ทูตอิสราเอลตอบโต้โพสต์เชียร์ฮิตเลอร์ของม.ล. รุ่งคุณ กิติยากร

isael-ambassador

ชีมอน โรเด็ด
เอกอัครราชทูตอิสราเอลประจำประเทศไทย

เพียงระยะเวลาไม่นานที่ข้อเขียนของ ม.ล.รุ่งคุณ กิติยากร ซึ่งเป็นบทความที่โพสต์ผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว โดยตั้งค่าเข้าถึงเป็นสาธารณะ มีเนื้อหาโจมตีชาวยิว และแสดงออกถึงการปกป้องผู้นำเผด็จการ อดอล์ฟ ฮิตเลอร์ โดยผู้เขียนอ้างว่า เขียนขึ้นเพื่อต้องการนำเสนอ ”ความจริงอีกด้าน” ของอดอล์ฟ ฮิตเลอร์ อดีตผู้นำเผด็จการของเยอรมนี

บทความดังกล่าวก็ได้เผยแพร่ไปอย่างรวดเร็ว ทั้งในพื้นที่โซเชียลมีเดีย และบนพื้นที่สื่อของสื่อมวลชนกระแสหลักต่างๆ ซึ่งแน่นอนว่า การแสดงออกทางความคิดของบุคคลที่มีชื่อเสียงในสังคมไทยระดับนี้ ย่อมสั่นสะเทือนต่อความรู้สึกโดยส่วนตัวของคนเชื้อชาติยิวในประเทศไทย และความสัมพันธ์ทางการทูตของไทยกับอิสราเอลอย่างช่วยไม่ได้

และก็เป็นไปตามที่คาดไว้ แค่ไม่กี่ชั่วโมงถัดมา ก็มีการโต้ตอบเป็นจดหมายจากตัวแทนประเทศอิสราเอล ร่อนถึง HiclassSociety.com และสื่อมวลชนทั้งหลาย อย่างทันควัน และมีการแสดงออกเชิงตำหนิที่รุนแรง

 

ข้อความโดยเอกอัครราชทูตอิสราเอลตอบโต้โพสต์ของม.ล. รุ่งคุณ กิติยากร

เป็นเรื่องที่น่าเสียดายที่ยังมีคนที่น่าจะได้รับการอบรมที่ดี คนที่มีโอกาสมากกว่าคนอื่นๆ คนที่ได้รับการศึกษาสูง และมีช่องทางที่จะค้นคว้าหาความรู้เพื่อเพิ่มพูนสติปัญญา แต่กลับไม่มีวิจารณญานที่จะแยกแยะได้ว่าอะไรคือเรื่องจริงอะไรคือโฆษณาชวนเชื่อ ทั้งยังไม่ค้นคว้าเพิ่มเติมในเรื่องที่เป็นประวัติศาสตร์ ซึ่งมีหลักฐานปรากฏชัดเจนไม่ว่าจะเป็นลายลักษณ์อักษร พยานวัตถุและพยานบุคคล การที่จะเขียนเรื่องในประวัติศาสตร์สำคัญที่เกี่ยวข้องและมีผลกระทบต่อคนหลายเชื้อชาติจำนวนมากอย่างเรื่องนี้ ให้ผิดไปจากข้อเท็จจริงด้วยอัตวิสัยส่วนตัว แทนที่จะแสดงว่าเป็นผู้รู้มากกว่าคนอื่น ในทางกลับกันกลับบ่งชี้ว่าต้องการนำความเคราะห์ร้ายของชนชาติหนึ่งมาบิดเบือนเพียงเพื่อต้องการจะผลักดันให้ตนเองได้รับความสนใจมากขึ้นเท่านั้นข้อความนี้บ่งชัดถึงความเขลาในเรื่องการเหยียดเชื้อชาติของบุคคลเพียงคนเดียว ที่นำความอับอายมาสู่ประเทศนี้เป็นอย่างยิ่ง

ชีมอน โรเด็ด
เอกอัครราชทูตอิสราเอลประจำประเทศไทย

 

——————-

บทความของ ม.ล.รุ่งคุณ กิติยากร 

ความจริงเกี่ยวกับ อดอล์ฟ ฮิตเลอร์ รัฐบุรุษที่ถูกทุนธนาคารยิว Zionist ทําลาย ใส่ความให้เป็นผู้ร้าย 

