เชฟแอนดี้ ยังเอกสกุล ผู้โด่งดังจากร้าน Table 38 เขาคือเชฟชาวไทยคนแรกที่เคยได้มิชลินหนึ่งดาวจากร้านโรงเตี๊ยม (Rhong-Tiam) ร้านอาหารไทยในมหานครนิวยอร์ก
Andy Yang เป็นที่รู้จักในกลุ่มนักชิมชาวนิวยอร์ก ผู้ก่อตั้งและหัวหน้าพ่อครัวของร้านอาหาร 1-Michelin-Star Rhong-Tiam และร้านอาหาร Table 38 และ PAD THAI Fai Ta Lu
เขาเป็นที่รู้จักในฐานะไอคอนของอาหารไทยและมีความสุขที่ได้ถ่ายทอดความหลงใหลนี้สู้นักชิมของเขา เชฟแอนดี้เข้าใจรู้วิธีการทำอาหารไทยในสไตล์ Authentic Thai Cuisine อย่างท่องแท้ เข้าใจขั้นตอนการทำที่ละเอียดอ่อนซับซ้อนเพื่อที่จะสรรค์สร้างให้เกิดรสสัมผัสที่สมบูรณ์แบบให้กับอาหารแต่ละเมนู จากมุมมองของเขาเองที่แปลก โดดเด่น ไม่เหมือนใคร เขาตีโจทย์ได้ดีและเข้าใจองค์ประกอบสำคัญ จึงเข้าถึงความเป็นเอกลักษณ์ทั้งทางด้านวัฒนธรรมและกรรมวิธีการทำอาหารไทย เขาสร้างความรื่นรมย์ไปกับจิตวิญญาณแห่งความเป็นไทยผ่านรสชาติอาหารไทยต้นตำรับ
เชฟแอนดี้ กล่าวว่า “ศิลปะการทำอาหารเปรียบเหมือนการวาดภาพผลงานศิลปะหรือการแต่งผลงานดนตรีชิ้นเอก “คุณต้องปรับแต่งโน้ตดนตรี สี หรือส่วนผสมอาหารแต่ละชิ้น ทุกองค์ประองค์ประสานกันอย่างเชี่ยวชาญ การเดินทางก็เช่นเดียวกัน เริ่มต้นจากการคัดสรรวัตถุดิบในท้องถิ่น นำทุกอย่างมารวมกันโดยผ่านขั้นตอนการเตรียมอย่างพิถีพิถัน และการนำเสนออย่างรอบคอบเพื่อกระตุ้นประสาทสัมผัสทั้งห้า”
ด้วยมุมมองที่เกี่ยวกับอาหารไทยไม่เหมือนใคร เชฟแอนดี้ ยัง ใช้ความรู้และความเข้าใจอย่างลึกซึ้ง ประสบการณ์ในการรับประทานอาหารแบบไทยแท้ๆ ผนวกกับพรสวรรค์โดยธรรมชาติของเขาเกี่ยวกับศิลปะการทำอาหารและเทคนิคที่ได้รับจากห้องครัวในนิวยอร์ก เจตนารมณ์อันแน่วแน่ที่จะมอบประสบการณ์ด้านอาหารให้กับทุกท่านในแต่ละจานเสมือนการได้เดินทางเพื่อผจญภัยไปทั่วมุมโลก และคติประจำร้านของผม คือ จงใช้ประสบการณ์ของเมื่อวาน ถ่ายทอดเรื่องราวในวันนี้ (Using today’s knowledge to tell yesterday’ story”)
เมื่อเวลาผ่านพ้นไป เชฟแอนดี้เรียนรู้ได้ว่าความสมบูรณ์ของการทำอาหารไทยได้รับผลกระทบจากอิทธิพลทางเศรษฐกิจและวัฒนธรรมในช่วงหลายปีที่ผ่านมา แต่เชฟแอนดี้ยังมุ่งมั่นที่จะครีเอทเมนูเพื่อมอบประสบการณ์อาหารแบบไร้ขีดจำกัด เน้นความสมดุลของอาหารรสชาติเข้มข้นและจัดจ้าน ทั้งรสเผ็ดหวาน ยังคงรักษาต้นตำรับเดิม ถือเป็นมรดกล้ำค่าของบรรพบุรุษที่ได้ถ่ายทอดต่อกันมา ต้องใช้ความประณีตและพิถีพิถัน เชฟแอนดี้ได้พัฒนาความสามารถทั้งพรสวรรค์ในด้านศิลปะการทำอาหารผนวกกับความสำเร็จด้านการศึกษาในการสาขาบริหารธุรกิจมหาบัณฑิตรวมทั้งการเลี้ยงดูอบรมสั่งสอนจากครอบครัวของเขา แอนดี้ได้กล่าวถึงศิลปะการทำอาหารเปรียบเหมือนการวาดภาพผลงานศิลปะหรือการแต่งผลงานดนตรีชิ้นเอก “คุณต้องปรับแต่งโน้ตดนตรี สี หรือส่วนผสมอาหารแต่ละชิ้น ทุกองค์ประองค์ประสานกันอย่างเชี่ยวชาญ การเดินทางก็เช่นเดียวกัน เริ่มต้นจากการคัดสรรวัตถุดิบในท้องถิ่น นำทุกอย่างมารวมกันโดยผ่านขั้นตอนการเตรียมอย่างพิถีพิถัน และการนำเสนออย่างรอบคอบเพื่อกระตุ้นประสาทสัมผัสทั้งห้า”
เชฟแอนดี้มุ่งมั่นในการสืบทอดวัฒนธรรมและกรรมวิธีการทำอาหารจากคนรุ่นก่อน หัวหน้าพ่อครัว (Chef de Cuisine) ทุกคนที่ได้ทำงานร่วมกับเชฟแอนดี้ในร้านอาหารทุกร้านในเมืองไทยมานานหลายปี ต่างได้รับการฝึกฝนอย่างเต็มรูปแบบ ซึ่งทุกคนต้องเข้าใจวิสัยทัศน์ของเชฟแอนดี้และถ่ายทอดวัฒนธรรมและกรรมวิธีผ่านเมนูอาหาร รวมทั้งการปฏิบัติร้านอาหารของเขาจนได้รับการรับรองว่าเป็นหัวหน้าพ่อครัวฝีมือคุณภาพ
“ผมเติบโตขึ้นมาในกรุงเทพฯ เมืองที่มีวัฒนธรรมที่หลากหลาย ผมได้รับอิทธิพลจากเรื่องราวที่เกิดขึ้นในอดีต ความขัดแย้งของมรดกทางวัฒนธรรม ภาษาพื้นเมือง และวัฒนธรรมของสตรีทฟู้ดที่ไม่ซ้ำใคร สำหรับเรื่องอาหาร ผมเชื่อว่าทุกจานอาหารนั้นเป็นเครื่องมือในการสื่อสาร ไม่ใช่แค่รสชาติของมันเท่านั้น การได้ตีความหมายใหม่และแนะนำสิ่งเหล่านี้ให้กับนักชิมและคนรุ่นใหม่ทำให้ผมพึงพอใจเป็นอย่างมาก” เชฟแอนดี้ กล่าว
#ChefAndyYang #เชฟแอนดี้ยัง #StRegisBangkok #ThaiFood#MichelinStar