ประชากร 35.8 ล้านคนทั่วโลกยังถูกกดขี่เยี่ยงทาสอยู่ (1)

url

จำนวนผู้ถูกกดขี่เยี่ยงทาสทั้งหมดในทวีปเอเชีย[มีประมาณ 23.5 ล้านคน หรือ 2 ใน 3 ของจำนวนผู้ถูกกดขี่เยี่ยงทาสทั้งหมดทั่วโลก ประเทศอินเดียและปากีสถานมีอัตราผู้ถูกกดขี่เยี่ยงทาสสูงสุดในทวีปเอเชีย ในภูมิภาคเอเชียตะวันออก ประเทศกัมพูชา มองโกเลียและประเทศไทยมีอัตราผู้ถูกกดขี่เยี่ยงทาสสูงสุด (อันดับ 3 อันดับ 4 และอันดับ 6 ในทวีปเอเชีย)

ประเทศจีน อินโดนีเซียและประเทศไทยเป็นประเทศในภูมิภาคเอเชียตะวันออกที่มีจำนวนสัมบูรณ์ของผู้ถูกกดขี่เยี่ยงทาสสูงสุด ประเทศเกาหลีเหนือเป็นประเทศเดียวในโลกที่ไม่ได้ระบุอย่างชัดแจ้งว่าการเป็นทาสสมัยใหม่ถือเป็นความผิดทางอาญา

ตามสถิติของดัชนีการค้าทาสสากลประจำปี 2557 วิธีการวัดค่าที่ได้รับการปรับปรุงให้ดีขึ้นชี้ให้เห็นถึงว่าจำนวนประชากรทั่วโลกที่ตกอยู่ในการเป็นทาสยุคใหม่เพิ่มขึ้นมากกว่า 20% จากที่ประเมินไว้ก่อนหน้านี้

ในปัจจุบันชาย หญิงและเด็กราว 35.8 ล้านคนทั่วโลกตกเป็นทาสสมัยใหม่ สูงกว่าที่ประเมินไว้ก่อนหน้านี้มากกว่า 20% รูปแบบของการค้าทาสสมัยใหม่ได้แก่ การค้ามนุษย์ แรงงานบังคับ แรงงานขัดหนี้ การสมรสโดยบังคับหรือเพื่อรับใช้หรือการแสวงประโยชน์ทางเพศเชิงพาณิชย์ ตามข้อมูลของดัชนีการค้าทาสสากล(GSI)ประจำปี 2557 ซึ่งเป็นรายงานโครงการนำร่องที่ตีพิมพ์โดยมูลนิธิ Walk Free Foundation วันนี้มูลนิธินี้เป็นองค์กรด้านสิทธิมนุษย์สากลที่มีเป้าหมายในการขจัดการค้าทาสสมัยใหม่ให้หมดภายในหนึ่งชั่วอายุคน

indian-poverty

รายงานพิจารณาสถิติในแง่อัตราของประชากร(เปอร์เซ็นต์ของประชากรในประเทศที่ถูกกดขี่เยี่ยงทาส) และจำนวนประชากรที่อาศัยอยู่ในสภาพเยี่ยงทาสสมัยใหม่ทั้งหมดในแต่ละประเทศ รายงานชี้ให้เห็นว่าในปัจจุบันประชากรที่อาศัยอยู่ในสภาพเยี่ยงทาสสมัยใหม่กว่า 23.5 ล้านคนอาศัยอยู่ในทวีปเอเชีย ตัวเลขนี้เทียบได้กับประชากรเกือบ 2 ใน 3 ของจำนวนผู้ถูกกดขี่เยี่ยงทาสทั้งหมดทั่วโลก ประเทศที่มีอัตราผู้ถูกกดขี่เยี่ยงทาสสูงที่สุดในทวีปเอเชีย ได้แก่ อินเดีย(1.141%) ปากีสถาน(1.130%) และ กัมพูชา(1.029%)

หากมองเฉพาะในภูมิภาคเอเชียตะวันออก ประเทศกัมพูชาเป็นประเทศที่มีอัตราผู้ถูกกดขี่เยี่ยงทาสสูงสุด ตามมาด้วย มองโกเลีย(0.907%) ประเทศไทย(0.709%) และ บรูไน(0.709%) ประเทศจีนและญี่ปุ่น 2 ประเทศยักษ์ใหญ่ทางเศรษฐกิจในภูมิภาคเอเชียตะวันออกอยู่ในอันดับที่ 19 และ 20 ของทวีปเอเชีย ส่วนประเทศหรือเขตปกครองในภูมิภาคเอเชียตะวันออกที่มีอัตราของการเป็นทาสทาสต่ำสุดในทวีปเอเชียคือ เขตปกครองพิเศษฮ่องกง(0.187%) สิงคโปร์ (0.1%) และไต้หวัน(0.013%)โดยอยู่ในอันดับ 23 อันดับ 24 และอันดับ 25 ตามลำดับ มีเพียงสองประเทศในทวีปเอเชียเท่านั้นที่มีสถิติที่ดีกว่าประเทศเหล่านี้ ได้แก่ ออสเตรเลีย และ นิวซีแลนด์(อันดับ 26 และ 27)

