ระดมกีฬาทางน้ำร่วมสร้างความยิ่งใหญ่ในรายการรีกัตต้าแห่งเอเชีย

การแข่งขันเรือใบเล็ก Day 2 on the dinghy courses. 2012 Phuket King's Cup Regatta. Photo by Joyce Ravara

ปิดฉากลงอย่างยิ่งใหญ่กับการแข่งขันเรือใบชิงถ้วยพระราชทานภูเก็ตคิงส์คัพรีกัตต้าครั้งที่ 26 ปีนี้มีผู้เข้าร่วมการแข่งขันจากกว่า 35 ประเทศทั่วโลก ด้วยจำนวนทัพเรือที่เข้าแข่งขันมากที่สุดในประวัติศาสตร์กว่า 168 ลำ โดยเป็นเรือประเภทเรซิ่งกับครูซิ่ง 78 ลำ เรือใบเล็ก 50 ลำ และวินด์เซิร์ฟอีก 40 ลำ โดยในปัจจุบัน ภูเก็ตคิงส์คัพรีกัตต้านอกจากเปรียบเสมือนเพชรยอดมงกุฎแห่งวงการแข่งขันเรือใบของเอเชียแล้ว ยังมีชื่อเสียงไปทั่วโลกและดึงดูดนักแข่งเรือจากนานาประเทศให้เข้าร่วมแข่งขันเพิ่มมากขึ้นทุกปี โดยฝ่ายคณะกรรมการจัดงานได้มีการเพิ่มประเภทกีฬาทางน้ำให้มีความหลากหลายขึ้นทุกปีเช่นกัน เพื่อสร้างของสีสันและความน่าสนใจใจให้กับรายการรีกัตต้าอันทรงเกียรติแห่งเอเชีย

การแข่งขันเรือใบรุ่นใหญ่ในรายการภูเก็ตคิงส์คัพรีกัตต้า ครั้งที่ 26 มี 10 รุ่น ได้แก่ รุ่นไออาร์ซี ซีโร่, รุ่นไออาร์ซี 1, รุ่นไออาร์ซี 2, รุ่นไฟร์ฟลาย 850 สปอร์ต, รุ่นมัลติฮัลล์, รุ่นปลาทูวันดีไซน์, รุ่นแบร์โบ๊ต ชาร์เตอร์, รุ่นโมเดิร์น คลาสสิค, รุ่นคลาสสิค, และ รุ่นพรีเมียร์ คลาส โดยรุ่นไออาร์ซีซีโร่, ไออาร์ซี 1, และ ไออาร์ซี 2 ถือเป็นเรือใบประเภทแข่งขัน (เรซิ่ง) ที่เร็วที่สุดซึ่งในปีนี้มีลูกเรือชาวรัสเซียเข้าร่วมมากที่สุดเท่าที่เคยมีมา ซึ่งนอกจากเรือแบบโมโนฮัลล์แล้ว ยังมีเรือแบบคาทามารันและไตรมารัน ซึ่งเป็นเรือที่มีความเร็วและมีความมั่นคงสูง โดยรุ่นที่ปราดเปรียวที่สุดคือเรือไฟร์ฟลาย 850 สปอร์ต ที่ได้รับการออกแบบและประกอบขึ้นในภูเก็ต

Phuket King's Cup 2012. Firefly start.

ภูเก็ตคิงส์คัพรีกัตต้าในปีนี้ ถือเป็นการกลับมาอีกครั้งของเรือรุ่นปลาทูวันดีไซน์ ซึ่งเป็นเรือใบขนาด 25 ฟุตที่ได้รับความนิยมมากทั้งในเอเชียและยุโรป เพราะมีขนาดเล็ก บังคับง่าย แต่มีกำลังขับเคลื่อนและความเร็วสูงอย่างเหลือเชื่อ ทั้งยังมีราคาไม่สูงมากนัก เจ้าของเรือใบรุ่นนี้ยังสามารถนำเรือเข้าร่วมการแข่งขันได้หลายรายการในเอเชียอาคเนย์ รายการภูเก็ตคิงส์คัพรีกัตต้าจึงได้เพิ่มเรือรุ่นดังกล่าวเข้าเป็นส่วนหนึ่งของการแข่งขันในปีนี้ สำหรับเรือรุ่นอื่นๆทั้งรุ่นพรีเมียร์, รุ่นโมเดิร์น คลาสสิค, รุ่นคลาสสิค, และรุ่นครูซิ่งต่างก็เป็นรุ่นยอดนิยมในแวดวงเรือใบและเป็นที่นิยมของนักแล่นเรือใบทั่วโลกมาอย่างต่อเนื่อง

