“นักปั่นข้ามโลก” สองสามีภรรยาชาวอังกฤษถูกรถยนต์กระบะพุ่งชนจนเสียชีวิตทั้งคู่ขณะกำลังปั่นรถจักรยานอยู่บนถนนสาย 304 เขตพื้นที่ ต.เกาะขนุน อ.พนมสารคาม ช่วงระหว่างหลัก กม.ที่ 41-42 จาก อ.กบินทร์บุรี มุ่งหน้าสู่ตัว อ.พนมสารคาม ช่องทางขาเข้า จนเกิดเป็นกระแสวิพากษ์วิจารณ์ความปลอดภัยบนท้องถนนในประเทศไทยกันอย่างกว้างขวาง
นพ.วิทยา ชาติบัญชาชัย ผู้อำนวยการศูนย์ความร่วมมือแห่งองค์การอนามัยโลกด้านการป้องกันอุบัติเหตุ เปิดเผยว่าจากรายงานผลการสำรวจขององค์การอนามัยโลก ปี 2553 ระบุว่าประเทศไทยมีการตายจากอุบัติเหตุเป็นอันดับ 6 ของโลก จากประเทศสมาชิกทั่วโลก 182 ประเทศ มีผู้เสียชีวิตมากถึง 29,778 คน ซึ่งขัดแย้งกับรายงานของหน่วยงานหลักในประเทศไทย ที่ระบุว่าตายเพียง 14,033 คน ขณะที่ในปี 2554 อัตราการตายจากอุบัติเหตุบนท้องถนนของประเทศไทย คิดเป็นอัตราการตายที่ 42.9 คนต่อประชากร 1 แสนคน ซึ่งขณะนี้สถานการณ์ในประเทศไทยนั้น เป็นรองเพียงประเทศมาลาวี สวาซิแลนด์ นามิเบีย อิรัก และอิหร่าน
สืบเนื่องมาจากการที่องค์การอนามัยโลกที่ยินดีมอบอันดับ 6 ของอัตราการเสียชีวิตจากอุบัติเหตุบนท้องถนนให้ประเทศไทย จนมีหลายประเทศเช่นอังกฤษ ออกมาเตือนนักท่องเที่ยวของชาติเขาให้ระวังหรือหลีกเลี่ยงเข้ามาประเทศไทย ล่าสุดมีการเปิดเผยข้อมูลจากองค์การอนามัยโลกถึงสถิติการเกิดอุบัติเหตุบนท้องถนนว่า ประเทศไทยติดอยู่ในอันดับที่ 6 ของโลกอีกทั้งยังมีการตื่นตัวจากประเทศสหรัฐอเมริกาและประเทศอังกฤษ เพื่อเตือนพลเมืองที่ต้องการมาเยือนประเทศไทย ให้ระวังอุบัติเหตุบนท้องถนนให้ดี ทั้งนี้พลเมืองสหรัฐอเมริกามีอัตราการเสียชีวิตจากอุบัติเหตุในประเทศไทยเป็นอันดับ 2 ขณะที่ก่อนหน้านี้พลเมืองประเทศอังกฤษซึ่งเป็นวัยรุ่น 3 ราย ก็เพิ่งเสียชีวิตจากอุบัติเหตุในประเทศไทยไปเช่นกัน ทำให้ครอบครัวของพวกเขาต้องทำเรื่องไปยังรัฐสภาอังกฤษเพื่อให้รณรงค์เตือน เรื่องดังกล่าว และหันมาจับตามองอุบัติเหตุในประเทศไทยมากขึ้น
เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนี้สะท้อนให้เห็นถึงรัฐบาลไทยที่ไม่วางมาตรการแก้ปัญหาอย่างจริงจัง จี้ขับเคลื่อนมาตรการ 5 เสา ดึงความเชื่อมัน เหตุต่างชาติมองไทยแย่มาก ไร้ความปลอดภัยบนท้องถนน ด้านผู้เชี่ยวชาญอุบัติเหตุทางถนน แนะจัดโซนนิ่งเส้นทางขับขี่จักรยานเฉพาะเส้นทางที่ปลอดภัย พร้อมชี้แก้ปัญหาที่ต้นเหตุ ประเทศไทยควรเริ่มต้นจากการปลูกฝังระเบียบวินัย ให้กับผู้ขับขี่รถจักรยานและรถยนต์ และเหตุการณ์นี้สื่อถึงอะไร ??
