“พระธรรมนำใจให้สว่างโศก” เพราะผู้ที่ดวงตาเห็นธรรมเท่านั้นจึงเข้าใจว่าธรรมะสามารถรักษาสภาพจิตใจเราได้ทุกอาการ ภาษาพระเรียกว่าปัจจัตตัง บางครั้งบางสิ่งบางอย่างที่เราๆท่านๆหลงยึดหลงถือก็นำมาซึ่งความเศร้าหมองแห่งจิตใจ บางสิ่งบางอย่างยิ่งไขว่คว้ายิ่งดูเหมือนห่างไกลและบางสิ่งบางอย่างยิ่งใส่ใจก็ยิ่งเจ็บปวด สัมผัสสุขแท้จริงและชีวิตอันประเสริฐที่เกิดขึ้นได้กับทุกคน เรามาสัมผัสกันว่าเซเลบริตี้รุ่นใหญ่ที่คร่ำหวอดในวงสังคมชั้นสูงแต่ละท่านน้อมนำหลักธรรมมาดำเนินชีวิตประจำวันอย่างไร
เริ่มจาก พล.ต.ต. อังกูร อาทรไผท เผยว่า “พอเพียง” ทุกคนมีสิ่งเริ่มต้นเหมือนกันคือตัณหา ถ้าไม่มีความทะเยอทะยานอยากแล้วทุกคนจะฝ่อหมด เมื่อตัณหาครอบงำแล้วทุกคนต้องพากเพียรขวนขวาย แต่เมื่อถึงจุดๆหนึ่งแล้วทุกคนก็หนีความจริงไม่พ้น เพราะทุกอย่างมีเกิดขึ้น ตั้งอยู่ ดับไปนั่นคือต้องตายในที่สุด ฉะนั้นแล้วก่อนกายจะดับต้องทำใจให้สงบ ต้องทำจิตให้มีสมาธิ หากไม่มีแล้วคิดเรื่องใดก็จะเกิดเป็นเรื่องนั้น” ทั้งนี้ พล.ต.ต.อังกูร ยังใจดียกตัวอย่างให้ฟังด้วยว่า “มีหญิงคนหนึ่งกังวลเรื่องแมว กลัวตนจากไปแล้วไม่มีใครเลี้ยงแมว เมื่อสิ้นลมหายใจแล้วตนก็ไปเกิดเป็นแมวเลย ฉะนั้นแล้วต้องสร้างนิมิตก่อนสิ้นลมให้สงบ ต้องพึ่งธรรมะ ทำบุญทานให้มากๆแล้วเมื่อเราจะจากโลกนี้ไป บุญกุศลจะนำพาให้เรานึกถึงแต่สิ่งที่เป็นกุศล ภาพที่เราทำบุญทำทาน จากนั้นเราจะจากไปอย่างสงบ…ทุกวันนี้ก็ยังมีลูกเด็กเล็กแดงที่เกิดขึ้นมาใหม่ และเกิดในสภาวะและครอบครัวที่แตกต่างกัน นั่นก็คือการตัดสินด้วยกรรมฉะนั้นต้องทำดีไว้” ทิ้งท้ายติดตลกไว้ด้วยว่า “พอหลังเกษียณก็เลยทำดีไว้”
ทางด้านศรีภรรยา สุพัฒนา อาทรไผท กล่าวว่า “ทำในสิ่งที่ดีที่สุดนะคะ ตั้งแต่เล็กๆก็จะชอบทำบุญ ทาน และสวดมนต์ก่อนนอนทุกคืน ทำจนมากระทั่งถึงบัดนี้นะคะ” ขณะนี้เธอดำรงตำแหน่งประธานสภาสตรีแห่งชาติในพระบรมราชินูปถัมภ์ก็มีโอกาสได้ช่วยเหลือประชาชนมากขึ้น ถือว่าเป็นสิ่งที่ควรแก่การนับถือเป็นตัวอย่างที่ดีแก่สังคมอย่างแท้จริง
