The Oriental Bangkok

นับจากอดีตกระทั่งปัจจุบัน เป็นเวลา 130 ปีแล้วที่ โรงแรมโอเรียนเต็ล อยู่คู่กับสายน้ำเจ้าพระยาในฐานะโรงแรมอันดับหนึ่งของประเทศไทยและของโลก การันตีด้วยระดับ 5 ดาว++ ที่ผู้มาเยือนระดับ VIP จากทั่วทุกมุมโลกต่างได้รับความประทับใจกลับไปไม่รู้ลืม จนอาจกล่าวได้ชื่อของ THE MADARIN ORIENTAL BANGKOK เป็นหนึ่งในชื่อเสียงของประเทศไทยในความรับรู้ของชาวต่างชาติด้วยดีตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา

หากจะใช้สายตาของสถาปนิกพิจารณาถึงความโดดเด่นทางสถาปัตยกรรม อาคารโรงแรมโอเรียนเต็ลอาจไม่ใช่สถาปัตยกรรมที่มีรูปแบบสะดุดตาที่สุด ท่ามกลางเหล่าอาคารพักอาศัยชั้นดีและโรงแรมมากมายริมฝั่งเจ้าพระยา แต่เพราะคุณค่าของโรงแรมไม่ได้ตัดสินกันเพียงแค่สิ่งก่อสร้างหรืออาคารสถานที่เท่านั้น หากประกอบด้วยคุณภาพของการบริการอันเป็นเลิศ นักท่องเที่ยวผู้มีรสนิยมและเหล่าบุคคลสำคัญที่ได้มาสัมผัสต่างรู้ดีว่า มาตรฐานการบริการในระดับ WORLD CLASS ตามแบบฉบับของโอเรียนเต็ลนั้น เป็นต้นแบบของการให้ในสิ่งดีที่สุดและแน่นอนว่าจะต้องเหนือกว่าความคาดหมาย ซึ่งส่วนผสมหลักของการบริการระดับคุณภาพที่ไม่มีผู้ใดสามารถลอกเลียนแบบได้นี้มาจากเสน่ห์ของน้ำใจในแบบไทยๆ บุคลิกอันนอบน้อมของเหล่าบุคลากรระดับมืออาชีพ ที่ไม่เพียงจะได้รับการฝึกฝนในด้านทักษะมาเป็นอย่างดี แต่ยังเปี่ยมด้วยทัศนคติและหัวใจของนักบริการอย่างแท้จริง

ความประทับใจเริ่มต้นตั้งแต่ขับรถไปจอดเทียบประตูทางเข้าโรงแรม รอยยิ้มมาพร้อมบริการเปิดประตูรถและยกกระเป๋า เราสามารถเดินตัวเปล่าเข้าสู่ล็อบบี้เพื่อเช็ค-อินได้อย่างไร้กังวล รับไหว้ทักทายจากเจ้าบ้านและรับพวงมาลัยแสดงการต้อนรับแบบไทย ก่อนรับไหว้งามๆ จากพนักงานที่ช่วยอำนวยความสะดวกหน้าประตูลิฟต์ที่ส่งเราขึ้นลิฟต์สู่ห้องพัก เพื่อพบกับความประทับใจอย่างเหนือชั้นจาก BUTLERหรือพ่อบ้านประจำชั้น ที่มีหน้าที่คอยให้การต้อนรับ ดูแล อำนวยความสะดวก และให้บริการทุกสิ่งที่เราปรารถนา โดยหาใช่ด้วยกิริยาหุ่นยนต์ที่คอยแต่รับคำสั่ง หากเปี่ยมด้วยไมตรีจิต สามารถพูดคุยและให้คำแนะนำอย่างเป็นกันเอง กระนั้นก็แฝงไว้ด้วยการให้เกียรติ คุณพ่อบ้านนี้จะดูแลแขกผู้เข้าพักทุกห้องในชั้นที่ตัวเองรับผิดชอบ จึงต้องคอยใส่ใจเก็บรายละเอียดความพึงพอใจของลูกค้าทุกแง่มุม และช่วยเติมเต็มความสุขให้จนอิ่มเอม