มันสื่อถึง “ความล้มเหลวในการดูแลกฎระเบียบด้านการจราจร” หากเป็นในสมัยที่ พล.ต.ต.ภาณุ เกิดลาภผล อดีตรองผบชน.ด้านการจราจร ดูแลคงไม่มีเหตุการณ์เช่นนี้เกิดขึ้น เพราะท่านเชียวชาญด้านการจัดระบบการสัญจรเป็นอย่างดี ขึ้นเฮลิคอปเตอร์ตรวจสภาพการจราจรทุกวัน เป็นห่วงความเป็นอยู่ของประชาชนชาวไทยอย่างแท้จริง ฉะนั้นแล้ววอนผู้บัญชาการสำนักงานตำรวจแห่งชาติแต่งตั้งคนใหม่ได้แล้ว Please put the right man to a right job. อย่าเพียงเพราะผลประโยชน์ทางการเมืองของตน ในเหตุการณ์นี้นอกจากจะเสียชีวิตของประชาชนไปแล้ว ยังเสื่อเสียชื่อเสียงภาพลักษณ์ของประเทศไทยที่เป็นสยามเมืองยิ้ม ดินแดนแห่งความผาสุกราวโฆษณารีเจนซี่ ที่อวดให้โลกรู้ว่าเมืองไทยมีดี ตำรวจและผู้ที่เกี่ยวข้องคงปฏิเสธไม่ได้ว่า
- เด็กเล็ก หรือเยาวชนอายุไม่ถึงขับขี่ได้ตามใจฉัน
- คนเมาก็ยังขับขี่
- ต่างชาติ นักท่องเที่ยวที่ภูเก็ต สมุย พัทยา เชียงใหม่ เช่ารถโดยไม่ต้องมีใบขับขี่ ใครขับเป็นไม่เป็น อะไรยังไงบริษัทให้เช่าหมด มีเงินจ่ายอย่างเดียว อันตรายมากๆ
- ตำรวจไม่เอาจริงจังกับการตรวจสอบ ตั้งด่านก็แค่รีดไถ ระบบเน่าใน
- มีอีกเยอะ จาระไนไม่หมด
ด้าน นพ.วิทยา ชาติบัญชาชัย ผู้อำนวยการศูนย์ความร่วมมือแห่งองค์การอนามัยโลก ด้านการป้องกันอุบัติเหตุ กล่าวว่า “ประเทศไทยกำลังมีภาพลักษณ์แย่ในสายตาต่างประเทศ เพราะบนท้องถนนไม่มีความปลอดภัยเลย และที่ผ่านมารัฐบาลไทยยังไม่ได้ให้ความสำคัญกับเรื่องนี้ มีเพียงแค่การรณรงค์เท่านั้น แต่ไม่ได้หามาตรการใดมาแก้ปัญหา ดังนั้นจึงอยากให้รัฐบาลไทยแก้ปัญหาด้วยการจัดโซนนิ่งเส้นทางขับขี่จักรยานเป็น อันดับแรก โดยเน้นเฉพาะพื้นที่ปลอดภัยและใช้เวลาเดินทางไม่เกิน 20 นาที อีกทั้งควรปลูกฝังระเบียบวินัยในการใช้ถนนด้วย”
….อย่าไปโทษเขาที่ต่างชาติเขาว่าเอา เพราะ มันเน่าจริงๆ….