เปิดตัว 2 คอนโดมิเนียมใหม่แบรนด์ HAUS “โอกะ เฮาส์” และ “คาวะ เฮาส์” ครั้งแรกกับโอกาสสัมผัสประสบการณ์ตรง 6 นวัตกรรม จาก SIRI LIFETECH เพื่อชีวิตแนวใหม่ วางเป้ายอดขายแคมเปญ 8,000 ล้านบาทแสนสิริประกาศจัดงานใหญ่แห่งปี “Sansiri Life Comes Home 2017” (แสนสิริ ไลฟ์ คัมส์ โฮม 2017) ภายใต้แนวคิด “Living Reimagined” สะท้อนความเป็นผู้นำของแสนสิริในการปฏิวัติสู่ไลฟ์สไตล์การอยู่อาศัยยุคดิจิทัล ครั้งแรกกับการเปิดตัว Siri LifeTech ให้สัมผัส 6 นวัตกรรมเพื่อรูปแบบการอยู่อาศัยแนวใหม่จากแสนสิริ เพื่อการใช้ชีวิตที่สมบูรณ์แบบและลงตัวยิ่งกว่าเคย กับไฮไลท์เปิดตัว 2 โครงการใหม่ “oka HAUS” คอนโดไฮไรส์บรรยากาศรีสอร์ทกลางเมืองสุขุมวิท 36 และ “kawa HAUS” คอนโดโลว์ไรส์ริมน้ำใน Community T77 พร้อมความสุขที่เลือกได้จากคอนโดมิเนียมยูนิตฮ็อต 10 โครงการทั่วประเทศที่มาพร้อมโปรโมชั่นพิเศษเฉพาะภายในงาน ระหว่างวันที่ 24–26 พ.ย. นี้ ที่แฟชั่นฮอลล์ ชั้น 1 ศูนย์การค้าสยามพารากอน เผยวางเป้าหมายยอดขายแคมเปญกว่า 8,000 ล้านบาท เสริมความแข็งแกร่งผลประกอบการไตรมาสสุดท้ายสู่เป้าหมายยอดขาย 40,000 ล้านบาท
นายอุทัย อุทัยแสงสุข ประธานผู้บริหารสายงานปฏิบัติการ บริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ในช่วงไตรมาส 4/2560 ซึ่งเป็นไตรมาสสุดท้ายและนับเป็นช่วงไฮซีซันของการขาย บริษัทฯ ได้เตรียมจัดงาน “Sansiri Life Comes Home 2017” (แสนสิริ ไลฟ์ คัมส์ โฮม 2017) งานใหญ่แห่งปีของแสนสิริซึ่งในปีนี้จัดขึ้นภายใต้แนวคิด Living Reimagined สะท้อนถึงความสำเร็จของแสนสิริในฐานะบริษัทอสังหาริมทรัพย์ชั้นนำด้านเทคโนโลยีที่ครอบคลุมทุกแง่มุมของอสังหาริมทรัพย์และการอยู่อาศัย โดยนับเป็นครั้งแรกที่เราจะเปิดตัว “Siri LifeTech” ให้ผู้ชมงานได้สัมผัสและทดลองใช้เป็นครั้งแรกกับ 6 นวัตกรรมเพื่อการใช้ชีวิตและการอยู่อาศัยแนวใหม่ เติมเต็มทุกรูปแบบการอยู่อาศัยที่สมบูรณ์แบบ (Complete Your Living Experience) ทั้งที่ใช้งานจริงแล้วในโครงการปัจจุบันและเตรียมนำมาใช้ในโครงการในอนาคตอันใกล้ ไม่ว่าจะเป็น SAN:DEE Delivery Bot หรือแสนดี หุ่นยนต์ไฮเทคส่งของถึงหน้าห้องพัก Sansiri AI BOX ผู้ช่วยส่วนตัวอัจฉริยะที่ลูกบ้านสามารถสั่งการควบคุมการเปิดปิดอุปกรณ์ไฟฟ้าในบ้านด้วยเสียงภาษาไทยเป็นครั้งแรก Farmshelf นวัตกรรมฟาร์มแนวตั้งอัจฉริยะที่แสนสิรินำเข้ามาใช้เป็นครั้งแรกของประเทศไทยให้ลูกบ้านปลูกผักเพื่อบริโภคเองในคอนโด Sansiri Home Service Application