การตกแต่งภายในห้องพักของโอเรียนเต็ลแม้จะมีความแตกต่างในด้านคอนเซ็ปต์ และรายละเอียดที่หลากหลายตามระดับราคาและประเภทของห้องพัก แต่ก็คงไว้ซึ่งความวิจิตรงดงามในรูปแบบตะวันออก ซึ่งมีทั้งห้องพักที่ตกแต่งประดับประดาในลีลาแบบไทยคลาสิคสุดอลังการและห้องพักที่ตกแต่งในแบบร่วมสมัย ครบครันด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกตามมาตรฐานโรงแรมห้าดาว เพื่อตอบสนองความสุขสำราญและความเป็นส่วนตัวให้กับเหล่ากับผู้มีรสนิยมกระเป๋าหนัก ที่ไม่เคยเหนื่อยล้ากับการแสวงหาสุนทรีย์ให้กับชีวิต

เหตุผลแห่งความเป็นที่หนึ่งของโอเรียนเต็ล จุดหนึ่งที่เห็นได้ชัด คือการตระหนักถึงการพักผ่อนของแขกผู้เข้าพักเป็นสำคัญ ซึ่งได้สะท้อนออกมาในรูปของกิจกรรมนานาที่มีไว้คอยบริการแขกชนิดที่เรียกได้ว่าแขกแทบไม่ต้องออกไปไหนเลย

ด้วยความที่แขกส่วนหนึ่งจะมาพักเป็นครอบครัว จึงเป็นธรรมดาที่จะเห็นภาพพ่อแม่จูงลูกหลานเข้าพัก ซึ่งทางโรงแรมก็จัดให้มีห้องเลี้ยงเด็กหรือ DAYCARE CENTER รับดูแลบุตรหลานของแขกตั้งแต่ที่เป็นแบเบาะไปจนถึงวัยซนที่ชอบเล่นเกมส์คอมพิวเตอร์ ภายใต้ความดูแลของพี่เลี้ยง เป็นบริการหนึ่งที่ทำให้พ่อแม่ผู้ปกครองสามารถไปใช้เวลาทำกิจกรรมต่างๆ เพื่อการพักผ่อนได้อย่างไร้กังวล

ภายใน โอเรียนเต็ล มีร้านอาหารอร่อยเลื่องชื่อไว้รองรับแขกมากมายหลายร้าน ทั้งภายในอาคารและร้านอาหารกลางแจ้งริมแม่น้ำ รวมถึงร้านพิเศษที่เปิดเฉพาะบางฤดูกาลอย่าง CHAO ร้านอาหารอิตาเลี่ยนบนเทอเรซริมแม่น้ำ ที่ให้บริการในฤดูหนาว รับลมเย็นจากแม่น้ำเจ้าพระยาแสนสดชื่น โดยเฉพาะบรรยากาศช่วงพลบค่ำ ขณะอาทิตย์อัสดงทอแสงทาบทาผืนน้ำ และหากจังหวะเหมาะๆ เราอาจได้ชมพลุสวยหลากสีที่จุดมาจากร้านอาหารหรือโรงแรมแห่งอื่นๆ แม้ไม่บ่อยแต่ก็ไม่ขาดแคลน เป็นอาหารตาขณะที่เริงรสอยู่กับอาหารสุดพิเศษ และไวน์รสละมุน

จานเด็ดที่แนะนำมีชื่อว่า BRIASE OX CHEEK แปลตามตัวคือเนื้อแก้มวัวตุ๋น ซึ่งเป็นเนื้อส่วนที่มีไขมันมากและหาซื้อยาก วิธีปรุงคือนำเนื้อมาตุ๋นกับไวน์ ทิ้งไว้ร่วมวัน จะได้เนื้อที่นุ่มแทบจะละลายในปากได้ รับประทานแกล้มกับไวน์ ซึ่งที่นี่ก็มีไวน์ชั้นดีจากทั่วทุกมุมโลกเรียงรายมาให้เลือกตามรสนิยมในไวน์ ลิสต์ หรือถ้าเลือกไม่ถูกก็สามารถขอคำแนะนำดีๆจากบริกรประจำโต๊ะได้

