พลอยจันทร์ วิฑูรชาติ เติบโตมากับครอบครัวของเธอที่ประกอบธุรกิจด้านอสังหาริมทรัพย์ ส่งผลให้เธอเลือกศึกษาในระดับปริญญาตรีในสาขาการออกแบบตกแต่งภายในจากคณะสถาปัตยกรรมศาสตร์และการออกแบบ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี พ่วงตำแหน่งอาจารย์ของคณะสถาปัตยกรรม มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ด้านครอบครัวสมรสกับนายถวนันท์ ธนเดชสุนทร ทายาทธุรกิจอสังหาริมทรัพย์อันดับต้นๆของเมืองไทย บุตรชายบิ๊กจ๊อด(พล.อ.สุนทร คงสมพงษ์) อดีตผู้บัญชาการทหารสูงสุด, อดีตประธานคณะรักษาความสงบเรียบร้อยแห่งชาติ (รสช.) และคุณยุ้ย ชุติกาญจน์(ชื่อเดิม อัมพาพันธ์) ธนเดชสุนทร ฉายาสตรีสองพันปี
วันวานที่เธอเป็นนักศึกษาเธอเล่าให้ฟังว่า เธอโชคดีได้มีโอกาสฝึกงานที่บริษัทด้านการออกแบบชั้นนำอย่างบริษัท สถาปนิก 49 จำกัด จากนั้นไปศึกษาต่อระดับปริญญาโท ในสาขาการออกแบบและเทคโนโลยี ที่ Parsons School of Design วิทยาลัยด้านการออกแบบชั้นนำในนิวยอร์ค สหรัฐอเมริกา และไปศึกษาต่อ Program Advanced Architecture and Design (MSAAD) ทางด้านสถาปัตยกรรมขั้นสูงและการออกแบบเพิ่มเติมที่มหาวิทยาลัยโคลัมเบีย สหรัฐอเมริกา ซึ่งเป็นมหาลัยติดอันดับท็อป 5 ของประเทศสหรัฐอเมริกาอีกด้วย”
ด้วยความคร่ำหวอดในความเป็นนักออกแบบผนวกกับช่วยธุรกิจด้านอสังหาริมทรัพย์ของทั้งสองครอบครัว เธอจึงมีแนวคิดที่จะขยายธุรกิจเพิ่มขึ้นอีก เพื่อ support ธุรกิจหลักโดยอาศัยความชอบส่วนตัวที่รักในงานดีไซน์และตกแต่งในวันนี้เธอคือ “กรรมการผู้จัดการแห่ง Roger & Belle” แบรนด์ผลิตภัณฑ์ไลฟ์สไตล์และสินค้าตกแต่งบ้านสไตล์คลาสสิคร่วมสมัย โดยนำเข้ามาจากหลายประเทศทั่วโลก เธอสร้างภาพลักษณ์ให้กับแบรนด์โดยที่ “First step ที่ลูกค้าเข้าไปพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า ไม่น่าเชื่อว่าจะมีร่านแบบนี้อยู่ในเมืองไทย บรรยากาศเรียบง่าย สบายๆ ผสมผสานความร่วมสมัยของวัฒนธรรมและของประดับตกแต่งที่ดูหรูหราร่วมสมัย เสียงตอบรับจากลูกค้าจำนวนมากว่าเป็นสินค้าที่ “luxurious together with reasonable price” ภาพแรกที่เห็นอาจทำให้หลายคนตกใจว่าราคาต้องสูงลิบลิ่ว ซึ่งในความเป็นจริงแล้วเมื่อลูกค้าซื้อแล้วก็ต้องกลับมาซื้ออีก ลูกค้าเกือบครึ่งเป็นชาวยุโรปและคนไทย ซึ่งบางทีถึงขนาดให้เธอไปช่วยตกแต่งภายในที่พักอาศัยอีกด้วย”
นึกถึงภาพความเป็นอาจารย์ของสุภาพสตรีที่ใบหน้าเต็มไปด้วยรอยยิ้มตลอดเวลาได้ไม่กระจ่างชัดนัก จึงจำเป็นต้องถามในบทบาทความเป็นอาจารย์ของเธอ เธอออกตัวว่าเธอเป็นอาจารย์ที่ Cut & clear มีความเป็นระบบและเป็นระเบียบ สมเหตุสมผล ทั้งที่ในใจเธอทราบดีอยู่แล้วว่าอาจารย์ดุไม่เป็นที่พึงพอใจเท่าไรนักแต่เธอเองอยากให้เด็กได้ความรู้อย่างเต็มที่ เธอกล่าวว่ามองภาพเธอเองในสมัยเป็นนักศึกษามีอาจารย์ท่านหนึ่งของเธอดุมาก เธอได้รับความรู้และอื่นๆจากท่านนี้มามากกว่าอาจารย์ท่านอื่นๆ