ซึ่งสามารถควบคุมการเปิดปิดไฟ เครื่องปรับอากาศ และจองใช้พื้นที่ส่วนกลางผ่านแอพ และฟังก์ชั่นใหม่ Online Shopping by SB Furniture ให้ลูกบ้านเลือกซื้อเฟอร์นิเจอร์ได้ง่าย ๆ เพียงปลายนิ้ว Smart Move แพลตฟอร์มบริการให้เช่ารถยนต์ในโครงการ และ Samitivej@HOME นวัตกรรมเพื่อการดูแลสุขภาพในที่พักอาศัยภายใต้ความร่วมมือกับโรงพยาบาลสมิติเวช
สำหรับ 2 โครงการใหม่ล่าสุด ที่จะเปิดตัวครั้งแรกในงานแสนสิริ ไลฟ์ คัมส์ โฮม 2017 ประกอบด้วย “oka HAUS” (โอกะ เฮาส์) คอนโดไฮไรส์บรรยากาศรีสอร์ทกลางเมืองสุขุมวิท 36 และ “kawa HAUS” (คาวะ เฮาส์) คอนโดโลว์ไรส์ริมน้ำ Community T77 ต่อยอดความสำเร็จคอนโดมิเนียมภายใต้แบรนด์ “HAUS” (เฮาส์) ซึ่งพัฒนาแนวคิดมาจากกระแสของโลกปัจจุบัน ผสานเทรนด์ SLOW LIFE หรือการใช้ชีวิตอย่างละเมียดละไม เข้ากับเทรนด์ ECO-LIVING หรือการใช้ชีวิตที่อิงอาศัยธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เพื่อความสมดุล พอเพียง และยั่งยืน โดยแบรนด์เฮาส์ได้รับการตอบรับอย่างดีเยี่ยม ทั้ง “hasu HAUS” (ฮาสุ เฮาส์) ที่ปิดการขายด้วยยอดขายลูกค้าต่างชาติสูงถึง 48% ตามด้วย “mori HAUS” (โมริ เฮาส์)ซึ่งมียอดตรวจรับมอบห้องคอนโดมิเนียมที่สูงและเร็วมากเป็นประวัติการณ์ และล่าสุด “taka HAUS” (ทากะ เฮาส์) ภายใต้ความร่วมมือระหว่างแสนสิริและโตคิวฯ ประเทศญี่ปุ่น สามารถสร้างยอดขายไปได้แล้วถึง 95% และใกล้ปิดการขายในเร็วๆ นี้
โครงการ “oka HAUS Sukhumvit 36” คอนโดมิเนียมความสูง 47 ชั้น จำนวน 1,178 ยูนิต มูลค่า 8,000 ล้านบาท นับเป็นรีสอร์ทคอนโดมิเนียมในรูปแบบไฮไรส์โครงการแรกภายใต้แบรนด์เฮาส์ ที่พัฒนาขึ้นด้วยคอนเซ็ปต์ ‘Retreat and Rebound’ ตั้งอยู่บนถนนพระราม 4 ใกล้ถนนสุขุมวิท 36 เชื่อมต่อถนนสุขุมวิทและถนนพระราม 4 อีกหนึ่งย่านศูนย์กลางเศรษฐกิจของกรุงเทพฯ ซึ่งครบครันไปด้วยศูนย์การค้า ร้านอาหาร โรงพยาบาล สถานศึกษา โรงแรม ฯลฯ หากยังคงไว้ซึ่งบรรยากาศที่สงบและเป็นธรรมชาติ เหมาะแก่การพักผ่อนและหย่อนใจ สามารถเดินทางไปยังทุกจุดหมายอย่างสะดวกสบาย ด้วยใกล้รถไฟฟ้าบีทีเอส สถานีทองหล่อเพียงแค่ 5 นาที และยังใกล้ทางด่วนเฉลิมมหานครและอาจณรงค์ พร้อมด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกและ Prop Tech อย่างครบครัน ในราคาเริ่มต้นที่ 3.69 ล้านบาท