ม.ล. รุ่งคุณ กิติยากร

ม.ล. รุ่งคุณ กิติยากร

 
หลังการพ่ายสงครามโลกครั้งที่ 1 ตามมติของ Versailles Conference 1919 เยอรมันจำต้องจ่าย ทองคำมูลค่า 1 แสนล้าน Mark รวมค่าใช้จ่ายทั้งสิ้น 2 แสนกว่าล้าน Mark ให้กับผู้ชนะ เมื่อจ่ายได้ไม่หมด ฝรั่งเศสก็ได้เข้ามายึดพื้นที่ต่างๆ พร้อมทรัพยากร ส่วนทางเยอรมันเอง เมื่อไม่เหลือทองคำในคลังเลย ไม่มีหลักคํ้าเงินสกุล เงินสกุล Mark จึงกลายเป็นเศษกระดาษที่ไม่มีค่า ในเวลาเดียวกัน กลุ่มทุนธนาคารยิวก็ได้เข้ามาปล่อยกู้ในอัตราดอกเบี้ยสูง โดยสถานะของเงิน Mark นั้นถูกทุบลงไปเรื่อยๆ จากปี 1918 มีมูลค่า 5.2 Mark ต่อ 1 USD ต่อมาในปี 1921 มีมูลค่า 64.9 Mark ต่อ 1 USD และ ในที่สุดในปี 1923 มีมูลค่า เพียง 4.2 ล้านล้าน Mark ต่อ 1 USD 
 
สำหรับชาวเยอรมันในเวลานั้น ขนมปังหนึ่งโหลมีราคา 2 ล้านล้าน Mark เงินสะสมของประชาชนทุกคนหมดค่ากลายเป็นศูนย์ ด้วยนํ้ามือของกลุ่มทุนธนาคารยิว ประชาชนสิ้นหวัง มีการฆ่าตัวตายจำนวนมาก ตำรวจหาเงินด้วยการทุจริต ในเวลาเดียวกันกลุ่มทุนยิวมองว่าเป็นโอกาสทองในการทำกำไรโดยการลงทุนที่ตํ่า การเก็บดอกเบี้ยสูงอันส่งผลให้เกิดบังคับขาย สูญเสียทรัพย์สินของผู้กู้ชาวเยอรมันให้กับกลุ่มทุนยิว ที่ได้เข้ามาครอบงำทั้งเศรษฐกิจ การเมือง สื่อ พร้อมทั้งการทำลายวัฒนธรรมของชาวเยอรมัน
 
ภายหลังการจงใจล้มตลาดทุน Wall Street ใน 1929 กระทำโดยกลุ่มของ Rockefeller JPMorgan Rothschilds ที่ได้ทำลายธนาคารเล็กๆ ในสหรัฐ 16,000 แห่ง โดยทุนใหญ่ของพวกตนได้ถอนตัวออกก่อนกาล กว้านซื้อทุกอย่างในราคาที่ถูก สหรัฐได้เรียกหนี้คืนจากเยอรมันภายใน 90 วัน อันส่งผลให้เยอรมันเป็นประเทศที่ล้มละลายโดยสมบูรณ์ อุตสาหกรรมต่างๆ ล้มกัน การว่างงานจาก 650,000 คนในปี 1928 ขึ้นมาเป็น 3 ล้านคนในปี 1930 สูงสุดในปี 1933 มีการว่างงานระหว่าง 6-7 ล้านคน ส่วนใหญ่เป็นชายทั้งสิ้น ไม่มีเงินสำหรับอาหาร เสื้อผ้า การทำความอุ่นในครัวเรือนตนเอง
 
ประชาชนจึงเห็น National Socialist (สังคมนิยมแห่งชาติ) นำโดย Hitler เป็นทางออก ซึ่งประกาศตัวเป็นทั้งศัตรูของลัทธิของยิวทั้งสองขั่ว ได้แก่ ระบบทุนนิยม และ ระบบ Communist โดยเมื่อ Hitler ได้เข้ามามีอำนาจ ประเทศไม่มีเงินในคลังเลย แต่มีปัญหาคนว่างงาน 6-7 ล้านคน โดยภายหลังรับตำแหน่ง 3 สัปดาห์ ฝ่ายที่เริ่มประกาศสงครามระหว่าง Hitler กับ ยิว ไม่ใช่ Hitler แต่คือ Jewish World Congress ของยิว 14 ล้านคน ซึ่งได้ประกาศสงครามกับเยอรมัน พร้อมการควํ่าบาตร เมื่อเป็นเช่นนี้ Hitler จึงได้ตอบโต้อีก 3 เดือนต่อมา ด้วยการประกาศสงครามกับชาวยิว ซึ่งในเยอรมันเองมีประมาณ 5 แสนคน หรือ 2 เปอร์เซนต์ พร้อมการควํ่าบาตรสินค้ายิว 
 