ในปีพ.ศ.2553 เธอร่วมงานกับบริษัท สยามฟิวเจอร์ ดีเวลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน) ในด้านการพัฒนาธุรกิจ รับผิดชอบดูแลการก่อสร้างและการตกแต่งในโครงการ “เมกะบางนา” เมกะโปรเจคยักษ์ใหญ่ของบริษัทฯ จากนั้นในเดือนตุลาคม พ.ศ.2554 ดำรงตำแหน่งผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ บริษัท ดีเวล แกรนด์ แอสเสท จำกัด โดยกำกับดูแลโปรเจคคอนโดมีเนียมที่พักอาศัยย่านใจกลางทองหล่อ และบนถนนราชพฤกษ์และโปรเจคอื่นๆภายใต้แบรนด์ “ดีเวล” เธอเองคุมบังเหียน 3 โครงการ คือ D25, D65 และหมู่บ้าน D-Habitat ย่านถนนราชพฤกษ์ โดยเน้นภาพรวมของโครงการว่าต้องสร้างความประทับใจแรกพบแก่แขกผู้เดินเข้ามา ไม่ว่าจะเป็นบรรยากาศโดยรวม ต้นไม้ สิ่งอำนวยความสะดวก ฯลฯ 179 ยูนิตกับการเปิดจำหน่ายไม่ถึงปี เธอเน้นย้ำถึงความไว้วางใจที่ได้รับจากลูกค้าเธอลงทุนจ้างบริษัทนิติบุคคลอย่าง HBMI ซึ่งแพงที่สุดในการบริหาร ซึ่งก่อนหน้านี้เธอเคยเลือก Knight franks แต่เธอคิดว่ายังไม่ดีพอในสายตาเธอ เพื่อเป็นการตอบแทนให้กับลูกบ้านที่ไว้วางใจในโครงการฯ เชื่อแล้วว่าเธอเป็นนักบริหารหญิงฝีมือระดับพระกาฬ
เป้าหมายสูงสุดของชีวิตคือ เธอพยายามจะจัดสรรทุกสิ่งรอบกายเธอให้ลงตัวที่สุดทั้งงาน ครอบครัว เพื่อน โดยเธอเองมีคติที่ว่าทำทุกอย่างให้ดีขึ้นในทุกๆวัน ทีมงานถามว่าเคยเหนื่อยไหม เธอตอบว่า “การที่เราตื่นขึ้นมาแล้วเรายังรู้สึกอยากทำงานถือว่าเป็นเรื่องที่ดี เป็นอะไรที่เรียกว่า enjoy มากกว่า อาจมีเหนื่อยบ้างแต่เป็นความเหนื่อยที่ผสมผสานความสนุก ปัญหาเมื่อมีขึ้นต้องค่อยๆแก้ๆ แก้ไม่ได้ก็ทำเอง พ่อดิฉันสอนว่าอะไรถ้าทำเองไม่ได้อย่าทำ” ฉะนั้นทุกอย่างที่เธอคุมบังเหียนอยู่นั้น เธอสามารถรับมือเองได้หมดทั้งสิ้น เธอเสริมว่า “คุณแม่เป็นแรงบันดาลใจ ไม่เคยเห็นใครทำงานได้เท่าแม่อีกแล้ว ขนาดปฏิวัติ(โดย พล.อ.สนธิ บุญยรัตกลิน พ.ศ.2549)ยังขับรถไปสอนหนังสือ (คณบดีคณะพาณิชยศาสตร์และการบัญชี มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์)” ท่ามกลางความเป็นห่วงของคุณพลอยจันทร์ เธอจึงมองว่าการทำงานเป็นสิ่งดี สิ่งหนึ่งที่น่าทึ่งกับสุภาพสตรีชื่อ “พลอยจันทร์ วิฑูรชาติ” คือ ไม่ว่าจะหยิบจับอะไรก็ประสบความสำเร็จและได้รับผลตอบรับดีเกินคาดทุกอย่าง “อาจเป็นเพราะว่าเราลงมือทำเอง อย่างเลือกของเข้าร้าน Roger & Belle ตอนนั้นอยู่จีน ร้านเปิด 9โมงเช้าถึง 5 โมงเย็น เดินเลือกแบบนั้นอยู่ 5 วัน เพื่อให้ได้สิ่งที่ดีที่สุดให้กับลูกค้ามากที่สุด สนุกสนานมาก ไม่เคยดำรงชีวิตด้วยความกลัว มองว่าตัวเราเองอยู่ตรงไหน แล้วเราสามารถ survive ได้ไหม มี target ที่จะโตได้ไหม ถ้าได้ลงมือทันที”
เธอมีความสนุกกับทุกอย่าง เมื่อถามถึงครอบครัว “ในเวลาว่างเธอจะประกอบอาหารร่วมกับกับสามี ดูโทรทัศน์ควบคู่กับการจิบแชมเปญ บางครั้งก็สังสรรค์กับเพื่อนบ้างในบางโอกาส ในหน้าที่รับผิดชอบทุกวันนี้มีความสุขมาก เลือกที่จะก้าวต่อไปเรื่อยๆ จะแตกยอดได้อย่างไร อีกหน่อยอาจแตกเป็นแบรนด์เฟอร์นิเจอร์ของตนเอง” ในขณะที่ประชากรกว่าค่อนประเทศไทยกังวลกับเศรษฐกิจขาลง ด้วยประสบการณ์ทางด้านอสังหาริมทรัพย์และการพัฒนาแบรนด์เฟอร์นิเจอร์ที่สั่งสมมามากกว่า12 ปี บวกกับความเป็นนักบริหารมืออาชีพ เธอคิดทางขวางว่าธุรกิจรายใหญ่ๆต่างก็หาวิธี survive มีธุรกิจแตกย่อยมารองรับทำให้เกิด SME มากมาย เกิดการหมุนเวียนของรายได้ภายในประเทศ
ปิดท้ายการสนทนาด้วยแง่คิดที่คิดที่จะสู้ของหญิงเก่งและแกร่ง ซึ่งอาจเป็นแรงบันดาลใจให้หลายๆท่านได้มีความคิดและก้าวสู่สำเร็จด้วยใจที่เข้มแข็ง และมุมานะเช่นสุภาพสตรีที่ชื่อพลอยจันทร์ท่านนี้