โครงการ “kawa HAUS Sukhumvit 77” (คาวะ เฮาส์ สุขุมวิท 77) คอนโดมิเนียมโลว์ไรส์ริมน้ำ สูง 7 ชั้น 3 อาคาร จำนวน 546 ยูนิต มูลค่า 3,300 ล้านบาท ภายใต้แนวคิด ‘Live A Good Story’ ที่ที่ธรรมชาติยังเป็นสิ่งหนึ่งที่ช่วยสร้างเรื่องราวดีๆ ของชีวิต ภายใต้ร่มเงาของต้นไม้ใหญ่และความสดชื่นของชีวิตริมน้ำ ในขณะที่ทุกความสะดวกสบายอยู่ใกล้แค่เอื้อม ด้วยที่ตั้งโครงการซึ่งอยู่อยู่ใน Community T77 บนสุขุมวิท 77 (อ่อนนุช) ทำเลเพื่อการพักอาศัยที่สมบูรณ์แบบ ไลฟ์สไตล์ฮับระดับนานาชาติที่เพียบพร้อมไปด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน ทั้ง ฮาบิโตะ รีเทล มอลล์ แนวคิดใหม่ มีครบทั้งร้านอาหารคุณภาพนานาชาติ สถานเสริมความงาม และสถานออกกำลังกาย รวมไปถึงโรงเรียนนานาชาติ บางกอก เพรพ อีกทั้งยังสะดวกสบายทุกการเดินทาง ด้วยระยะทางเพียง 5 นาทีจากรถไฟฟ้าบีทีเอสอ่อนนุช 2 นาทีจากทางด่วนรามอินทรา-อาจณรงค์ พร้อมบริการรถบัสรับ-ส่งจากฮาบิโตะ รีเทล มอลล์ ไปบีทีเอสอีกด้วย แวดล้อมด้วยบรรยากาศร่มรื่นท่ามกลางธรรมชาติใต้ร่มเงาไม้ใหญ่และโค้งน้ำริมคลอง ราคาเริ่มต้น 3.59 ล้านบาท โดยคัดยูนิตพิเศษมูลค่ารวม 1,000 ล้านบาท มาเปิดขายในงานนี้เป็นครั้งแรก และเตรียมจัด Global Launch เปิดขายพร้อมกัน 6 ประเทศ ในช่วงต้นปี 2561
งานนี้จึงนับเป็นโอกาสเดียวในรอบปีที่ไม่ควรพลาดสำหรับผู้ที่กำลังมองหาหรือตัดสินใจซื้อโครงการที่อยู่อาศัยต่าง ๆ ของแสนสิริ โดยนอกจากการเปิดตัวคอนโดมิเนียม 2 โครงการใหม่ ยังมีโครงการคอนโดมิเนียมยูนิตฮ็อตจาก 10 โครงการทั่วประเทศ ที่ไม่ควรพลาดด้วยยูนิตราคาพิเศษ พร้อมโปรโมชั่นมากมาย ทั้งรับส่วนลดเพิ่มสูงสุด 50,000 บาทและรับทันที iPhone X เมื่อลงทะเบียนผ่านเว็บไซต์และจองโครงการใหม่ในงาน ทุกยูนิตลุ้นรับรางวัลทุกวัน มูลค่ากว่า 5 แสนบาท เมื่อจองในงาน อาทิ iPad Pro Apple Watch Series 3 หรือบัตรที่พัก 2 วัน 1 คืน ที่โรงแรมเอสเคปเขาใหญ่ หรือ หัวหิน เป็นต้น สำหรับผู้ลงทะเบียนร่วมงานล่วงหน้าทางเว็บไซต์ ยังได้รับรับกระเป๋า “Exclusive Bag” จำนวนจำกัด นอกจากนี้ยังมอบแพคเกจทางการเงิน อาทิ อัตราดอกเบี้ยพิเศษ 2.8% นานถึง 3 ปี ฟรีจำนองสำหรับลูกค้าที่ลงทะเบียนในงานและใช้สินเชื่อบ้านไทยพาณิชย์ 10 ท่านแรก โดยเงื่อนไขเป็นไปตามที่ธนาคารกำหนด พร้อมทั้งของสมนาคุณพิเศษเมื่อขอสินเชื่อโครงการพร้อมอยู่ภายในงาน สิทธิพิเศษสำหรับผู้ถือบัตรเครดิตไทยพาณิชย์ แสนสิริ แพลทินัม รับส่วนลดเงินจอง 5% พร้อมรับคะแนนเพิ่มสูงสุด 50,000 คะแนน และบัตรกำนัลสูงสุด 6,500 บาท เมื่อชำระเงินจองโครงการผ่านบัตรฯ ทันที พร้อมรับคะแนนพิเศษเพิ่มสูงสุดอีก 50,000 คะแนนเมื่อใช้สินเชื่อบ้านกับธนาคารไทยพาณิชย์
