Tony Pedroni, GM @ Outrigger Laguna Phuket Beach Resort, Thailand

Tony-Pedroni.jpg_feature

โทนี่ เพ็ดรอนนี่ ผู้จัดการทั่วไป เอาท์ริกเกอร์ ลากูน่า ภูเก็ต บีช รีสอร์ท

การเติบโตอย่างไม่หยุดนิ่งของธุรกิจด้านการท่องเที่ยวและบริการ โดยเฉพาะธุรกิจโรงแรมรีสอร์ท เป็นหนึ่งในปัจจัยสำคัญที่เกื้อหนุนความเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจทั้งในระดับท้องถิ่นและระดับประเทศอย่างเป็นรูปธรรม การเข้ามาลงทุนในธุรกิจโรงแรมระดับหรูของนักลงทุนรายใหญ่จากต่างชาติ เป็นสิ่งที่สะท้อนความเชื่อมั่นต่อประเทศไทย ในฐานะประเทศที่ไม่เพียงมีความพร้อมด้านทรัพยากรทางธรรมชาติ ทรัพยากรบุคคล รวมไปถึงเสถียรภาพทางเศรษฐกิจในระยะยาว แม้ปัจจุบันไทยเราอาจจะกำลังอยู่ในช่วงของความพยายามที่จะก้าวผ่านจุดสะดุดทางการเมือง และกำลังต่อสู้กับปัญหาอื่นๆรอบด้าน แต่ด้วยวิสัยทัศน์ของนักธุรกิจชั้นนำ ย่อมมองเห็นโอกาส ความเป็นไปได้ และอนาคตที่ดีดว่า ซึ่งซ่อนอยู่ภายใต้อุปสรรคเสมอ เช่นเดียวกับการลงทุนของบริษัทเอาท์ริกเกอร์ เอ็นเตอร์ไพรซ์ กรุ๊ป ซึ่งเป็นหนึ่งในบริษัทชั้นนำด้านการจัดการโรงแรมและที่พักอาศัยในภูมิภาคเอเชีย แปซิฟิคและโอเชียเนีย ที่มีโครงการขยายกิจการในภูมิภาคเหล่านี้อย่างต่อเนื่อง และล่าสุดได้เข้ามาดำเนินกิจการโรงแรมหรูในภูเก็ต ณ หาดบางเทา คือ โรงแรมเอาท์ริกเกอร์ ลากูน่า ภูเก็ต บีช รีสอร์ท โดยมีผู้บริหารคนสำคัญอย่าง โทนี่ เพ็ดรอนนี่ ผู้จัดการทั่วไป มาบริหารความสำเร็จให้กับโครงการนี้ได้อย่างน่าชื่นชม จนทำให้ เอาท์ริกเกอร์ ลากูน่า ภูเก็ต บีช รีสอร์ท ไม่เพียงเป็นหนึ่งในรีสอร์ทยอดนิยมของนักท่องเที่ยวจากทั่วโลกในปัจจุบัน แต่ยังการันตีความเป็นหนึ่งด้านการบริการ ด้วย รางวัลชนะเลิศด้านการบริการต้อนรับยอดเยี่ยม จากแทรเวล วีคลี่ เอเชีย รีดเดอร์ ช้อยส์ อวอร์ดส ซึ่งเป็นรางวัลที่บ่งบอกว่าผู้ชนะเลิศมีมาตรฐานการต้อนรับและบริการที่ยอดเยี่ยมและได้รับการยอมรับจากการโหวตให้เป็นที่หนึ่งในทุกด้านบริการจากผู้ร่วมโวตกว่า 4,600 รายภายในระยะเวลาสองเดือน