นายเควิน วิทคราฟท์ ประธานกรรมการจัดการแข่งขันภูเก็ตคิงส์คัพรีกัตต้า กล่าวว่า “คณะกรรมการจัดการแข่งขันเชื่อว่ากีฬาเรือใบควรได้รับการสนับสนุนและพัฒนาอย่างต่อเนื่อง เราจึงจัดการแข่งขันเรือใบในหลายรุ่น เพื่อดึงดูดนักกีฬาเรือใบจากทั่วโลก ตลอดจนเพิ่มเวทีการแข่งขันให้กับนักกีฬาเรือใบและกีฬาทางน้ำชนิดต่างๆ อย่างทั่วถึง”

นอกจากการแข่งขันเรือใบขนาดใหญ่ ภูเก็ตคิงส์คัพรีกัตต้าปีนี้ยังจัดการแข่งขันเรือใบเล็กอีกหลายรุ่น ประกอบไปด้วยเรือใบรุ่นออพติมิสต์ รุ่นเลเซอร์และรุ่นท็อปเปอร์ โดยรุ่นออพติมิสต์เป็นเรือใบเล็กน้ำหนักเบา สำหรับนักแข่งอายุไม่เกิน 15 ปี ส่วนรุ่นเลเซอร์เป็นเรือใบเล็กที่ได้รับความนิยมทั่วโลกและถูกบรรจุไว้ในการแข่งขันกีฬาโอลิมปิก ทั้งยังเป็นเรือใบเล็กเพื่อการแข่งขันที่มียอดซื้อสูงกว่า 250,000 ลำ นับตั้งแต่เริ่มผลิตในปี พ.ศ. 2517 ส่วนรุ่นท็อปเปอร์ที่ถูกเพิ่มเข้ามาเมื่อเร็วๆนี้เป็นเรือใบเล็กขนาด 11 ฟุต ซึ่งเป็นที่นิยมในการแข่งขันเรือใบเยาวชนมานานกว่า 30 ปี

เรือใบเล็กOptimist_racing._Day_2_of_the_International_Dinghy_classes_at_the_2012_Phuket_King's_Cup_Regatta._Photo_by_Joyce_Ravara

เรือใบเล็กมีบทบาทสำคัญในการแข่งเรือของไทยมาตั้งแต่ปีพ.ศ. 2513 เพราะเป็นสื่อการสอนกีฬาเรือใบเบื้องต้นที่ดีสำหรับเยาวชนและผู้เริ่มต้น โดยภูเก็ตคิงส์คัพรีกัตต้าได้บรรจุการแข่งขันเรือใบเล็กเป็นส่วนหนึ่งของรายการตลอด 4 ปีที่ผ่านมา เพื่อให้วงการเรือใบเยาวชนเติบโตมากยิ่งขึ้นโดยเฉพาะการแข่งขันเรือใบเล็กรุ่นออพติมิสต์และรุ่นทอปเปอร์ในปีนี้ ผู้เข้าแข่งขันส่วนใหญ่เป็นเยาวชนไทย มีเยาวชนต่างชาติทั้งจากจีนและออสเตรเลียเข้าร่วมอีกเป็นจำนวนมาก

กมลวรรณ จันทร์ยิ้ม นักเรียนหญิงอายุ 16 ปี โรงเรียนสิงห์สมุทร สัตหีบ ชลบุรี ผู้ชนะเลิศการแข่งขันเรือใบเล็กรุ่นเลเซอร์ในภูเก็ตรีกัตต้าปีนี้ กล่าวว่ารู้สึกยินดีมากที่ได้มาร่วมแข่งขันเรือใบในปีนี้ แม้รุ่นที่จัดแข่งขันจะเป็นเลเซอร์สแตนดาร์ด ซึ่งเป็นรุ่นใหญ่กว่าเลเซอร์เรเดียลที่เคยเล่นประจำ แต่ก็ต้องการลองสนามกับเยาวชนจากชาติอื่นๆ และคว้าชัยชนะมาได้ “สนามแข่งที่ภูเก็ตแตกต่างจากสนามอื่น เพราะลมจะพัดเปลี่ยนทิศตลอดเวลา ทำให้เล่นยากกว่า แต่ก็ถือเป็นประสบการณ์ที่ดีมาก ชัยชนะในการแข่งขันวันนี้ถือเป็นของขวัญวันพ่อให้กับคุณพ่อ และเป็นการถวายความจงรักภักดีแก่ในหลวงด้วย” กมลวรรณ กล่าว