ทั้งนี้ คาดว่างานแสนสิริ ไลฟ์ คัมส์ โฮม 2017 จะได้รับการตอบรับอย่างดีเยี่ยมและมีผู้เข้าร่วมงานจำนวนมากตลอดสามวัน และต่อยอดความสำเร็จภายหลังการจัดงานที่คาดว่าจะมีลูกค้าเข้าเยี่ยมชมโครงการที่อยู่อาศัยต่าง ๆ ของแสนสิริที่โครงการอีกอย่างต่อเนื่อง โดยตั้งเป้าหมายยอดขายตลอดแคมเปญไว้ที่ประมาณ 8,000 ล้านบาท ช่วยเสริมความแข็งแกร่งของผลประกอบการไตรมาสสุดท้ายให้เข้าสู่เป้าหมายยอดขายรวม 40,000 ล้านบาทที่ตั้งไว้ในปีนี้ได้อย่างแน่นอน
นอกจากคอนโดมิเนียม 2 โครงการใหม่ พร้อมยูนิตฮ็อต ราคาพิเศษจากอีก 10 โครงการคอนโดมิเนียมของแสนสิริทั่วประเทศ ลูกค้าแสนสิริยังสามารถเลือกซื้อบ้าน คอนโด ทาว์นเฮาส์ พร้อมอยู่ รวมทั้งสิ้น 42 โครงการ ในแคมเปญ แสนสิริ ไลฟ์ คัมส์ โฮม รับข้อเสนอดีที่สุดส่งท้ายปี ตั้งแต่วันนี้จนถึงวันที่ 31 ธันวาคม 2560 ที่สำนักงานขายของแต่ละโครงการ
เกี่ยวกับ Siri LifeTech
6 นวัตกรรมเพื่อชีวิตแนวใหม่ สรรสร้างประสบการณ์การใช้ชีวิตที่ง่ายและครบครันกว่าเดิมในยุคดิจิทัล
Siri LifeTech หนึ่งในกลยุทธ์ของแสนสิริเพื่อมอบประสบการณ์การอยู่อาศัยที่ครบครันและสะดวกสบายในทุกมิติ ได้รวบรวม 6 นวัตกรรมเพื่อการอยู่อาศัยระดับโลกที่แสนสิริร่วมออกแบบและพัฒนาร่วมกับพันธมิตรทั้งในประเทศไทยและระดับนานาชาติ ซึ่งเป็นบริษัทผู้มีความเชี่ยวชาญระดับแนวหน้าของนวัตกรรมแต่ละแขนง เพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตของผู้อยู่อาศัยในยุคดิจิทัลอย่างแท้จริง
1) Sansiri Home Service Application
Sansiri Home Service Application แอพพลิเคชันสำหรับลูกบ้านแสนสิริ กับประสบการณ์ใหม่ของผู้อยู่อาศัย ที่ช่วยในการติดตามข่าวสารและการติดต่อกับโครงการและนิติบุคคลได้ง่ายดายและสะดวกยิ่งขึ้นผ่านทางแอพพลิเคชัน ทั้งด้านการติดตามข่าวสารจากโครงการ (Announcement) การส่งข้อความติดต่อกับนิติบุคคล (Messaging) ระบบรับการแจ้งเตือนเมื่อมีพัสดุส่งถึงเจ้าของห้อง (Mailbox) การบริหารจัดการค่าส่วนกลาง / ยอดเงินฝาก / ยอดเงินค้างชำระ (My Account) รวมถึงการแจ้งซ่อม และการตรวจสอบสถานะการแจ้งซ่อม (Home Care) ผู้ใช้สามารถเข้าสู่ระบบอย่างง่ายดายผ่านระบบปฏิบัติการ iOS, Android, โดยสามารถใช้งานได้ถึง 5 ภาษา ได้แก่ ภาษาไทย ภาษาอังกฤษ จีน (traditional, simplified) และภาษาญี่ปุ่น ทั้งยังสามารถล็อคอินเข้าสู่ระบบโครงการที่ผู้ใช้เป็นเจ้าของได้มากกว่าหนึ่งโครงการผ่านระบบเพียงระบบเดียว นอกจากนี้ ยังมีฟังก์ชัน ONLINE SHOPPING BY SB FURNITURE ฟังก์ชันใหม่ที่เปิดให้บริการในเดือนธันวาคม 