หนึ่งในบรรดาร้านอาหารที่ขึ้นชื่อที่สุดของโอเรียนเต็ลคือ ลอร์ด จิม ซึ่งมีที่มาจากชื่อตัวละครเอกลูกทะเลในนวนิยายชื่อเดียวกันของนักเขียนชื่อก้องโลก โจเซฟ คอนราด เหตุนี้จึงไม่ต้องแปลกใจ ที่ทางโรงแรมจะเลือกตกแต่งร้านด้วยคอนเซ็ปต์ทะเล ชัดเจนตั้งแต่ทางเข้าร้านที่เป็นตู้ปลาทะเลยาวเหยียด มีกระจกใสมองออกไปเห็นวิวแม่น้ำในมุมกว้าง ตกแต่งพื้นด้วยสีฟ้าน้ำเงินประดับลายคล้ายคลื่นได้อารมณ์ รวมถึงลูกปัดให้ความรู้สึกผ่อนคลายที่ห้อยรายล้อมดวงไฟบนเพดาน ไม่เพียงแค่นั้น หากแต่จานอาหาร กระทั่งถึงช้อนส้อมหรือมีดก็สร้างสรรค์ขึ้นจากแนวคิดทะเลเช่นกัน

เมนูเด่นของ ลอร์ด จิม เป็นอาหารทะเล หลักๆ คืออาหารญี่ปุ่นและอาหารฝรั่ง แขกส่วนใหญ่โดยเฉพาะชาวไทยนิยมแวะมาที่นี่เพื่อลิ้มลองบุฟเฟ่ต์อาหารกลางวัน ส่วนบรรยากาศของ ลอร์ด จิม ในชั่วโมงดินเนอร์นั้นจะให้ความรู้สึกหรูหราเป็นพิธีการมากกว่าในแบบ ? LA CARTE เรียกน้ำย่อยกันที่ซูชิบาร์เลื่องชื่อ และที่ถูกอกถูกใจคอซาชิมิก็คงไม่พ้น โทโร่ หรือเนื้อส่วนท้องของปลาทูน่าที่อุดมด้วยไขมัน ซึ่งด้วยความสดกอปรกับอุณหภูมิภายในร้าน เมื่อคีบชิ้นปลาแตะลิ้น ก็รู้สึกทันทีได้ถึงความสุขที่กำลังละลายอยู่ในปาก

จานหลักที่น่าจะถูกใจคนรักสุขภาพคือ สเต็กปลาคอดราดซอสเทอริยากิ เสิร์ฟพร้อมแตงกวาซอยฝอยปั้นเป็นก้อน พร้อมข้าวปั้น เป็นอาหารญี่ปุ่นที่ตกแต่งในสไตล์ตะวันตก แต่ถ้าเป็นคนชอบเนื้อต้องลอง วากุสเต็ก เนื้อวัวชั้นดีจากออสเตรเลียที่ได้รับการเลี้ยงดูอย่างเป็นพิเศษ จนให้เนื้อสเต็กที่มีความหอมพิเศษและรสชาตินุ่มลิ้น

ตบท้ายด้วยของหวานที่หลายคนคุ้นเคยเป็นอย่างดีคือ ทิรามิซึ ที่มาในลีลาสร้างสรรค์ตามตำรับเฉพาะของโอเรียนเต็ล คือเสิร์ฟแยกเค้ก, ครีม และกาแฟต่างหาก คงจะไม่เกินเลยนักหากจะกล่าวว่า ความประทับใจแรกจากการได้สัมผัสทั้งรสชาติอาหาร ภายใต้การนำเสนองดงามอย่างมีเอกลักษณ์ ที่มาจากการบริการชั้นเยี่ยม สำหรับมื้อค่ำที่ปิดฉากลงด้วยกลิ่นกาแฟหอมกรุ่นในค่ำคืนพิเศษนี้ ให้ความรู้สึกอิ่มใจไม่ต่างกับการได้สัมผัสงานศิลปะชั้นยอด

