หม่อมเจ้ามารศีสุขุมพันธุ์ บริพัตร ทรงเป็นพระธิดาพระองค์เดียวของพระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าจุมภฏพงษ์บริพัตร กรมหมื่นนครสวรรค์ศักดิพินิต และหม่อมราชวงศ์พันธุ์ทิพย์ (เทวกุล) บริพัตร ประสูติเมื่อปี ๒๕ สิงหาคม พ.ศ. ๒๔๗๔
หม่อมเจ้ามารศีฯ ทรงมีพระอัจฉริยภาพหลายด้าน อาทิ อักษรศาสตร์ ประวัติศาสตร์ศิลป์ วาดภาพ และดนตรี ทรงสำเร็จการศึกษาในระดับปริญญาเอกในสาขาวรรณคดีจากมหาวิทยาลัย ณ กรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส และปริญญาเอกในสาขาประวัติศาสตร์ศิลปะ จากมหาวิทยาลัยแห่งมาดริด จากนั้นได้ทรงงานในแวดวงวิชาการอยู่ระยะหนึ่ง ก่อนเริ่มทรงศึกษาศิลปะด้วยพระองค์เอง และทรงสร้างสรรค์ผลงานภาพเขียนที่โดดเด่น งดงามเหนือจินตนาการ สะท้อนปรัชญาชีวิต จนมีผลงานเป็นที่ประจักษ์ในระดับสากล
หม่อมเจ้ามารศีฯ ทรงใช้ชีวิตอย่างเรียบง่ายที่พระตำหนักใน Annotเมืองเล็กๆ ทางตอนใต้ของฝรั่งเศสกว่า ๔๐ ปี แวดล้อมไปด้วยดอกไม้ ลำธาร และสัตว์เลี้ยงนานาชนิด ซึ่งเป็นองค์ประกอบที่สำคัญยิ่งในภาพเขียนของท่านเสมอมา หลังจากประชวรเมื่อปี ๒๕๔๗ จึงไม่ทรงสามารถสร้างสรรค์งานศิลปะได้เช่นเดิม แต่ยังคงประทับ ณ พระตำหนัก “Vellara” ในเมือง Annotประเทศฝรั่งเศส ท่ามกลางธรรมชาติ เสียงดนตรี และสัตว์เลี้ยง จวบจนวาระสุดท้ายของพระชนม์ชีพ เมื่อวันที่ ๙ กรกฎาคม ๒๕๕๖
มูลนิธิหม่อมเจ้าหญิงมารศีสุขุมพันธุ์ บริพัตร จัดตั้งขึ้นเมื่อปี ๒๕๕๒ เพื่อส่งเสริมการศึกษาด้านศิลปะในประเทศไทย และดำเนินกิจกรรมสงเคราะห์สัตว์ ที่ผ่านมามูลนิธิฯ ได้จัดแสดงนิทรรศการภาพเขียนฝีพระหัตถ์ของหม่อมเจ้ามารศีฯ ในประเทศไทยมาแล้ว ๒ ครั้ง เมื่อปี ๒๕๕๓ และปี ๒๕๕๖ นอกจากนี้ ยังได้จัดทำหนังสือภาพวาดฝีพระหัตถ์ ๓ ภาษา (ไทย อังกฤษ ฝรั่งเศส) มอบทุนการศึกษาให้แก่นักศึกษาด้านศิลปะในระดับปริญญาตรีต่อเนื่องมาตั้งแต่ปี ๒๕๕๔ตลอดจนให้การสนับสนุนนิทรรศการแสดงผลงานศิลปะของนักศึกษาและศิลปินรุ่นใหม่ในหอศิลป์ต่างๆ
ในแวดวงศิลปะผลงานจิตรกรรมของหม่อมเจ้ามารศีสุขุมพันธ์บริพัตรล้วนได้รับการยกย่องทั้งในแง่ของความละเอียดอ่อนมีจินตนาการและใช้ภาพสัญลักษณ์ที่แฝงปรัชญาผสมผสานรวมกันจากแนวคิดทั้งตะวันออกและตะวันตก
ที่ผ่านมามูลนิธิหม่อมเจ้าหญิงมารศีสุขุมพันธุ์บริพัตรได้จัดแสดงนิทรรศการภาพเขียนฝีพระหัตถ์ของหม่อมเจ้ามารศีฯในประเทศไทยมาแล้ว 2 ครั้งเมื่อปี พ.ศ.2553 และ พ.ศ.2556 ภายใต้แง่มุมและหัวข้อที่แตกต่างกัน
