมขื่นของตนจากบ้านเกิดที่เบย์ซิตี้ รัฐมิชิแกน ด้วยเงินติดตัวเพียง 35 ดอลลาร์เป็นจริงแล้ว !! เธอคือใคร ?

M 01M 02

Madonna Louise Veronica Ciccone นักร้องสาวแนวเพลงป็อปชาวอเมริกัน เป็นศิลปินที่ได้รับความนิยมมากในยุค 80 ได้รับฉายาว่าเป็น”ราชินีแห่งเพลงป็อป” ชื่อเสียงของเธอโด่งดังเป็นที่รู้จักและกระฉ่อนอย่างไม่มีใครเทียบเธอได้เลย และแล้วซิงเกิล Burning Up ก็ตามมาตอกย้ำความดังอีกครั้งจนเธอได้ออกอัลบั้มเดี่ยวอัลบั้มแรกที่ใช้ชื่อของตัวเองเป็นชื่ออัลบั้ม เพลง Holiday เป็นเพลงแรกของเธอ ที่เข้าชาร์ท Billboard Hot 100 จากนั้นมาเธอก็มีเพลงดังมาเรื่อยๆอย่าง Borderline และ Lucky Star ร่วมปูทางในเส้นทางสายดนตรีให้เธอได้อย่างสวยงาม เส้นทางในวงการเพลงของเธอเดินทางอย่างราบรื่น เธอมีเพลงอันดับ 1 อย่าง Live to Tell, Papa Don’t Preach และ Open Your Heart จากอัลบั้ม True Blue ที่ขายได้ ถึง 22 ล้านก๊อปปี้ อัลบั้มนี้เธอตั้งใจจะอุทิศให้สามี ในทางตรงกันข้ามชีวิตคู่ของเธอต้องจบลง

ในปีค.ศ. 1992 มาดอนน่าออกหนังสือที่รวบรวมภาพโป๊ทั้งของตัวเธอเองและคนดังมากมายหนังสือเล่มนี้ถูกวิจารณ์ในแง่ลบและถูกด่าอย่างมาก แฟนๆมาดอนน่าบางคนรับไม่ได้จนถึงขั้นเผาซีดีเลยก็มี แต่ในด้านยอดขายกลับกลายเป็นหนังสือที่ประสบความสำเร็จอย่างมาก จนต้องพิมพ์ครั้งที่ 2 ภายในวันนั้นเลย ทางด้านอัลบั้ม Erotica ที่ออกพร้อมๆกับหนังสือเล่มนี้ก็ขายได้ถึง 2 ล้านก๊อปปี้ อัลบั้ม Bedtime Stories ดูเหมือนจะลดภาพความเซ็กซี่ลงจากอัลบั้มก่อน แต่ก็ยังมีเพลงฮิตอย่าง Take A Bow ส่วนเพลง Bedtime Stories และ Human Nature คงเป็นอานิสงส์จากการที่เธอลดความเซ็กซี่ เพราะสองเพลงนี้กลายเป็นสองเพลงแรกของเธอที่ไปไม่ถึงชาร์ท Top 40 ในปีค.ศ. 1995 เธอเปลี่ยนตัวเองจากสาวเซ็กซี่มาเป็นผู้ใหญ่ในภาพยนตร์เพลงเรื่อง Evita และเป็นช่วงเวลาเดียวกันกับที่เขาอาศัยอยุ่กับ Guy Ritchie ผู้กำกับชาวอังกฤษ มีข่าวว่ากันว่ามาดอนน่าได้ให้กำเนิดลูกสาวคนแรก Lourdes Maria Ciccone Leon ในช่วงที่ภาพยนตร์เรื่องนี้กำลังออกฉายพอดี Evita ทำให้เธอได้รางวัลลูกโลกทองคำในสาขานักแสดงนำยอดเยี่ยมเป็นครั้งแรกและเพลงประกอบภาพยนตร์ทั้ง cover ของเพลง Don’t Cry for Me Argentinaและ You Must Love Me ก็เป็นเพลงฮิตด้วย