หากมองในแง่จำนวนสัมบูรณ์ ประเทศจีนมีจำนวนประชากรที่อาศัยอยู่ในสภาพเยี่ยงทาสสมัยใหม่มากที่สุดในภูมิภาคเอเชียตะวันออก โดยมีจำนวนทั้งสิ้น 3,241,400 คน รองลงมาคือ ประเทศอินโดนีเซีย(714,100 คน) ประเทศไทย(475,300 คน) และประเทศเวียดนาม(322,200 คน)

หากมองภาพรวมของทวีปเอเชียทั้งทวีป บุคคลหรือบางครั้งครอบครัวทั้งครอบครัวถูกกดขี่เยี่ยงทาสเนื่องจากการขัดหนี้และแรงงานตามพันธะสัญญาในภาคก่อสร้าง เกษตรกรรม การทำอิฐ โรงงานเสื้อผ้า และการผลิต ซึ่งถือเป็นแรงงานฝีมือต่ำในขั้นตอนการผลิตของระบบห่วงโซ่อุปทานในการผลิตทั่วโลก คนเหล่านี้จำนวนมากยังมีความเสี่ยงสูงต่อการกลายเป็นแรงงานบังคับเนื่องจากการอพยพย้ายถิ่นไปยังภูมิภาคตะวันออกกลาง

บางประเทศที่ต้องเผชิญกับความท้าทายอย่างมากนี้ได้เริ่มลงมือดำเนินขั้นตอนที่สำคัญเพื่อจัดการกับปัญหานี้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งประเทศฟิลิปปินส์ ซึ่งได้รับค่าประเมินการตอบโต้ของรัฐบาลต่อปัญหานี้ในอัตราที่เท่าเทียมกับค่าประเมินของประเทศนิวซีแลนด์และไต้หวัน จากทั้งหมด 25 ประเทศที่มีการจัดอันดับในทวีปเอเชีย 24 ประเทศได้ออกกฎหมายที่ระบุว่าบางรูปแบบของการเป็นทาสสมัยใหม่ถือเป็นความผิดทางอาญา ประเทศอินเดียได้มีการปฏิรูปกฎหมายอย่างจริงจังเพื่อสนับสนุนการจัดให้การเป็นทาสสมัยใหม่ถือเป็นความผิดทางอาญา ส่วนมองโกเลียและเวียดนามลงมติรับรองกฎหมายที่สมบูรณ์ในตัวเองว่าด้วยการต่อต้านการค้ามนุษย์ในปี 2555 ประเทศเกาหลีเหนือเป็นประเทศเดียวในทวีปเอเชียและในโลกที่ไม่ได้ระบุอย่างชัดแจ้งว่าการเป็นทาสสมัยใหม่ถือเป็นความผิดทางอาญา

ในขณะที่ดัชนีประเมินว่ามีผู้ถูกกดขี่เยี่ยงทาสเพิ่มขึ้นมากกว่า 20% จากที่ตัวเลขในรายงานปี 2556 แทนการพิจารณาจำนวนของผู้ถูกกดขี่เยี่ยงทาสที่เพิ่มขึ้นแบบทวีคูณจากในอดีต ตัวเลขที่เพิ่มขึ้นอย่างมากนี้เป็นผลมาจากวิธีการรวบรวมข้อมูลที่มีประสิทธิภาพมากขึ้น ซึ่งรวมไปถึงการสำรวจตัวแทนประเทศในบางประเทศที่ประสบปัญหาด้านนี้มากที่สุด

Credit : มูลนิธิ Walk Free Foundation

30poverty4

มูลนิธิ Walk Free Foundation มีเป้าหมายในการขจัดการค้าทาสสมัยใหม่ให้หมดภายในหนึ่งชั่วอายุของเรา โดยการระดมทำกิจกรรมเคลื่อนไหวทั่วโลก จัดทำการค้นคว้าวิจัยที่มีคุณภาพสูงสุด หาพันธมิตรจากบริษัทเอกชนและระดมเงินทุนสูงในระดับที่ไม่เคยได้รับมาก่อนเพื่อผลักดันให้มีการเปลี่ยนแปลงในประเทศและอุตสาหกรรมที่มีส่วนรับผิดชอบต่อปัญหาการเป็นทาสสมัยใหม่ในปัจจุบันมากที่สุด มูลนิธิ Walk Free Foundation จะทำให้สิ่งเหล่านี้เป็นจริงได้

Thanks to image from https://sites.google.com/site/darkgovy/a51/poverty.jpg
http://www.ambergristoday.com/sites/default/files/imagecache/page_full/image/conservation-and-poverty-in-belize.jpg
http://www.ankeshkothari.com/wp-content/uploads/indian-poverty.jpg
http://www.socialplatform.org/wp-content/uploads/2013/06/Poverty.jpg
http://im.rediff.com/money/2013/oct/30poverty4.jpg

Related contents:

You may also like...