สิ่งที่ Hitler ได้สัญญาให้ความหวังกับประชาชน คือ การมีงานทำ และ มีอาหารรับประทาน ซึ่งเขาได้รักษาคำพูดของเขาโดยสมบูรณ์ Hitler ได้เน้นระบบเศรษฐกิจเพื่อประชาชน และ ‘Autarky’ หรือเศรษฐกิจพึงพาตนเอง (Self-Sufficient) พร้อมได้สร้างความสามัคคีระหว่างแรงงานและผู้จ้างงาน โดยเมื่อผ่านไป 2 ปี ครึ่ง ปัญหาการว่างงานได้ลดลงไปมาก และภายใน 5 ปี เขาได้ขจัดปัญหาการว่างงานในเยอรมนีโดยสิ้นเชิง
 
การแก้ปัญหาทางเศรษฐกิจ Hitlerได้กระทำทำโดยปราศจากเงินจากกลุ่มทุนธนาคารยิวแม้แต่น้อย Hitler สร้าง Autobahn ทางหลวงเยอรมนีจากวัสดุผลิตในเยอรมันล้วนๆ และหลังจากการเจรจาสร้างรถยนต์กับ German Auto Industry ซึ่ง Hitler มองว่าแพงเกินไป เขาได้หันไปหา Ferdinand Porsche แทน และได้ร่วมออกแบบรถ Volkswagen แปลว่า ‘รถของประชาชน’ ในราคาที่ถูกกว่าเกือบครี่งหนึ่ง โดยรถเต่าทองนี้ที่คนส่วนใหญ่รู้จักได้เป็นรถที่มีการสร้างมากที่สุดในโลก จึงยากที่จะถูกลบออกจากประวัติศาสตร์ 
 
สำหรับการผลิตเสื้อผ้า ในเมื่อการซื้อฝ้าย (Cotton) จำเป็นต้องซื้อโดยการใช้ USD ภายให้ Hitler จึงได้มีการคิดค้นผลิตผ้า Rayon ขึ้นมา โดยการนำขนแกะเยอรมันมาผลิต 
 
ภานใน 4 ปี Hitler ได้สร้างบ้าน 1.5 ล้านหลัง โดยให้ประชาชนสามารถผ่อนได้ 10 ปี หากมีลูก 1 คนให้ลดหนี้ลง 25% หากมีลูกถึง 4 คน ให้ยกเลิกหนี้ทั้งหมด โดยเขาเชื่อว่าครอบครัวที่ใหญ่จะมีการจับจ่ายมาก จะมีการจ่ายภาษีคุ้มกับการลดปลดหนี้ ปรากฏว่าภายในไม่กี่ปี การเก็บภาษีของรัฐเพิ่มขึ้น 3 เท่าตัว
 
สำหรับแรงงานผู้เช่าอาศัย ค่าเช่าจะอยู่ไม่เกิน 1 ใน 8 ของรายได้ต่อเดือน และเป็นครั้งแรกในโลกที่แรงงานสามารถพาครอบครัวไปเที่ยวพักร้อนต่างประเทศ โดย Hitler ได้สร้างเรือ Cruise หลายลำเพื่อเให้แรงงานชาวเยอรมันสามารถไปเที่ยวได้ในราคาที่ถูก โดยส่วนใหญ่เรือ Cruise จะไปตามเกาะแถบสเปน
 
เขาได้จัดการศึกษาให้เรียนฟรีถึงระดับปริญญา และได้สร้างบ้านพักจำนวนมากให้เกษตรกร สำหรับผู้ให้แรงงานทั่วไป เปรียบเทียบกับก่อน Hitler เข้ามา มีรายได้มากกว่าเดิม 2 เท่าโดยค่าเงินยังคงเดิม 
 
Hitler ได้สร้างระบบการค้าของเยอรมัน โดยไม่ใช้เงิน USD เลย แต่จะเน้นในการ Barter แลกเปลี่ยนเป็นหลัก จากระบบนี้เองที่ กลุ่ม Anglo American Jewish Banksters เสียผลประโยชน์ กลัวว่าเยอรมันที่ประสบความสำเร็จ จะเป็นแบบอย่างเศรษฐกิจใหม่ให้กับประเทศอื่นทั่วโลก แทนระบบที่พวกตนเองควบคุม จึงได้สร้างเงื่อนไขจนนำไปสู่สงครามโลกครั้งที่ 2 
 