หลังการพักผ่อนอันสุนทรีย์ เริ่มต้นเช้าใหม่ที่ THE VERANDAH ร้านอาหารที่มีพื้นที่รองรับแขกทั้งข้างในและข้างนอกชมวิวแม่น้ำ บุฟเฟ่ต์อาหารเช้ามีให้เลือกรับประทานมากมายตามความชอบ สัมผัสบรรยากาศสดชื่นริมน้ำยามเช้าใต้ท้องฟ้าสีครามสด เคล้าเสียงคลื่นน้ำ เรือยนต์ และฝูงปลาตัวโตกระโดดเล่นน้ำตูมตามเป็มที่น่าตื่นตาตื่นใจสำหรับชาวต่างชาติ กิจกรรมการพักผ่อนในวันอันแสนสบายคงไม่มีอะไรดีไปกว่านั่งเอกเขนกริมสระน้ำ ปล่อยให้เวลาผ่านไปช้าๆ จิบค็อกเทลแก้วโปรด รับอาหารว่างเบาๆ ละเลียดมื้อเที่ยงง่ายๆริมสระเล็กที่มีรอยยิ้มและเสียงหัวเราะของเด็กๆเป็นเครื่องชูรส และแน่นอนว่าเราจะอยู่ในรัศมีการดูแลอย่างดีพร้อมจากผู้ให้บริการที่ไม่เคยอ่อนล้า กับภารกิจมอบความสุขให้กับแขกคนสำคัญตลอดชั่วโมงพักผ่อน เพียงแต่ต้องรีบจองพื้นที่แต่เช้า ไม่เช่นนั้นจะเต็ม เพราะมุมพักผ่อนริมสระเล็กน่าจะเป็นบริเวณที่มีบรรยากาศดีที่สุดสำหรับการอ้อยอิ่งกลางแจ้งในยามบ่าย แต่ถ้าชอบพักผ่อนในร่ม ก็อาจแวะไปจิบน้ำชาที่ THE AUTHORS’S LOUNGE หรือ ไปผ่อนคลายในสปา ซึ่งก็ต้องเข้าใจว่า การจะเข้าถึงสิ่งดีๆของโอเรียนเต็ลให้ครบถ้วนทุกรายละเอียด คงต้องใช้เวลาพอสมควร

เวลาแห่งความสุขมักผ่านไปรวดเร็วเสมอ แต่ทุกวินาทีที่งดงามก็มีค่าคู่ควรแก่การจดจำ ไม่ว่าการมาเยือนโอเรียนเต็ลของคุณจะเป็นการพักระหว่างการเดินทางเพื่อธุรกิจช่วงสั้นๆหรือการพักผ่อนที่ยาวนาน การได้ใช้เวลาส่วนหนึ่งมาสัมผัสประสบการณ์ในบรรยากาศที่ดีเลิศ และผู้ให้บริการมืออาชีพที่มีอัธยาศัยงดงามในแบบไทยๆ ของโอเรียนเต็ลนี้ จึงไม่ใช่เพียงอีกหนึ่งประสบการณ์แห่งความสุขสำราญ หรือการผ่อนคลาย แต่ยังเป็นประสบการณ์ที่ผู้รับรู้สึกเป็นเกียรติ ด้วยการให้ความสำคัญในฐานะคนพิเศษ เมื่อได้รับการดูแลเอาใจใส่ปรนนิบัติในฐานะบุคคลสำคัญจากเจ้าบ้านผู้ทรงเกียรติ ในเวลาเดียวกัน

+++++++++++++++++++++++++++++++++++

Hotel Name: The Oriental Bangkok   ดิ โอเรียนเต็ล แบ็งค็อก

Address : 48 Oriental Avenue Bangkok, Thailand 10500

Tel : +66 (2) 659 9000

Fax : +66 (2) 659 9284 / 659 9285

Email : mobkk-reservations@mohg.com

Website : http://www.mandarinoriental.com/bangkok/

Related contents:

You may also like...