2560 เพื่อมอบประสบการณ์ใหม่ในการช้อปปิ้งและตกแต่งบ้านของคุณให้สวยดั่งใจได้เพียงแค่ปลายนิ้วสัมผัส อีกทั้งยังเชื่อมต่อกับระบบ Home Automation ซึ่งสามารถควบคุมการเปิดปิดไฟ รวมถึงเครื่องปรับอากาศผ่านทางแอพพลิเคชั่น และในโครงการใหม่ของแสนสิริยังสามารถจองห้องสันทนาการต่างๆ ในส่วนของพื้นที่ส่วนกลางผ่านแอพพลิเคชั่น (Facility booking) ได้อย่างง่ายดายและสะดวกสบายกว่าเดิม ปัจจุบัน Sansiri Home Service Application มีผู้ใช้มากกว่า 20,000 ราย จากกว่า 150 โครงการ
2) SAN:DEE Delivery Robot
‘แสนดี’ หุ่นยนต์อำนวยความสะดวกด้วยบริการส่งพัสดุถึงหน้าประตูลูกบ้าน ซึ่งช่วยยกระดับความปลอดภัยของลูกบ้านด้วยการป้องกันไม่ให้คนแปลกหน้าเดินขึ้นไปส่งของโดยตรง โดยพัสดุที่ส่งมาถึงโครงการจะถูกบันทึกเข้าสู่ระบบ และแจ้งเตือนลูกบ้านผ่าน Sansiri Home Service Application ซึ่งลูกบ้านสามารถแจ้งความจำนงให้แสนดีนำพัสดุต่างๆ ขึ้นมาส่งที่ห้องผ่านแอพลิเคชั่นได้เช่นกัน โดยแสนดีที่มาพร้อมระบบการนำทางหลบหลีกสิ่งกีดขวางและสามารถขึ้นลิฟท์ด้วยตัวเองได้ โดยมีความเร็วสูงสุดที่ 1.5 เมตรต่อวินาที และสามารถรับน้ำหนักได้สูงสุดมากถึง 80 กิโลกรัม โดยจะพร้อมมอบประสบการณ์ความสะดวกสบายให้แก่ลูกบ้านแสนสิริเป็นครั้งแรกในประเทศไทยที่โครงการ เดอะ โมนูเมนต์ สนามเป้า
3) Sansiri AI Box
ระบบปัญญาประดิษฐ์ที่สามารถรับการสั่งงานด้วยเสียงภาษาไทยครั้งแรกของประเทศ ซึ่งแสนสิริพัฒนาร่วมกับ บริษัท อะเมซอน เว็บ เซอร์วิสเซส (ประเทศไทย) จำกัด และบริษัท เดลิเทค จำกัด โดยระบบ Sansiri AI Box เชื่อมต่อกับทั้งระบบ Home Automation ซึ่งอำนวยความสะดวกในการเช็คข่าวประจำวัน ตรวจสอบสภาพอากาศ – สภาพการจราจร นอกจากนี้ยังเชื่อมต่อความสนุกอย่างไม่รู้จบ สามารถฟังเพลงไทย หรือรับคลื่นวิทยุในประเทศไทยได้ รวมไปถึงการสั่งการเครื่องใช้ไฟฟ้าต่าง ๆ ภายในบ้าน เช่น การเปิด-ปิดไฟ เครื่องปรับอากาศ และโทรทัศน์ เป็นต้น นอกจากนี้ยังเชื่อมต่อกับระบบ Sansiri Home Service Application ซึ่งทำให้ผู้อยู่อาศัยสามารถจองพื้นที่ส่วนกลางภายในโครงการได้ เช่น จองห้องโยคะ หรือสั่งให้แสนดี นำพัสดุมาส่งให้ที่ห้อง เป็นต้น ทำให้ชีวิตภายในโครงการสะดวกและบริหารจัดการได้อย่างง่ายดาย เปรียบเสมือนมีผู้ช่วยส่วนตัวที่รู้ใจ เพียงแค่สั่งงานด้วยเสียง
4) Smart Move