Tight_at_the_mark._Wan_Ma_Rang_(004)_and_Sansiri_Katsu_(003),_IRC_Zero._Day_4,_Phuket_King's_Cup_Regatta_2012._Photo_by_Joyce_RavaraEk_Boonsawad._Laser_action_on_Day_3_of_the_dinghy_classes_racing_at_the_2012_Phuket_King's_Cup_Regatta._Photo_by_Joyce_Ravara

ด้าน พงศพัศ พุ่มแย้ม เยาวชนอายุ 14 ปี เจ้าของแชมป์ออพติมิสต์ในปีนี้ ถือเป็นดาวรุ่งเยาวชนอีกคนหนึ่งที่เคยคว้ารางวัลอันดับสาม รายการชิงแชมป์โลกเยาวชนรุ่นออพติมิสต์ที่นิวซีแลนด์มาแล้ว กล่าวว่า “รายการคิงส์คัพเป็นอีกหนึ่งเวทีระดับโลกที่อยากให้เยาวชนอื่นๆ มาร่วมแข่งขันด้วย เพราะเป็นประสบการณ์ที่ดีมาก ส่วนเป้าหมายต่อไปของตัวเองคือรายการซีเกมส์ปี 2556 ซึ่งจะซ้อมให้หนักและฟิตร่างกายให้พร้อมมากกว่านี้”

ภูเก็ตคิงส์คัพรีกัตต้าครั้งที่ 26 ยังได้ต้อนรับการกลับมาของกีฬาวินด์เซิร์ฟช่วยเพิ่มสีสันและเสน่ห์ของภูเก็ตรีกัตต้าได้อย่างมาก โดยได้รับความสนใจจากนักกีฬาวินด์เซิร์ฟดาวรุ่งที่เดินทางมาร่วมแข่งขันจากทั่วทุกมุมโลก ไม่ว่าจะเป็นแชมป์โอลิมปิกหญิงชาวเสปน มาริน่า อาลาโบ ไนร่า ตลอดจนนักวินด์เซิร์ฟแถวหน้าชาวไทยอย่าง เอก บุญสวัสดิ์ ทีมชาติรายการวินด์เซิร์ฟโอลิมปิกที่กรุงลอนดอน และ ดาว-ศิริพร แก้วดวงงาม แชมป์โอลิมปิกเยาวชนที่ประเทศสิงคโปร์ ปี 2553 ทั้งสองถือเป็นมือวางอันดับต้นๆ ของเมืองไทยซึ่งเคยลงสนามระดับโลกมาแล้วหลายสนาม ในระดับภูมิภาคนั้นเป็นที่ยอมรับว่านักกีฬาของฮ่องกงและไทยถือเป็นแถวหน้าของกีฬาวินด์เซิร์ฟเอเชีย

เอก บุญสวัสดิ์ นักแข่งหนุ่มวัย 24 ปี กล่าวว่า “เริ่มเล่นวินด์เซิร์ฟตั้งแต่อายุ 10 ขวบ เพราะคุณพ่อเคยเป็นนักวินด์เซิร์ฟและโค้ชทีมชาติ (พัฒนา บุญสวัสดิ์ ปัจจุบันเป็นเลขาธิการ สมาคมวินด์เซิร์ฟแห่งประเทศไทย) เมื่ออายุได้ 15 ปี ลงแข่งรายการฮ่องกงโอเพ่นวินด์เซิร์ฟฟิ่งแชมเปี้ยนชิพระดับเยาวชน ทำให้ได้เรียนรู้เทคนิคใหม่ๆ จากคนที่เก่งกว่าและรู้ว่าสภาพสนามแข่งที่แตกต่างกันมีผลต่อผลการแข่งขันมาก หลังจากนั้น จึงลงแข่งขันในรายการระดับโลกอีกเรื่อยๆ ทั้งในเสปน ฝรั่งเศส ฮอลแลนด์ อังกฤษ และในเอเชีย แต่เน้นรายการในยุโรปเป็นหลักเพราะต้องสะสมคะแนนสำหรับคัดตัวเข้าแข่งโอลิมปิก โดยนักกีฬาที่จะแข่งโอลิมปิกได้ต้องมีคะแนนสะสมสูงติดในร้อยอันดับแรก พออายุ 20 ปี ก็ได้เข้าแข่งโอลิมปิกที่กรุงปักกิ่ง 2008 เป็นครั้งแรก ส่วนการแข่งขันที่ภูเก็ตในปีนี้ก็ถือเป็นอีกหนึ่งรายการที่เยาวชนไทยที่ต้องการก้าวสู่ระดับโลกไม่ควรพลาด”