url

หลังจากที่เขาทั้งสองอยู่กันมาจนมีบุตรชายคนที่สอง ชื่อ Rocco John Ritchie เขาทั้งสองคนจึงตัดสินใจประกาศแต่งงานในปี ค.ศ. 2000 พร้อมอัลบั้ม Music และร่วมกันกำกับมิวสิกวิดีโอ What It Feels Like for A Girl ในปีเดียวกันเธอร้องเพลงประกอบภาพยนตร์ James Bond ตอน Die Another Day

เริ่มสหัสวรรษใหม่ โดยที่เธอรื้อฟื้นความเป็นดาราเสียดสีสังคม เธอร่วมมือกับนักร้องดังมากมาย ได้แก่ Britney Spears, Christina Aguila, Michi Elliot จัดโชว์ Like A Virgin/Hollywood ในงาน MTV Video Music Awards (ค.ศ.2003) แสดงถึงการเสียดสีสังคมอเมริกันในช่วงนั้นอย่างรุนแรง เมื่อ Britney Spears และ Christina Aguila แต่งตัวและแสดงแบบที่มาดอนน่าเคยทำใน เพลง Like A Virgin เมื่อปีค.ศ. 1984 และทั้งคู่ก็จูบปากมาดอนน่าทีละคน ทำเอาJustin Timberlake (แฟนเก่าของ Britney) มองด้วยสายตาไม่ค่อยพอใจนัก และในปีเดียวกันนี้เองมาดอนน่าก็ออกอัลบั้ม American Life ที่มีเนื้อหาเสียดสีสังคมและมิวสิควิดิโอก็แสดงถึงการเสียดสีสังคมเช่นกันจนถูกแบนอีกครั้ง

จากงานโชว์ Like A Virgin/Hollywood ทำให้ความสัมพันธ์ฉันท์มิตรของเธอและ Britney พัฒนาขึ้น ทั้งคู่ได้ร่วมกันร้องในเพลง Me Against The Music มาวันนี้เธอได้ออกอัลบั้มมามากมายนับไม่ถ้วน และในปีที่ผ่านมานี้เอง เธอก็ยังปล่อยอัลบั้ม “MDNA” ออกมาเอาใจแฟนๆและได้รับเสียงตอบรับอย่างเกรียวกราว นอกจากความสามารถด้านการร้องเพลงแล้ว มาดอนน่ายังเป็นนักแต่งเพลง โปรดิวเซอร์ ผู้กำกับภาพยนตร์และนักแสดง

ค.ศ.2013 นี้ หากกล่าวถึงเพลงป๊อปแล้วจะขาดราชินีอย่างมาดอนน่าได้อย่างไร เพราะไม่ว่าจะผ่านไปกี่ปีเจ้าแม่ของวงการอย่างมาดอนน่าก็ยังเป็นแรงบันดาลใจให้ศิลปินรุ่นใหม่ๆเดินตามรอยของเธอ เพราะเธอคือสาวแกร่งสุดมั่นของในแบบฉบับของเธออยู่เสมอ มิหนำซ้ำไม่ว่าจะขยับตัวทำอะไร คนก็ให้ความสนใจไปแทบทุกอย่าง

Text : Porsche Kittisak K
Thanks to information and image from : http://th.wikipedia.org
http://images6.fanpop.com/image/photos/32600000/-Madonna-madonna-32641621-1024-768.jpg
http://images1.fanpop.com/images/image_uploads/Madonna-madonna-1262570_1280_1024.jpg
http://images1.fanpop.com/images/image_uploads/Madonna-madonna-1262650_1280_1024.jpg
http://www.vijesti.me/data/slika/20/190278.jpg
http://25.media.tumblr.com/tumblr_m7h2szJSOl1rv4gzqo1_400.jpg

Related contents:

You may also like...