Hitler ได้นำพาประชาชนชนชาติเขากลับมามีศักดิ์ศรีอีกครั้ง มีอธิปไตย เสรีภาพ พ้นจากการเป็นหนี้ เป็นทาสทุนสามานย์ แม้ Winston Churchill ผู้เป็นอริกับเยอรมันที่สุด ยังได้ส่งถึง Hitler ในปี 1938 ก่อนจะมีสงครามว่า ‘หากวันใดสหราชอาณาจักร ตกในหายนะดังเช่นเยอรมันใน 1918 ข้าพเจ้าขอให้พระเจ้าประทาน บุคคลที่มีความเข้มแข็ง และ ลักษณะของท่าน’ ส่วน Lloyd George นายกรัฐมนตรีอีกท่านได้กล่าวกับชาวเยอรมัน ‘ท่านควรขอบคุณพระเจ้า ที่ท่านมีบุรุษผู้ยอดเยี่ยมเป็นผู้นำ’
 
แล้วสาเหตุคืออะไร จึงได้มาทำลายทุกอย่างที่เขาได้สร้างไว้ ?
 
เพราะว่าเขาสามารถหาวิธีกู้ชนชาติเขาพ้นจากความเป็นทาสได้?
 
เพราะว่าพวกเขาแสดงให้โลกเห็นว่า สามารถสร้างอนาคตที่ดีกว่าโดยปราศจากระบบของกลุ่มทุน Zionist ได้?
 
ความจริงคือเช่นนั้น
 
เขาเป็นบุรุษของประชาชนเขา เป็นบิดาของเยอรมนี ประชาชนของเขารักเขาทั้งนั้น และเขาก็รักประชาชนของเขา
 
Heil Hitler…..Herzlichen Glückwunsch zum Geburtstag
 
2558/04/20
 
ป.ล. เนื่องในวันนี้เป็นวันคล้ายวันเกิด อดอล์ฟ ฮิตเลอร์ จึงได้นำเรื่องมาแสดงให้ทราบความจริงเกี่ยวกับบุรุษที่น่าชื่นชมผู้นี้ แม้ อดอล์ฟ ฮิตเลอร์ จะมีผิดความพลาดในบางส่วน แต่ความเป็นอัจฉริยะและความรักชาตินั้นมีอยู่มาก ควรแก่การศึกษาโดยมองว่าประเทศของเรา หากมีวิกฤติเศรษฐกิจโดนทุบค่าเงินอีกครั้ง คราวนี้จะไม่เหมือนคราวที่ก่อนที่ได้เกิดขึ้นในขณะที่เรายังอยู่ในสภาพที่ดีอยู่ หากคราวนี้หากเงินคลังหลวงหมด อาจหมายถึงการที่ประเทศเราจะถูกยึดอย่างเบ็ดเสร็จ คล้ายคลึงกับเยอรมนีสมัยนั้น หวังว่าประชาชนจะตื่นรู้ได้เสียก่อนจะต้องถึงสถานการณ์นั้น
 
ประวัติศาสตร์ที่ถูกจารึกคือประวัติศาสตร์ที่ถูกเขียนโดยผู้ชนะสงคราม โดยหลังแพ้สงครามไป ฝ่ายพันธมิตร anglo-american ที่รับใช่ทุนธนาคารยิว Zionist ผู้ร้ายตัวจริง ได้ใส่ร้ายบิดเบือนปิดบังความจริงต่างๆนานา รวมถึงเรื่อง Holocaust หรือ การฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ อันเป็นเรื่องหลอกลวง ที่ไม่ได้เกิดขึ้นจริงทั้งสิ้น ความจริงที่เกิดขึ้นคือ ได้มีการเซ็นสัญญา ระหว่างตระกูล Rothschilds และรัฐบาลอังกฤษ ว่าหาก Rothschilds สามารถนำสหรัฐ มาร่วมสงคราม รัฐบาลอังกฤษจะต้องยกดินแดน Palestine ซึงเป็นของชาว Palestine ที่ได้อาศัยอยู่มาแต่ไหนแต่ไร มาเป็นแผ่นดินของชาวยิว เรื่องราวเกี่ยวกับ Holocaust มิใช่อะไรนอกจาก propaganda หลอกลวง มีจุดเป้าหมายหลักคือการสร้างความเห็นอกเห็นใจในการ เข้าไป ไล่ ฆ่า ชาว Palestine นับล้านออกจากดินแดนของเขา เพื่อให้ชาวยิวได้มีรัฐของตนเอง พร้อมกับอีกจุดประสงค์ คือการทำลายลบล้าง ตำนานอัจฉริยภาพทางเศรษฐศาสตร์ ของ อดอล์ฟ ฮิตเลอร์ นั่นเอง
ม.ล.รุ่งคุณ กิติยากร หม่อมหลวงโจ้

ม.ล.รุ่งคุณ กิติยากร หม่อมหลวงโจ้

แฟนเพจของหม่อมโจ้ ม.ล. รุ่งคุณ กิติยากร

Related contents:

You may also like...