“ในความเห็นของสุ เพลงลูกทุ่งไม่มีวันตายแน่นอน เพราะเพลงลุกทุ่งคือวัฒนธรรม แต่สิ่งที่น่าเป็นห่วงคือการเปลี่ยนแปลงของเพลงลุกทุ่งในส่วนรูปแบบ แน่นอนว่าสังคมที่เปลี่ยนแปลงไปทำให้เนื้อหาเปลี่ยนไปได้บ้าง สมัยนี้ถ้าจะร้องอธิบายภาพของบ้านทุ่งบ้านนา ‘มองลิบลิ่วแถวทิวพนา ใกล้ค่ำย่ำสนธยา หมู่ชาวนาก็เลิกจากงาน’คนคงไม่รู้สึกอินไปด้วยแล้ว เพราะฉะนั้นเนื้อหาของเพลงก็ต้องเปลี่ยนไปบ้างเพื่อให้ยังสามารถเชื่อมกับผู้ฟังได้ แต่สิ่งที่น่าตกใจมากคือเสน่ห์ของลุกทุ่งกำลังจะหายไป เพลงแบบที่เรียกว่าลูกทุ่งแท้กำลังหมดบทบาทแล้วถูกแทนที่ด้วยเพลงลูกทุ่งกึ่งสตริง ซึ่งในความรู้สึกของสุเพลงเหล่านี้มีอรรถรสน้อยมาก
ตอนนี้สุเป็นนักร้องอิสระ ไม่มีสังกัด รับงานเองทั้งหมด เพียงแต่ได้รับความเมตตาจากค่ายเมโทรทำเพลงให้อย่างค่อเนื่อง ความแตกต่างของนักร้องอิสระกับนักร้องมีสังกัดก็คือเมื่อเราตัวคนเดียว เราก็ต้องทำทุกอย่างเอง ดูแลตัวเองและอาจรวมไปถึงคนอื่นๆด้วย ในขณะที่ถ้ามีสังกัดคุณก็แค่ทำหน้าที่นักร้องให้ดีที่สุด ที่เหลือมีคนจัดการให้ แต่นั่นก็หมายความว่าคุณต้องร้องเพลงที่เขาเลือกให้ แต่งตัวแบบที่เขาอยากให้แต่ง ทำตัวอย่างที่เขาคิดไว้ให้ ซึ่งแน่นอนว่าอิสระมีน้อยกว่ามาก
การที่ใครสักคนจะเข้ามาเป็นนักร้องลุกทุ่งเป็นเรื่องยากมาก อาจจะต้องเริ่มจากพรสวรรค์เลยด้วยซ้ำ เพราะเสน่ห์ของลูกทุ่งอยู่ที่แก้วเสียง การเอื้อนและความสามารถในการสื่อสารอารมณ์ผ่านบทเพลง เคยมีคนมาให้สุช่วยเทรนด์การร้องให้ แต่สุก็บอกไปตามตรงเลยว่าเขาควรร้องเพลงแนวอื่น เพราะเขาไม่ได้สร้างมาเพื่อลูกทุ่ง”