พัฒพงษ์ ธนวิสุทธิ์ เจ้าของนิตยสาร HiSoParty และเว็บไซต์ HiSoParty.com ผู้ที่มีไลฟ์สไตล์ลักซูรี่ มีซุปเปอร์คาร์ไว้ในครอบครองจำนวนนับไม่ถ้วน ซึ่งวันดีคืนดีหยิบปากกาเขียนพ๊อกเก็ตบุคเชิงหลักธรรมะ สร้างความฮือฮาในสังคมชั้นสูงเป็นอย่างมาก กล่าวว่า“ผมได้ศึกษาธรรมะมาระยะหนึ่งแล้วทำให้มีความคิดที่เราอยากเปลี่ยนชีวิตเรา ชีวิตเดิมเป็นชีวิตที่มาจากตัณหา ชีวิตใหม่เป็นชีวิตที่มาจากพระธรรมคำสอนซึ่งบริสุทธิ์ สะอาด ปราศจากเหตุแห่งทุกข์ ยิ่งใช้ชีวิตยิ่งมีความสุขในทุกๆอิริยาบถทั้งกาย วาจาใจ ซึ่งถือเป็นคุณค่าจากพระธรรมคำสอนขององค์สมเด็จสัมมาพุทธเจ้า ที่เขียนหนังสือ I love ธรรมะ ก็เพื่อต้องการให้สังคมไทยนำพระธรรมมาใช้ในชีวิต สังคมจะมีแต่ความสุขเพราะธรรมะอยู่กับใจเราได้ตลอดเวลา พระธรรมคือปัญญาอยู่ที่ไหนก็มีทางตัน”
สุภี พงษ์พานิช กล่าวว่า “ดิฉันเป็นคนมีธรรมะในหัวใจ อาจไม่มีเวลาที่จะนุ่งขาวห่มขาว แต่เป็นคนจิตใจดี คิดดี ทำดีมาตลอด ไม่ถือโกรธใครง่ายๆเมื่อมีความไม่เข้าใจกันก็จะให้อภัยกัน คิดอยู่เสมอว่าเราต้องมีมิตรมากกว่าศัตรูและไม่ควรมีศัตรูเลย ฉะนั้นแล้วจึงเป็นสิ่งที่ทำให้ดิฉันได้พบได้เจอแต่คนดี น่ารักอยู่ตลอดเวลา สมมติว่าในครอบครัวพี่มีอะไรที่ไม่เข้าใจกัน ถ้าผิดก็จะขอโทษทันที ถ้าคุณสามีหรือคุณลูกผิดก็ต้องรู้ตัวต้องขอโทษกัน พวกเราจะเป็นเหมือนกันหมด ใครผิดต้องยอมรับผิด บางครั้งอาจไม่มีเจตนาแต่ทำให้ใครคนใดคนหนึ่งหงุดหงิดโดยไม่ตั้งใจ เมื่อเราได้กล่าวคำว่าขอโทษออกไปแล้ว อีกฝ่ายเขาจะรู้สึกปลอบโยนค่ะ” ที่แท้เคล็ดลับอยู่ที่ความเข้าใจกัน ความอะลุ้มอล่วยในครอบครัว คุณสุภีถึงได้อิ่มใจเกิดเป็นความสวยจากภายในมาสู่ภายนอก
ด้านสาวงามอมตะนิรันดร์กาลอย่าง “มาริษา ชิว” ที่เคียงคู่สามีตามงานสังคมอยู่ตลอดเวลา ถือเป็นแบบฉบับของครอบครัวอบอุ่นที่หาได้ยากยิ่งในสังคมไทยทุกวันนี้ กล่าวว่า “ดิฉันเป็นคนง่ายๆ สบายๆ เพราะว่าอะไรๆก็ไม่แน่นอนในชีวิตค่ะ เรื่องความทุกข์เชื่อว่าทุกคนมีนะคะ เพียงแต่ว่าเราจะเอาความผิดหวังหรืออุปสรรคอะไรพวกนี้มาแก้ไขด้วยตนเอง ไม่ต้องไปโวยวายกับใครค่ะ” เรียกได้ว่างามทั้งกายและใจ