แพลตฟอร์มบริการเช่ายานพาหนะในโครงการของแสนสิริเพื่ออำนวยความสะดวกในการใช้ชีวิตให้กับคนรุ่นใหม่ โดยมีรถยนต์ที่ควบคุมและใช้พลังงานไฟฟ้า 100% สำหรับ Car Sharing ให้ลูกบ้านได้เช่าใช้และคิดค่าบริการจริงเป็นนาที พร้อม EV Charger เครื่องชาร์จรถยนต์ไฟฟ้า ได้ทั้งความสะดวกสบายและยังสามารถช่วยลดมลพิษต่อสิ่งแวดล้อมได้อีกด้วย นำร่องด้วย BMW รุ่น i3 ซึ่งนำมาใช้ในโครงการเดอะไลน์ จตุจักร-หมอชิต เป็นโครงการแรก
5) Farmshelf
นวัตกรรมฟาร์มแนวตั้งอัจฉริยะจากสหรัฐอเมริกาที่กำลังเป็นที่นิยมไปทั่วโลก เป็น “Indoor Farm” ที่ใช้ IOT ควบคุมและมอนิเตอร์การเจริญเติบโตอัตโนมัติผ่านโมบายแอพฯ ซึ่งจะทำให้การปลูกผักเพื่อรับประทานเองในที่อยู่อาศัยเป็นเรื่องง่ายและใกล้ตัว แสนสิรินำเข้ามาใช้เป็นครั้งแรกของประเทศไทย พร้อมเผยโฉมให้คนไทยได้สัมผัสมิติใหม่แห่งการดูแลสุขภาพ ด้วยเทคโนโลยีและการเก็บดาต้าของพืชผักชนิดต่างๆ ทำให้สามารถตั้งระบบอัตโนมัติ (Automated Hydroponic Growing Systems) เพื่อควบคุมคุณภาพ ความสดอร่อย และระยะเวลาการเก็บเกี่ยวได้ง่ายๆ ทีสำคัญสะอาด และปลอดยาฆ่าแมลง ปัจจุบันมีดาต้าของเมล็ดพันธุ์ผักกว่า 50 ชนิด นอกจากนั้นเทคโนโลยีและข้อมูลจากการเก็บดาต้าช่วยให้พืชเติบโตได้เร็วขึ้น 2 – 3 เท่า และใช้น้ำน้อยกว่าการเพาะปลูกแบบดั้งเดิมถึง 90% ทั้งยังมีการแจ้งเตือนผ่านโมบายแอพพลิเคชั่นเมื่อผลผลิตพร้อมเก็บเกี่ยว เพียงเท่านี้ลูกบ้านไม่ว่าจะอยู่อาศัยในโครงการบ้านหรือคอนโดมิเนียม ก็สามารถปลูกผักสด สะอาด ปลอดสารพิษ เพื่อรับประทานเองได้ง่ายๆ (From Farm to Table)
6) Samitivej@Home
นวัตกรรม Wearable Device ในรูปแบบสายรัดข้อมือภายใต้ความร่วมมือกับโรงพยาบาลสมิติเวช ที่พัฒนาขึ้นเพื่อลดความเสี่ยงด้านสุขภาพและดูแลการดำเนินชีวิตประจำวันของคนที่คุณรัก 24 ชั่วโมงอย่างมีประสิทธิภาพ ให้อุ่นใจเสมือนได้ดูแลคนที่คุณรักตลอดเวลา ด้วยฟังก์ชันแจ้งเตือนเมื่อเกิดอุบัติเหตุ และฟังก์ชันให้ความช่วยเหลือจากโรงพยาบาลผ่านระบบที่เชื่อมตรงสู่โรงพยาบาลเพียงได้รับสัญญานขอความช่วยเหลือจากผู้ใช้งาน โดยโรงพยาบาลจะแจ้งข่าวไปถึงญาติของผู้สวมใส่ มอบความอุ่นใจเสมือนได้ดูแลคนที่คุณรักตลอดเวลา
แสนสิริยังไม่หยุดยั้งในการพัฒนาเพื่อนำคุณภาพชีวิตที่ดีมาสู่ลูกบ้านแสนสิริทุกคน ผ่าน Siri LifeTech สะท้อนถึงความมุ่งมั่นของแสนสิริในการปฏิวัติสู่ยุคดิจิทัล เพื่อมอบประสบการณ์การใช้ชีวิตที่สมบูรณ์และสะดวกสบาย ด้วยเทคโนโลยีที่ครอบคลุมทุกมิติของการใช้ชีวิตในโครงการ ให้แก่ลูกบ้านในยุคดิจิทัลของเรา เพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตของผู้อยู่อาศัยในยุคดิจิทัลอย่างแท้จริง