น้ำนมแม่คืออาหารที่ดีและวิเศษสุดของมวลมนุษย์ เป็นอาหารแห่งความเอื้ออาทรของแม่สู่ลูก การเลี้ยงลูกด้วยนมแม่เป็นศิลปะแห่งความสวยงามของชีวิต เพราะน้ำนมแม่ไม่เพียงแต่จะทำให้ลูกอิ่มท้องและสร้างความเจริญเติบโตด้านร่างกายของลูกได้อย่างเหมาะสมเท่านั้น แต่ยังพัฒนาจิตใจของแม่และลูกได้อย่างดีเลิศ
ทำไมต้องเลี้ยงลูกด้วยนมแม่
คุณแม่รู้หรือไม่ว่าตัวคุณแม่เองสามารถสร้างความฉลาดให้ลูกได้ด้วยการให้ลูกกินนมแม่ ถึงแม้ว่าความฉลาด(ไอคิว)จะขึ้นอยู่กับสิ่งสำคัญ 3 อย่างคือ กรรมพันธุ์จากพ่อแม่ การเลี้ยงดูและอาหารที่เหมาะสม แต่การเลี้ยงลูกด้วยนมแม่เป็นตัวช่วยสำคัญที่ทำให้สมองลูกเจริญเติบโตดียิ่งขึ้นไปอีก เพราะว่านมแม่มีสารไขมันที่จำเพาะสำหรับสมองทารกแรกเกิดในระยะ 6 เดือนแรก ร่างกายยังสร้างน้ำย่อยไขมันไม่ได้เต็มที่ นมแม่ก็มีน้ำย่อยไขมันมาด้วย ดังนั้นสารไขมันในนมแม่จึงถูกนำไปใช้สร้างสมองลูกได้อย่างเต็มที่ ต่างจากไขมันที่โฆษณาในนมผสม
นมแม่มีสารอาหารอื่นๆ กว่า 200 ชนิด ที่จะช่วยเสริมการพัฒนาสมองและจอประสาทตา เด็กกินนมแม่สมองดี ตาเห็นได้ดี ช่วยส่งเสริมพัฒนาการมากขึ้น ขณะที่ลูกกินนมแม่ ลูกจะอยู่ในอ้อมกอดของแม่วันละอย่างน้อย 7-8 ครั้ง การอุ้มลูกเป็นการช่วยกระตุ้นประสาทสัมผัสทำให้เซลล์สมองมีการโยงใยมากขึ้น ยิ่งโยงใยมากสมองก็ยิ่งฉลาดมาก ถ้าสัมผัสน้อยการโยงใยก็น้อยกว่าสมองส่วนนั้นก็จะฝ่อไปในที่สุด
เชื่อว่ามีหลายคนสงสัยคำแนะนำที่ผ่านมาคือ “ทำไม 6 เดือนแรกให้นมแม่อย่างเดียว?” ปัจจุบันกลับแนะนำให้นมแม่อย่างเดียวถึง 6 เดือน สมัยเมื่อ 50 ปีที่แล้ว กินนมแม่ กินข้าวและกินกล้วย ตั้งแต่ 2 เดือน กินน้ำส้มคั้น 1 เดือนคือการแสดงความรักของพ่อแม่ ต่อมาประมาณปี พ.ศ. 2522 พบว่าควรจะกินนมแม่อย่างเดียว 4 เดือน ตอนนั้นไม่มีใครกล้าระบุ ป 4-6 เดือน
เหตุที่ 4-6 เดือน เพราะพบเด็กที่กินนมแม่ผสมข้าวเจ็บป่วยบ่อยเมื่อเทียบกับเด็กที่กินนมล้วนๆ เวลาผ่านไป 20 ปี องค์การอนามัยโลก ประกาศปี พ.ศ. 2545 ว่า “กินนมแม่อย่างเดียว 6 เดือน” เพราะว่ามีข้อมูลการศึกษาใหม่ๆยืนยันว่าการให้นมแม่อย่างเดียวที่ยาวนานขึ้น มีผลดีต่อเด็กๆมากกว่า นั่นคือลดโอกาสการเกิดโรคท้องเสีย โรคทางเดินหายใจ โรคภูมิแพ้ รวมทั้งส่งผลดีต่อพัฒนาการทางสมองของเด็กมากกว่าด้วย
ดังนั้นขอให้คุณแม่เชื่อมั่นว่า 6 เดือนแรกลูกกินนมแม่อย่างเดียว ลูกไม่ขาดน้ำไม่ขาดอาหารอย่างแน่นอน ที่สำคัญเท่ากับได้เริ่มต้นสิ่งดีๆ ให้กับชีวิตลูกน้อย นั่นคือ
- ระยะ 6 เดือนแรก สมองลูกเติบโตเร็วมาก นมแม่เหมาะกับสมองที่โตเร็ว
- ระยะ 6 เดือนแรก ทางเดินอาหารลูกยังย่อยอาหารอื่นได้ไม่ดี นมแม่ย่อยง่ายที่สุด
- ระยะ 6 เดือนแรก ลูกยังสร้างภูมิคุ้มกัน ได้ไม่ดี นมแม่มีภูมิคุ้มกันมาด้วย
- ระยะ 6 เดือนแรก กระเพาะอาหารมีขนาดเล็กนิดเดียว ยืดหยุ่นได้ไม่มาก ถ้าได้อาหารอื่น นอกจากไปแย่งที่แล้วอาหารเหล่านี้มีสารอาหารสู้นมแม่ไม่ได้
การให้ลูกกินอาหารอื่นด้วยจะทำให้ลูกมีโอกาสเจ็บป่วยบ่อยกว่า เพราะมีโอกาสจะรับเชื้อโรคที่ปนมากับอาหารเหล่านั้นได้มาก รวมทั้งมีโอกาสแพ้โปรตีนที่มากับนมผสมหรืออาหารอื่นด้วย อาหารอื่นเหล่านี้รวมถึงน้ำด้วยนอกจากจะไปแย่งที่นมแม่แล้วยังทำให้ลูกอิ่มและดูดนมแม่น้อยลง แม่ก็จะสร้างน้ำนมได้น้อยลงและนมแม่ก็จะหมดไปในที่สุด
ขอขอบคุณความรู้จาก พญ.ศิราภรณ์ สวัสดิวร
Thanks to image from http://www.pitterpatter.com.my/wp-content/uploads/2012/07/mom-baby.jpg