ฝ่าย ดาว-ศิริพร แก้วดวงงาม นักแข่งสาววัย 18 ปี กล่าวว่า “เริ่มเล่นวินด์เซิร์ฟตอนอายุ 13 เพราะทางโรงเรียนเปิดรับสมัครนักกีฬาโรงเรียน ตอนนั้นไม่รู้ด้วยซ้ำว่ากีฬาวินด์เซิร์ฟเป็นอย่างไร แต่ก็ไปสมัครเพราะว่าชอบทะเลและกีฬาทางน้ำ จากนั้นก็ตั้งใจฝึกหนักมาตลอด และได้มีโอกาสเดินทางไปแข่งหลายๆ ที่ จนล่าสุดได้แชมป์โอลิมปิกเยาวชนที่สิงคโปร์ ปี 2010 ถือว่ากีฬาวินด์เซิร์ฟได้มอบประสบการณ์ที่ดีมากให้กับชีวิต ะอยากเชิญชวนน้องๆโดยเฉพาะน้องๆผู้หญิงให้มาเล่นวินด์เซิร์ฟให้มากขึ้นและขอยืนยันว่าวินด์เซิร์ฟไม่หนักเกินไปสำหรับผู้หญิงแน่นอน”

อีกหนึ่งในเสียงสะท้อนจากบรรดานักกีฬาเยาวชนทั้งเรือใบเล็กและวินด์เซิร์ฟ คือความต้องการด้านสปอนเซอร์สนับสนุนการฝึกซ้อมและการเดินทางไปแข่งขันต่างประเทศ เนื่องจากทั้งเรือใบเล็กและวินด์เซิร์ฟต่างเป็นกีฬาที่ต้องใช้อุปกรณ์ราคาสูง และจำเป็นต้องตระเวนไปแข่งขันเพื่อเก็บประสบการณ์ในสนามที่แตกต่างกันหลายๆประเทศ จึงจะได้เปรียบคู่แข่ง ซึ่งภูเก็ตคิงส์คัพรีกัตต้าถือเป็นอีกหนึ่งรายการที่ช่วยสนับสนุนและสร้างเวทีการแข่งขันระดับโลกสำหรับนักแข่งรุ่นเยาว์เหล่านี้มาอย่างต่อเนื่อง

ความหลากหลายของกีฬาทางน้ำในรายการภูเก็ตคิงส์คัพรีกัตต้า จึงถือว่ามีความสำคัญอย่างยิ่งทั้งในแง่ของการสร้างสีสันที่แตกต่างให้แก่แวดวงกีฬาทางน้ำ เพื่อช่วยให้งานภูเก็ตรีกัตต้ามีการเติบโตและแพร่หลายอย่างต่อเนื่อง ส่วนอีกนัยหนึ่งถือเป็นการแสดงถึงศักยภาพของจังหวัดภูเก็ตและประเทศไทย เพื่อการพัฒนาสู่การเป็นศูนย์รวมกีฬาทางน้ำแห่งภูมิภาคเอเชียในอนาคต

******************************************************************************************************************************
ณัชญ์สรัล สิทธิโชควโรดม PR Executive วิวาลดี้ พับลิค รีเลชั่นส์ โทรศัพท์: +66 (0) 85 956 7889 แฟกซ์: +66 (0) 2612 2254
อีเมล์: natsaran.s@vivaldipr.com เว็บไซต์: www.vivaldipr.com

Related contents:

You may also like...