นับจากการจับมือกันระหว่าง 2 บริษัทยักษ์ใหญ่ บีทีเอส กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน) โดย คีรี กาญจนพาสน์ ประธานกรรมการ ผู้เชี่ยวชาญด้านการพัฒนาระบบขนส่งมวลชนและ แสนสิริ จำกัด (มหาชน) โดย อภิชาติ จูตระกูล ประธานอำนวยการ ผู้นำด้านการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ครบวงจร ซึ่งเข้ามาเขย่าวงการที่อยู่อาศัยในกรุงเทพฯ ด้วยการเผยโฉมแบรนด์คอนโดมิเนียม ‘เดอะ ไลน์’ โดยพัฒนาตามไลฟ์สไตล์การใช้ชีวิตของคนกรุงเทพฯ ที่เปลี่ยนไป มุ่งเน้นไปยังทำเลที่ใกล้ระบบขนส่งมวลชนของกรุงเทพฯ (Mass Transit) พร้อมให้นิยามที่อยู่อาศัยว่า ‘Location is everything’ ซึ่งที่ผ่านมาได้ประสบความสำเร็จจากการปิดการขายเดอะ ไลน์จตุจักร-หมอชิต และเดอะ ไลน์ สุขุมวิท 71 ภายในวันเดียว และกำลังจะเปิดตัวอีกหนึ่งโครงการใหม่ภายใต้แบรนด์ เดอะ ไลน์ ได้แก่ เดอะ ไลน์ ราชเทวี ซึ่งพร้อมเปิดให้ชมห้องตัวอย่างในวันที่ 17 ตุลาคมนี้เป็นต้นไป ที่ THE LINE Sales Centre (BTS หมอชิต)
เมืองมหานครกับต้นแบบของการใช้ชีวิต
“หากเราสังเกต ‘เมืองมหานคร’ หรือ MEGACITIES ทั่วโลก เมื่อ ‘ระบบการขนส่งมวลชน’ ได้พัฒนาถึง ขีดสุด ภาพของความเจริญจะขยายไปยังเขตต่างๆ ทำให้เกิด ‘Multi-CBD’ หรือศูนย์กลางธุรกิจที่หลากหลาย ความสะดวกสบายในการเดินทางทำให้เกิดแรงขับเคลื่อนทางเศรษฐกิจของเมืองเล็กๆ ซึ่งแต่ละเมืองที่เพิ่งเติบโตขึ้นมาล้วนมีเอกลักษณ์แตกต่างกันไป ดังเช่นในประเทศญี่ปุ่น กรุงโตเกียว นับเป็นต้นแบบของเมืองแห่งอนาคต ซึ่งมีการปรับผังเมืองในช่วงยุค 90’s ให้มีการเชื่อมต่อของการเดินทางที่สะดวกสบาย จนเกิดเป็นเมืองเล็กๆ ที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวดึงดูดความสนใจของผู้คนมากมาย อาทิ ไดกันยามะ (Daikanyama) ซึ่งมีความเท่จากการตกแต่งร้าน รวมถึง สินค้า แฟชั่น สำหรับชิบุยะ (Shibuya) ก็จะเห็นสีสันการดำเนินชีวิตแบบเร่งรีบและเป็นย่านธุรกิจที่สำคัญ ย่านรปปงหงิ (Roppongi) มีชื่อเสียงโด่งดังว่าเป็นเขตศิลปะ ถ้ากล่าวถึงฮาราจุกุ (Harajuku) ภาพที่ปรากฏขึ้นมาก็จะเป็นวัยรุ่นย้อมสีผมสุดเปรี้ยวกับแฟชั่นสุดโต่ง สำหรับผู้ชื่นชอบตึกโครงสร้างสวยๆ ก็จะจินตนาการถึงย่านโอเมโตะซันโดะ (Ometosando) ปรากฏการณ์นี้ไม่ได้เกิดขึ้นในประเทศญี่ปุ่นเท่านั้น ในเมืองมหานครต่างๆ เช่น นิวยอร์ค ลอนดอน ปารีส ก็เช่นกัน ซึ่งแม้จะมีย่านยอดนิยมอยู่แล้ว แต่ชุมชนก็ยังคงขยายตัวอย่างไม่หยุดนิ่งและเกิดเป็นแหล่งท่องเที่ยวน่าสนใจใหม่ๆ ขึ้นมากมาย ทำให้ราคาที่ดินบางเขตนั้นสูงขึ้นเท่าตัวเมื่อเทียบกับเมื่อระยะ 5 ปีที่ผ่านมา” อภิชาติ กล่าว
ระบบขนส่งมวลชนกับปัจจัยการเลือกทำเลที่อยู่อาศัยที่เปลี่ยนไป