HiclassSociety.com ได้รับเกียรติให้ไปเยี่ยมชม เอาท์ริกเกอร์ ลากูน่า ภูเก็ต บีช รีสอร์ท และได้พบว่า โรงแรมชั้นนำแห่งนี้มีระดับการบริการที่ยอดเยี่ยมและโดดเด่นสมกับที่ได้รับรางวัลชนะเลิศ ซึ่งความโดดเด่นที่เห็นได้ชัดเจนที่สุด นอกเหนือจากบรรยากาศสถานที่ในทำเลดีเยี่ยม ห้องพักสวยงามสะดวกสบาย ได้รับทั้งวิวทะเลและลากูน คุณภาพของการต้อนรับ การดูแลลูกค้าให้ได้รับความสุขและพึงพอใจอย่างเต็มที่ตามมาตรฐานของโรงแรมชั้นนำระดับสากลแล้ว คือความพยายามที่จะรักษาอัตลักษณ์ทางวัฒนธรรมของท้องถิ่นเอาไว้ ด้วยการผสมผสานวัฒนธรรมงดงามและน้ำใจไมตรีแบบไทยๆ ที่กำลังถูกกลืนหายไปเพราะความจำเป็นที่ต้องปรับตัวให้เป็นสากล ซึ่งคุณสมบัตินี้เองที่น่าจะทำให้ เอาท์ริกเกอร์ ลากูน่า ภูเก็ต บีช รีสอร์ท เป็นที่ประทับใจสำหรับผู้มาเยือน จนเป็นเหตุผลที่ได้รับรางวัลดังกล่าว และเป็นโอกาสดียิ่งที่เราได้พูดคุยกับ คุณโทนี่ เพ็ดรอนนี่ ผู้จัดการทั่วไป ผู้เป็นบุคคลสำคัญที่อยู่เบื้องหลังความสำเร็จนี้

เอาท์ริกเกอร์ เป็นกลุ่มธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ที่ดำเนินกิจการโรงแรมและอสังหาริมทรัพย์บนทำเลชั้นเลิศในประเทศต่างๆทั่วโลก การได้มาลงทุนในประเทศไทยซึ่งเป็นดินแดนที่มีชื่อเสียงด้านภูมิประเทศสวยงามและมีความงดงามทางวัฒนธรรมเป็นโอกาสดียิ่ง เรารู้สึกตื่นเต้นและภาคภูมิใจมากที่ได้มาดำเนินกิจการของเราที่นี่ และตั้งใจมากที่จะดูแลอย่างดีที่สุดเพราะโครงการนี้ถือเป็นก้าวสำคัญสำหรับธุรกิจของเราในประเทศไทย

“จุดหลักในแนวทางการดำเนินธุรกิจของเราก็คือการสร้างจุดขายที่แตกต่างและมีเอกลักษณ์ ด้วยแคแรคเตอร์ที่ชัดเจนของตัวโรงแรมและทำเลที่ตั้ง ซึ่งมีความได้เปรียบและตอบโจทย์ได้อย่างดีที่สุดในการเป็นโรงแรมเพื่อการพักผ่อนสันทนาการ โดยเฉพาะการตอบสนอง Family Lifestyle ได้อย่างครบถ้วนสมบูรณ์ มีกิจกรรมให้ทำมากมาย ไม่ว่าจะเป็นกิจกรรมกีฬาทางน้ำเต็มรูปแบบ สนามเทนนิส เส้นทางจักรยาน สนามกอล์ฟ สระว่ายน้ำถึงสามสระ มีสไลเดอร์ขนาดใหญ่ ที่ทำให้สนุกกันได้ทุกคน โดยเฉพาะเมื่อเด็กๆที่มาพักที่นี่มีอะไรทำให้เพลิดเพลินได้ทั้งวัน พ่อแม่ก็จะได้สบายใจและมีเวลาพักผ่อนที่แท้จริงเป็นของตัวเองด้วย ทุกคนในครอบครัวมีความสุขครับ