หนุ่มหล่อ วสุ แสงสิงห์แก้ว กล่าวว่า “ธรรมะมีอยู่ในชีวิตประจำวันทุกคนรอบตัวอยู่แล้ว ไม่จำเป็นต้องปลงผมหรือปลีกวิเวก จริงๆแล้วธรรมะคือธรรมชาติที่คนเราสามารถหยิบยกมาปรับให้เข้ากับไลฟ์สไตล์ของแต่ละคนให้ได้ เพราะทุกวันนี้มีสิ่งเย้ายวนทั้งหลายและวัตถุนิยมก็มีมาก สำหรับผมใช้สติและความพอเพียง เมื่อไรเราคิดว่าพอเราก็จะมีความสุขขึ้นมาก มองเห็นสิ่งที่มีอยู่ให้มีค่า เมื่อไรที่เราพอเราจะรู้สึกแฮ๊ปปี้” แอบถามถึงเคล็ดลับความหล่อว่าทำอย่างไรถึงได้หล่อตลอดกาล เจ้าตัวตอบว่า “หามาสี่สิบกว่าปีแล้วยังหาไม่เจอสักที” ขนาดหาไม่เจอสาวๆเหลียวหลังกันให้คอเคล็ด ถ้าหาเจอสงสัยสาวๆต้องหาหมอกายภาพบำบัดเลยเห็นจะเป็นได้
เสี่ยใหญ่ สุทิน จิรมณีกุล เจ้าพ่อนาฬิกาผู้มีบุคลิกสุขุมนุ่มลึกกล่าวว่า “ธรรมะเป็นสิ่งที่ทุกวันนี้ทุกคนควรจะเรียนรู้มากขึ้นครับ” คุณสุทินกล่าถึงหลักธรรมที่ใช้ในการครองตน ครองคน ครองงานว่า “ผมใช้หลักขันติและมีคุณธรรม ขันติเป็นเครื่องกั้นแห่งกิเลสเครื่องเศร้าหมองทั้งมวล คุณธรรมเป็นเครื่องเตือนใจให้เราคิดดี ทำดี เข้าใจและเห็นใจผู้คนได้เป็นอย่างดีครับ”
ปิดท้ายด้วยเซียนหุ้นเบบี้เฟส กิติชัย เตชะงามเลิศ กล่าว “สังคมไทยเป็นสังคมที่มีความเป็นอยู่ร่วมกับธรรมะอยู่แล้ว จึงเป็นสังคมที่มีความเห็นอกเห็นใจ โอบอ้อมอารี สังคมไทยจึงอยู่ร่วมกันอย่างมีความสุขมานาน ในชีวิตประจำวันธรรมะถือเป็น common sense อยู่แล้ว เพราะธรรมะคือธรรมชาติ คนเราทำความดีมากกว่าทำเรื่องไม่ดีอยู่แล้ว ถ้านำหลักธรรมมาเพิ่มเข้าไปจะทำให้ใจเราเย็นขึ้น จะทำอะไรก็จะมีความละเอียดรอบคอบมากขึ้น จริงอยู่ที่ช่วงนี้อาจมีข่าวเกี่ยวกับพระที่ประพฤติตัวไม่เหมาะสมแต่นั่นคือส่วนน้อย อย่างไรก็ตามเราในฐานะที่เป็นฆราวาส เราประพฤติตนโดยใช้หลักธรรมแล้ว นอกจากจะทำอะไรเพื่อตัวเองแล้วยังคิดที่จะเผื่อแผ่ไปถึงสังคมได้อีกด้วย”
Interviewer : Porsche Kittisak K