การขยายตัวทางเศรษฐกิจและประชากรผนวกกับระบบขนส่งมวลชน (Mass Transit) ที่สมบูรณ์แบบมากขึ้น ก่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงเชิงกายภาพที่สำคัญ ซึ่งสามารถสังเกตได้จากการกระจายตัวของประชากรไปยังเขตต่างๆ ของกรุงเทพฯ ก่อให้เกิดวัฒนธรรมย่อย (Sub Culture) และไลฟ์สไตล์อันเป็นเอกลักษณ์ ส่งผลให้ค่านิยมของการเลือกที่อยู่อาศัยเปลี่ยนไป นอกเหนือจากเรื่องโลเคชั่นที่ต้องเดินทางสะดวกแล้วยังให้ความสำคัญกับทำเลที่สามารถตอบโจทย์ในเรื่องไลฟ์สไตล์รวมไปถึงชุมชนรอบข้าง (Neighborhood) และวัฒนธรรมย่อยที่ตรงใจมากขึ้น การศึกษาวัฒนธรรมย่อยและชุมชนรอบข้างทำให้เราเข้าใจถึงเสน่ห์ที่เป็นเอกลักษณ์ของแต่ละโซนได้มากขึ้น ส่งผลให้สามารถเลือกที่อยู่อาศัยที่บ่งบอกความเป็นตัวตนได้อย่างชัดเจน (Knowing your neighborhood) อาทิ
ย่านเอกมัย – อ่อนนุช (Art district)
เป็นโซนที่มีศักยภาพทางเศรษฐกิจสูงดึงดูดผู้ประกอบการรุ่นใหม่ให้มาเปิดกิจการมากมาย โดดเด่นด้วยการขับเคลื่อนจากกลุ่มคนทำงานศิลปะ จนเกิดร้านเก๋ๆ ที่เปรียบเสมือน Hidden Gems มากมาย อาทิเช่น (If I were Carpenter) แกลเลอรี่ (W District) และบูทีค โฮเทลสุดฮิป จนขึ้นชื่อว่าเป็น Art district ของฝั่งสุขุมวิท
ราชเทวี-สยาม (Central District)
เป็นโซนที่ถือได้ว่าเป็นศูนย์กลางในทุกๆด้านเพราะเป็นที่ตั้งของสถาบันการศึกษาชั้นนำ สถาบันกวดวิชา Co-working space รวมไปถึงออฟฟิศทาวเวอร์ชั้นนำ (Centre of Knowledge and Career) นอกจากนี้ยังเป็นโซนที่ได้รับการยอมรับว่าเป็นย่านที่รวบรวมเอาทุกเทรนด์ของการใช้ชีวิตเข้าไว้ด้วยกัน ไม่ว่าจะเป็นแหล่งชอปปิ้ง คาเฟ่ ร้านอาหารและสถานที่แฮงค์เอาท์ เพื่อตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์คนย่านนี้ที่มีความหลากหลาย ทันสมัย และไม่เคยหยุดนิ่ง ไม่ว่าจะเป็นนักศึกษาจับกลุ่มกันเพื่ออ่านหนังสือเตรียมสอบตาม คาเฟ่ร้านเก๋ๆหรือ Co-working space กลุ่มคนทำงานแฮงค์เอาท์หลังเลิกงานตามบาร์เท่ๆ เหล่าแฟชั่นนิสต้าที่มองหาเสื้อผ้าแอคเซสเซอรี่เทรนด์ใหม่ล่าสุดมีให้เลือกตั้งแต่ลักชัวรี่ไปจนถึงสตรีทแบรนด์
ย่านจตุจักร – พหลโยธิน (Bangkok Playground)
ศูนย์รวมกลุ่มคนผู้มากความสามารถ (Talented) นำเสนอผลงานผ่านการดำเนินชีวิต อาทิ วัยรุ่นที่ริเริ่มทำธุรกิจ จากการเปิดร้านขายสินค้าเฉพาะทาง (Specialty Store) ขนาดเล็กในจตุจักร ซึ่งเป็นตลาดวันหยุดที่ใหญ่ที่สุดในโลก หรือร้านค้าที่ผนวกไลฟ์สไตล์การใช้ชีวิตของคนกลุ่มนั้นเข้าไปด้วย เช่น การผนวกร้านขายจักรยานเข้ากับร้านกาแฟ ร้านขายเสื้อผ้าเข้ากับเฟอร์นิเจอร์และอุปกรณ์ตกแต่งบ้าน และบาร์ที่ผนวกเข้ากับแกลเลอรี่ เป็นต้น นอกเหนือจากสถานที่ที่แสดงออกซึ่งเอกลักษณ์ของคนกลุ่มนี้แล้ว การแต่งตัวแฟชั่นแนวสตรีทแวร์และไลฟ์สไตล์ด้านกีฬา อาทิ กีฬาเอ็กซ์ตรีมและการปั่นจักรยานเป็นเอกลักษณ์ที่คนกลุ่มนี้ชื่นชอบ ย่านนี้ถือว่า พร้อมด้วยศักยภาพที่มีสิ่งอำนวยความสะดวกเพียบพร้อม ทั้งดีพาร์ทเมนท์สโตร์ ร้านอาหารทุกระดับ ระบบขนส่งมวลชนทุกรูปแบบ