“ที่สำคัญเรายังมีร้านอาหารชั้นดีหลากรสชาติไว้คอยบริการให้แขกของเราได้ลิ้มลองและเปลี่ยนบรรยากาศไปได้เรื่อยๆ จากหลายร้านที่เรามีในโรงแรม ซึ่งเราตั้งเป้าไว้ว่า เราจะไม่ใช่เป็นแค่ร้านอาหารพื้นๆสำหรับบริการแขกในโรงแรมเท่านั้น แต่ตั้งใจลงทุนเต็มที่เพื่อทำให้เป็นร้านที่ดีที่สุดสำหรับย่านนี้ อย่างร้าน Metzo’s ที่เราเพิ่งจัดงานเปิดตัวเชฟไปเมื่อเร็วๆนี้ เราได้เชฟที่เก่งมากๆอย่าง เชฟมุสตาฟา ฮัจ โอมา มาร่วมงาน ซึ่งเขาเป็นเชฟมือทองระดับซูเปอร์สตาร์ของวงการอาหารตะวันออกกลาง เมดิเตอร์เรเนียนและอาหารอาหรับ เคยเป็นเชฟปรุงอาหารให้กับราชวงศ์บาห์เรน ผลิตรายการโชว์การทำอาหารให้รายการโทรทัศน์ของบาห์เรน และโปรโมทกิจกรรมการทำอาหารให้กับบุคคลทั่วไปทั่วภูมิภาคเอเชีย นอกจากทำอาหารเก่งแล้วยังสอนเก่งด้วยครับ การมีเชฟเก่งๆอย่างเชฟมุสตาฟา ฮัจ โอมา เป็นความภูมิใจและเป็นความโดดเด่นในเรื่องบริการอาหารของเรา เพราะเราอยากให้ผู้ใช้บริการได้รับความสุขและความสะดวกสบายที่เหนือระดับจริงๆครับ”

คุณโทนี่ เพ็ดรอนนี่ บอกเล่าถึงความภาคภูมิใจและจุดเด่นของ เอาท์ริกเกอร์ ลากูน่า ภูเก็ต บีช รีสอร์ท ด้วยท่าทีสุภาพและถ่อมตัวมาก ที่ดูแล้วมีบุคลิกภาพบางส่วนคล้ายคลึงกับคนไทยมากในแง่อัธยาศัยไมตรีและความอ่อนน้อมซึ่งหาได้ยากในวัฒนธรรมแบบตะวันตก ซึ่งแน่นอนว่าสิ่งที่ซ่อนอยู่ภายใต้ความอ่อนโยนนี้คือความสามารถในทรัพยากรบุคคลที่เฉียบคม ต้องใช้ทั้งศาสตร์และศิลป์ในการดึงเอาศักยภาพของทีมงานที่เป็นคนต่างชาติต่างวัฒนธรรมกับตนเองออกมาให้สร้างสรรค์งานได้มาตรฐานในระดับสากล อีกทั้งยังต้องรักษาอัตลักษณ์ทางวัฒนธรรมของชนชาติตัวเองเอาไว้เป็นเสน่ห์หรือเป็นจุดขายสำคัญของธุรกิจท่องเที่ยว