โดยนิทรรศการภาพเขียนฝีพระหัตถ์ของหม่อมเจ้ามารศีฯ ในครั้งที่ 3 ระหว่างวันที่ 7 พฤศจิกายนถึง 23 ธันวาคมพ.ศ.2561 ผู้ช่วยศาสตราจารย์ดร.ศุภชัย อารีรุ่งเรือง ภัณฑารักษ์นิทรรศการ ได้เลือกหยิบมุมมองเกี่ยวกับการตีความเรื่องสุนทรียศาสตร์ในผลงานของหม่อมเจ้ามารศีฯมานำเสนอผ่านผลงานจิตรกรรมฝีพระหัตถ์ ตลอดจนภาพวาดเส้นวัตถุสิ่งของหนังสือและภาพยนตร์สารคดีส่วนพระองค์ เพื่อสะท้อนให้เห็น “ความงามและความน่าเกลียด : สุนทรียศิลป์แห่งมารศี Beauty and Ugliness : Aesthetic of Marsi โดยตีความออกมาเป็นคำสำคัญ 4 คำผ่านการจัดแสดง 4 ห้องหลักได้แก่
1) ความงาม (Beauty) การสร้างความเข้าใจและตีความผลงานในด้านความงามแบบหม่อมเจ้ามารศีฯผ่านสัญลักษณ์ภาพแทนจากดอกไม้สัตว์เลี้ยงคนรวมถึงตัวบทวรรณกรรม
2) ความน่าเกลียด (Ugliness)แสดงผลงานที่มีเนื้อหาเกี่ยวกับการใช้ภาพสัญลักษณ์ของความน่าเกลียดความตายความอัปลักษณ์ของรูปกายที่ไม่จีรังโครงกระดูกภาพครึ่งคนครึ่งสัตว์ราวกับการสร้างอุปลักษณ์ให้ปรากฏในภาพจิตรกรรม
3) เส้นทางศิลปะของหม่อมเจ้ามารศีฯ (Chronology of Marsi and Art History) แสดงเนื้อหาพัฒนาการในด้านการสร้างสรรค์งานศิลปะของท่านด้วยการเทียบลำดับเวลาของเหตุการณ์ศิลปินปรากฏการณ์ทั้งในประเทศไทยเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และโลกเป็นการสร้างการเรียนรู้ให้เข้าใจว่างานของท่านจัดอยู่ในพื้นที่ประวัติศาสตร์ศิลป์ที่ทำให้เกิดการกระตุ้นให้สนใจศึกษาเปรียบเทียบงานในเชิงลึกต่อไป
4) สัจจะ (Truth) แสดงเนื้อหาเกี่ยวกับสิ่งที่หม่อมเจ้ามารศีฯได้พิสูจน์ให้เห็น “สัจจะ” ในเส้นทางเลือกที่จะเป็น “ศิลปิน” จนกระทั่งถึงวาระสุดท้ายของชีวิตและผลงานของท่านแสดงให้เห็นถึง “สัจจธรรม” ของชีวิตมนุษย์ที่มีทั้งความรักความสุขความตาย
นอกเหนือจากผลงานศิลปะในงานที่เปิดให้เข้าชมแล้วภายในงานยังมีกิจกรรมส่งเสริมด้านศิลปศึกษาไม่ว่าจะเป็นการเสวนาประเด็นเรื่องความงามและความน่าเกลียด (Beauty and Ugliness) ที่ปรากฏในผลงาน หม่อมเจ้า มารศี สุขุมพันธุ์บริพัตร กิจกรรมเวิร์คช้อปฯลฯนอกจากนี้โดยได้รับการสนับสนุนจาก Flynow III ร่วมถ่ายทอดจินตนาการดังกล่าวผ่านแฟชั่นและผลิตภัณฑ์คอลเลคชั่นพิเศษ
Reported by : วรรณศิริ ศรีวราธนบูลย์ editor@hiclassSociety.com
กดติดตามเฟซบุ๊คแฟนเพจของ HiClassSociety.com ได้ที่
https://www.facebook.com/HiClassSociety/
กุลยา กาศสกุล (ยิ้ม)
หากต้องการรายละเอียดเพิ่มเติ