อีกด้านคือท้องทะเลสีคราม แต่อีกด้านคือทะเลทรายสุดกว้างขวาง มีความพิเศษก็ตรงที่มีเมืองใหญ่ทันสมัยถูกสร้างคั่นกลางน้ำกับแผ่นดินเอาไว้ ฟ้าจรดทราย เสียงลมพัดหวีดหวิว กลิ่นอายหอมๆของดินที่คุ้นเคย แปลกตาด้วยอาคารรูปร่างประหลาดที่ต่างแข่งกันผุดขึ้นมาราวกับจะแข่งขันกันว่าใครจะสูงกว่ากัน ท่ามกลางเมืองใหญ่ที่รายล้อมไปด้วยตึกสูงละฟ้า ในขณะที่อีกฟากคือทะเลทรายอันร้อนระอุ เพียงแค่สัมผัสไอร้อนที่พัดมากับสายลม เชื่อว่าคุณก็คงอยากจะวิ่งหนีเข้าไปรับไอเย็นๆของเครื่องทำความเย็นที่มี อยู่ทั่วทุกหนแห่งของเมืองใหญ่แห่งนี้ มีคนบอกว่าเมืองทะเลทรายแห่งนี้จะมีอะไรน่าพิศมัยมากมายกัน ออกไปนอกเมืองก็มีแต่ต้นปาล์มแก่ๆแล้วก็รอยอูฐหิวโซสองสามตัวที่กระหายน้ำจนแทบจะอยากลาโลกร้อนๆไปเสียที
อาบูดาบี ( Abu Dhabi) ชื่อที่คุณอาจคุ้นหูคุ้นตากันพอสมควร มหานครที่ขึ้นชื่อว่าเป็นเมืองหลวงของ สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ( United Arab Emirates or Dawlat al Imarat al Arabiyya alMuttahidah ) หรือ UAE
อาบูดาบีนับว่าเป็นรัฐที่ได้รับสมญานามว่า เป็น Garden of Gulf ด้วยความเขียวขจีของตัวเมืองที่ทันสมัย และได้รับการย่องว่าเป็นสวรรค์แห่งทะเลทรายอีกด้วย เริ่มแรกของการเดินทางไปยัง พิพิธภัณฑ์ปิโตรเลียม (Petroleum Museum) แห่งเมืองอาบูดาบี โดยภายในจะมีการจัดแสดงภาพจำลอง ขั้นตอนการเกิดน้ำมันดิบ การขุดเจาสำรวจ อุปกรณ์ขุดเจาะ ทั้งแท่นเจาะในทะเลทรายและทะเลลึก ภาพจำลองเรือลำเลียง ผลิตภัณฑ์น้ำมันต่างๆที่ได้จากการกลั่นน้ำมันดิบ ที่นี่คุณจะได้ทราบว่าขั้นตอนการผลิตน้ำมันที่เราใช้กันนั้นมีขั้นตอนเป็นมาอย่างไร
ด้วยเพราะกรุงอาบูดาบีนั้นไม่ค่อยมีแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติสักเท่าไหร่ การท่องเที่ยวจึงเน้นไปที่การเที่ยวชมเมือง ชมความทันสมัยทางสถาปัตยกรรม ที่เมื่อมาเยือนแล้วคุณจะรู้สึกอึ้งไปชั่วขณะ แล้วบางคนอาจเกิดอาการสังเวชใจว่า มนุษย์ช่างเก่งเรื่องการเอาชนะธรรมชาติเสียจริงๆ แม้ว่าลึกๆแล้วจะรู้ตัวดีว่ามันเป็นการเอาชนะแค่เพียงชั่วครั้งชั่วคราวก็เท่านั้น
นอกจากการชมอาคารบ้านเรือน และสถาปัตยกรรมแบบอิสลามที่สามารถผสมผสานให้เข้ากับอาคารสมัยใหม่แล้ว ก็ได้แวะไปยังตลาดพรมที่ค่อนข้างจะราคาถูก มีพรมจากอิหร่าน และเปอร์เซียให้เลือกซื้อหาลวดลายสวยงามแปลกตา จากนั้นแวะไปชมความงามของ Grand Mosque (สุเหร่าหลวง) หรือ Sheikh Zayed Bin Sultan Al Nahyan Mosque ซึ่งสร้างขึ้นด้วยหินอ่อนสีขาว มีความใหญ่เป็นอันดับ 3 ของโลก
สุเหร่านี้มีพรมผืนที่ใหญ่ที่สุดในโลกขนาด 5,627 ตารางเมตร และโคมไฟ Chandelier ใหญ่ที่สุดในโลกอีกด้วย ด้วยความยิ่งใหญ่และความอลังการนี่เอง ที่ทำให้นักท่องเที่ยวหลั่งไหลมาเยี่ยมเยือนเป็นจำนวนมาก มัสยิดแห่งนี้เป็นสุสานหลวงที่ฝังพระบรมศพของ Sheikh Zayed bin Sultan Al Nahyan อดีตประธานาธิบดีคนแรกแห่งสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์และเจ้าผู้ครองรัฐอาบูดาบี
Thanks to images from : http://www.hero-tourism.com/uploaded_files/gallery/1386159150_image6.JPG
http://www.aoryx.ae/wp-content/uploads/2013/01/secrets-of-the-jewel-2-660×320.jpg
http://www.yourabudhabiguide.com/images/abudhabimosqueinside.jpg