“รางวัลอันน่าภูมิใจจากการบริการที่เราได้รับมานั้น เกิดจากความร่วมแรงร่วมใจของทีมงานทุกคนครับ เราเป็นทีมงานอายุน้อย ยกเว้นผมนะครับที่อาจจะอายุมากหน่อย (หัวเราะ) ซึ่งเราต้องยอมรับนะครับว่า ทัศนคติเกี่ยวกับการทำงานของคนยุคใหม่ที่อาจจะแตกต่างจากในยุคของผม สำหรับทีมงานซึ่งเป็นคนรุ่นใหม่นี้ พวกเราทุกคนอยากให้จะที่ทำงานของเราเป็นสถานที่ทำงานที่สนุกและมีความสุข ในยุคที่ผมเคยผ่านมา โลกของการทำงานโรงแรมเป็นเรื่องที่เต็มไปด้วยระเบียบที่เคร่งครัดและเคร่งเครียดกว่าปัจจุบันนี้มากครับ สมัยโน้นเราไม่ได้มีเทคโนโลยีการสื่อสารที่สะดวกสบายเหมือนตอนนี้ การสร้างความภักดีต่อองค์กรของคนทำงานยุคใหม่เป็นเรื่องที่ท้าทายมากกว่าเดิมครับ เพราะทุกคนก็อยากรับรู้สิ่งใหม่ๆ ได้รับประสบการณ์ใหม่ๆ คนยุคนี้ไม่คิดว่าจะทำงานอยู่ที่โรงแรมแห่งใดแห่งหนึ่งยาวนานไปสี่สิบห้าสิบปีอย่างคนยุคก่อน ทุกคนอยากเห็นโลกกว้าง อยากสัมผัสวิถีชีวิตที่แตกต่าง อยากสนุกกับประสบการณ์ใหม่ๆ ดังนั้นสำหรับที่นี่ เราจึงตั้งใจทำให้เป็นสถานที่ทำงานซึ่งทุกคนมาทำงานด้วยแล้วรู้สึกสนุก ให้เขาได้มีความสุขกับประสบการณ์ที่มาร่วมทีมกับเรา และจริงๆแล้วขอบอกเลยครับว่า งานโรงแรมไม่ได้มีแต่เรื่องสนุก (ยิ้ม) บางครั้งมันโหดสุดๆเชียวละ แต่ยังไงก็ตาม ทุกคนก็พร้อมจะเข้ามาทำงานร่วมกันด้วยรอยยิ้มและกลับไปพร้อมกับรอยยิ้มด้วย โดยเราเปิดโอกาสให้ทุกคนมีส่วนได้ร่วมทำอะไรดีๆด้วยกัน ได้แสดงออกถึงความเป็นตัวเองของตัวเอง ในโรงแรมของเราจะมีทีมงานอยู่กลุ่มหนึ่งนะครับที่ไม่ได้มีตำแหน่งระบุชัดเจน แต่หน้าที่ของพวกเขาคือการทำให้แขกของเรามีความสุข โดยออกไปตามจุดต่างๆในรีสอร์ท และมีปฏิสัมพันธ์เพื่อมอบความสำราญให้กับแขก ถ้าแขกที่มาพักมีปัญหาอะไร ก็หาทางออกที่ดีให้แขกพึอใจ เสมือนเป็นทูตสันถวไมตรีประจำรีสอร์ทครับ

“งานบริหารบุคคลเป็นเรื่องยากและท้าทาย โดยเฉพาะการสร้างสมดุลระหว่างการกระตุ้นสิ่งดีๆเฉพาะตัวบุคคล หรือความเป็นตัวเองออกมากับการควบคุมรักษาวินัยที่จะทำให้คุณภาพการบริการได้มาตรฐานเป็นหัวใจสำคัญ และทีมงานแต่ละโครงการในแต่ละท้องถิ่นก็มีคาแรคเตอร์ที่แตกต่างกันออกไป การบริหารจัดการก็จะปรับเปลี่ยนยืดหยุ่นให้เหมาะสมต่างกันตามไปด้วย ผมพยายามครับที่จะควบคุมอารมณ์ให้เป็นปกติเสมอไม่ว่าจะเจอปัญหาอะไร จะไม่ตื่นตระหนก ไม่ดุ ไม่เสียงดัง เวลาที่เจออะไรขัดใจ แม้บางครั้งในใจอาจจะอยากหาที่เงียบๆแล้วกรีดร้องดังๆออกมาก็ตาม(หัวเราะ) ผมจะเป็นกำลังเสริม คอยบอกคอยกระตุ้นทุกคนให้ทำงานอย่างมีประสิทธิภาพและด้วยรอยยิ้ม กระทั่งตัวผมเองบางวันอาจเจอเรื่องยิ้มไม่ออก ก็จะมีเพื่อนร่วมงานที่ดีคอยกระซิบเตือนให้รู้ตัว รวมถึงการวางตัวให้เหมาะสม เพราะเราก็มีความแตกต่างกันในเรื่องวัฒนธรรม การมีทีมงานที่ดีเป็นสิ่งสำคัญ โดยเฉพาะการมีทีมงานที่มีความคิดสร้างสรรค์ เราไม่ได้คาดหวังว่าจะต้องได้ทีมงานที่มีประสบการณ์ยาวนานในงานโรงแรม แต่เราคัดสรรคนจากบุคลิกภาพและทัศนคติของเขาเป็นหลักครับ เราจึงมีคนทำงานรุ่นใหม่ที่มีไฟในการทำงานเต็มที่ มั่นใจ กล้าแสดงออก กล้าพูดคุยเล่นสนุกกับแขก ควบคู่ไปกับการสร้างมาตรฐานการบริการที่ดี โดยเราเน้นความมีส่วนร่วมสร้างสรรค์สิ่งดีๆจากทีมงานมากกว่าการฝึกทักษะให้ทำตามๆกันไปอย่างเดียว เพราะแขกของเรามาที่นี่เพื่อการพักผ่อนที่สนุกสนาน บรรยากาศสบายๆ ที่เปี่ยมด้วยมิตรภาพ ผ่อนคลาย การได้รับน้ำใจจากผู้ให้บริการเหมือนกับเป็นญาติมิตร”