ด้วยเล็งเห็นถึงข้อเท็จจริงที่น่าสนใจนี้ ทาง บ. บีทีเอส กรุ๊ป และ บ.แสนสิริ จำกัด (มหาชน) จึงร่วมกันพัฒนา คอนโดมิเนียมภายใต้แบรนด์ เดอะ ไลน์ ที่มีจุดเด่นในเรื่องของทำเลที่ตั้ง ซึ่งมีความหลากหลายในเรื่องของราคา เลือกนำเสน่ห์ของวัฒนธรรมย่อยในแต่ละเขตของกรุงเทพฯ มาเป็นส่วนหนึ่งในการพัฒนาโครงการ สามารถตอบในทุกๆโจทย์ของการเลือกที่อยู่อาศัยที่เปลี่ยนไป โดยที่ผ่านมาได้ประสบความสำเร็จเป็นอย่างสูงในการนำเสนอแนวคิดนี้สู่ตลาด โดยเริ่มจากการแนะนำโครงการเดอะ ไลน์จตุจักร-หมอชิตที่มีจำนวน 841 ยูนิต ติดรถไฟฟ้า วิวสวน ขนาดใหญ่ถึง 700 ไร่ และสระว่ายน้ำที่เป็นเอกลักษณ์ และเดอะ ไลน์สุขุมวิท 71 คอนโดมิเนียมใหม่แบบ Fully Furnished จำนวน 291 ยูนิต ซึ่งทั้ง 2 โครงการขายหมดภายในวันเดียว
โดยโครงการล่าสุดที่กำลังจะเปิดตัวในเดือนตุลาคมนี้ ได้แก่ เดอะ ไลน์ ราชเทวี ที่มีเพียง 231 ยูนิต สร้างบนพื้นที่ ประมาณ 1 ไร่ ของตึกสูง 38 ชั้นนั้นมีเอกลักษณ์โดดเด่นทางสถาปัตยกรรมที่ได้แนวคิดมาจากความเปลี่ยนแปลงที่เกิดจากการพัฒนาของย่านชุมชนกลางเมืองอันต่อเนื่อง (Continuity) และไม่มีที่สิ้นสุด (Infinity) ถูกแสดงผ่านลวดลายของ ‘เส้นคลื่น’ ที่ครีเอทขึ้นจากการใช้สีคอปเปอร์เป็นคาแรคเตอร์หลักด้านหน้าของอาคาร ไม่หยุดนิ่งแต่มั่นคง มีเอกลักษณ์เป็นตัวของตัวเอง เพื่อเป็นแลนด์มาร์คแห่งใหม่ย่านราชเทวี
ท่ามกลางดีไซน์ที่โดดเด่น เดอะ ไลน์ ราชเทวี ถูกเติมเต็มพลังชีวิตจากธรรมชาติด้วยพื้นที่สีเขียวของโครงการ ทั้งพื้นที่บนชั้นกราวด์ที่โอบล้อมด้วยพื้นที่สีเขียวที่ผสานองค์ประกอบของธรรมชาติและงานศิลปะอย่างลงตัว อาทิ การเล่นพื้นที่สูงตํ่าของเนินหญ้าหรือการปลูกไม้เลื้อยไต่หน้าผาหิน อันเป็นแบ็คดร็อปที่เป็นเอกลักษณ์ของโครงการ นอกจากนั้นบนชั้น 11 ได้ถูกออกแบบให้เป็นพื้นที่พักผ่อนสังสรรค์ ด้วยสระว่ายน้ำระบบเกลือ แบบ Infinity Edge พร้อมดวงไฟใต้นํ้าซึ่งจําลองดวงดาวบนทางช้างเผือกมาไว้ในสระอีกด้วย นอกจากนี้ยังสามารถเติมเต็มการพักผ่อนยามค่ำคืนด้วยจอโปรเจคเตอร์ที่สามารถดูภาพยนตร์กลางแจ้งได้ (Outdoor Movie) ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ยิ่งขึ้นกับห้องสมุดขนาด Double Volume กว้างขวางโอ่อ่า สำหรับการนั่งทำงาน คิดค้นไอเดียใหม่ๆ พร้อมด้วย Sound Dome สำหรับคนที่ต้องการพื้นที่ส่วนตัว ตกเย็นจะเปลี่ยนบรรยากาศไปนั่งเล่นบริเวณ Outdoor Garden ด้านนอกซึ่งเชื่อมต่อกับห้องสมุดภายใน นับเป็นอีกหนึ่งโครงการการพัฒนาที่อยู่อาศัยเพื่อตอบสนองความต้องการและวัฒนธรรมย่อยของผู้คนในย่านนี้อย่างแท้จริง
พบกับ เดอะ ไลน์ ราชเทวี โครงการใหม่ของแสนสิริภายใต้แบรนด์ เดอะ ไลน์ ซึ่งพร้อมเปิดให้ชมห้องตัวอย่างในวันที่ 17 ตุลาคมนี้เป็นต้นไป ที่ THE LINE Sales Centre (BTS หมอชิต) สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ โทร. 1685 หรือ www.sansiri.com
สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม
Z Communications โทร. / แฟกซ์ 02-651-5911
จามจุรี สกุลสง่า 088-636-3399
zcomunicationz@gmail.com
ประชาสัมพันธ์ในนาม แสนสิริ