แม้จะดูเป็นผู้บริหารที่ดูสบายๆ อารมณ์ดี และเป็นกันเองมาก แต่จากประวัติการทำงานคุณโทนี่เองนั้นถือว่าไม่ธรรมดา กว่าจะมาถึงวันนี้ก็ต้องผ่านประสบการณ์ในงานโรงแรมมาเป็นระยะเวลานานจากหลายประเทศทั่วโลก ผ่านการหล่อหลอมมาด้วยวัฒนธรรมการบริการขั้นสูงจากยุคก่อนที่ทุกสิ่งจะต้องมีระเบียบและเที่ยงตรงอย่างที่สุด งานโรงแรมเป็นงานที่เขารักและใฝ่ฝันมาตั้งแต่วัยเยาว์ คุณโทนี่บอกว่า ตั้งแต่เล็กมาจนโต เขามีความสุขกับการบริการ สนุกกับการทำให้ผู้คนรอบข้างประทับใจและมีความสุข จึงไม่น่าแปลกใจที่เขากลายมาเป็นนักบริหารโรงแรมที่ประสบความสำเร็จอย่างสูงในทุกวันนี้ และแน่นอนว่าการมาร่วมงานกับ โรงแรมเอาท์ริกเกอร์ ลากูน่า ภูเก็ต บีช รีสอร์ท ของนักบริหารมือทองคนนี้ย่อมไม่ได้นำมาซึ่งความสำเร็จของตัวเขาเอง หรือธุรกิจของกลุ่ม เอาท์ริกเกอร์ เท่านั้น แต่ยังเป็นส่วนหนึ่งที่ร่วมสร้างความสำเร็จและการพัฒนาให้เกิดสิ่งดีๆขึ้นกับอุตสาหกรรมการท่องเที่ยว ที่นำความเจริญทั้งทางเศรษฐกิจและชื่อเสียงมาสู่ประเทศไทยอีกด้วย

“ ผมคิดว่า ความประทับใจเกี่ยวกับผู้คนของเราที่แขกได้มาพบเจอคือประสบการณ์ของการเข้าพักที่ทำให้เรากลายเป็นที่จดจำมากกว่าอาคารสถานที่หรือสิ่งอื่นๆ” และนั่นคือหัวใจของความสำเร็จของ เอาท์ริกเกอร์ ลากูน่า ภูเก็ต บีช รีสอร์ท ภายใต้การดูแลของ คุณโทนี่ เพ็ดรอนนี่ นักบริหารที่น่าจับตามองคนนี้



Reported by : Wannasiri Srivarathanabul Editor@HiclassSociety.com

Related contents:

You may also like...